Wednesday, September 29, 2010

อย่าผลัดไปทำพรุ่งนี้ หากทำในวันนี้ได้

อย่าผลัดไปทำพรุ่งนี้ หากทำในวันนี้ได้

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

Keywords: cw022, proverb, สุภาษิต, วิทยานิพนธ์, thesis, dissertation

มีสุภาษิตชาวเชคโกสโลวาเกียหนึ่งกล่าวว่า."Co můžeš udělat dnes, neodkládej na zítřek." ซึ่งแปลเป็นภาษาอังกฤษว่า “Never put off till tomorrow what you can do today.” ซึ่งในภาษาไทยมีความหมายได้ว่า อย่าผลัดไปทำพรุ่งนี้ หากทำในวันนี้ได้

ในภาษาอังกฤษมีคำว่า Procrastination แปลว่า การผัดวันประกันพรุ่ง ซึ่งเป็นอาการของคนขี้เกียจ พอจะเริ่มอะไรมักจะต้องมีเหตุที่ต้องเลื่อนออกไป ไม่สามารถเริ่มอะไรได้จริงจังสักที

ในการเรียนในระดับบัณฑิตศึกษา มีกิจกรรมที่ต้องทำก่อนจบการศึกษา เขาเรียกว่า วิทยานิพนธ์ ซึ่งหากเป็นระดับปริญญาโท เรียกในภาษาอังกฤษว่า Thesis หากเป็นในระดับปริญญาเอก เขาเรียกว่า Dissertation อันวิทยานิพนธ์นี้ เป็นเรื่องที่ผู้เรียนต้องดำเนินการเอง ตั้งแต่เริ่มคิดหาหัวเรื่อง (Title) การร่างข้อเสนอเพื่อจัดทำเป็นร่างข้อตกลงในการทำวิทยานิพนธ์ เรียกว่า Proposal ซึ่งต้องมีการนำเสนอต่อคณะกรรมการผู้ดูแลวิทยานิพนธ์ และเมื่อคณะกรรมการอนุมัติแล้ว ผู้เรียน ซึ่งมีฐานะเป็นผู้วิจัยต้องดำเนินการลงภาคสนาม หรือจะทำงานต่อเนื่องตามข้อตกลง และระหว่างนั้นก็ต้องไปพบกับอาจารย์ที่ปรึกษาและหรือคณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์

โดยลักษณะกิจกรรมนี้ ผู้เรียนต้องเป็นหลักในการดำเนินการไปตามที่ได้วางแผนไว้ และถือเป็นการเรียนในแบบผู้ใหญ่ ผู้เรียนจะต้องรับผิดชอบตนเองไปตั้งแต่ต้นจนจบการศึกษา พร้อมสอบเมื่อใด ก็ปรึกษากับอาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อขอสอบที่เขาเรียกว่า Defending คือเราต้องเสนอความคิด แล้วมีคนซักถาม หรือซักค้าน จนแน่ใจว่าเราเป็นผู้รู้ ได้ทำงานอย่างมีคุณค่าตามที่ได้ตกลง

แต่อย่างไรก็ตาม ทุกมหาวิทยาลัยจะพบว่า มีคนที่เรียนตามหลักสูตรจำนวนมากครบถ้วนแล้ว แต่ไม่ได้ทำวิทยานิพนธ์จนจบการศึกษา เขาเรียกว่า ABD คือ All But Dissertation

ท่านนักศึกษาทั้งหลาย พึงอย่าทำตนเป็นคนผัดวันประกันพรุ่ง หากท่านต้องการที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต ท่านจะต้องลุกขึ้นมาทำงานต่างๆที่จำเป็น อย่าได้รอช้า หากมีเวลาที่จะทำ ก็ต้องพยายามจัดการกับเวลาให้สามารถทำงานที่จำเป็นให้ลุล่วงไป

ไม่มีเค๊กหากไม่ทำงาน

ไม่มีเค๊กหากไม่ทำงาน

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

Keywords: cw022, proverb, สุภาษิต, ความขยันหมั่นเพียร

มีสุภาษิตชาวเชคหนึ่งกล่าวว่า "Bez práce nejsou koláče." ซึ่งในภาษาอังกฤษเขาเขียนว่า “There are no cakes without work.” ซึ่งในภาษาไทยแปลอย่างตรงตัวว่า ไม่มีเค๊กหากไม่ทำงาน

เค๊ก (Cake) เป็นขนมหวาน เป็นสัญญลักษณ์รางวัลที่เด็กๆจะได้รับ

ผมอยากจะพูดถึงเด็กไทยรุ่นใหม่ ประเทศไทยมีเด็กเกิดในแต่ละปีประมาณ 800,000 คน ซึ่งได้ลดลงจากที่สูงสุดต่อปีที่ 1.3-1.4 ล้านคน คนไทยได้เริ่มตระหนักถึงปัญหาประชากรล้นโลก จึงได้เริ่มมีการวางแผนครอบครัวในยุคประมาณเมื่อ 30-40 ปีที่ผ่านมา เป็นผลให้ราสามารถคุมการเกิดของประชากรใหม่ได้ เป้าหมายของการมีลูกครอบครัวละไม่เกิน 2 คนถือเป็นเกณฑ์ที่คนไทยปฏิบัติกันอย่างกว้างขวาง เมื่อมีเด็กน้อยเวลาและทรัพยากรที่จะมีให้กับเยาวชนก็มีมากขึ้น

แต่การที่มีทรัพยากรและเวลาสำหรับเด็กมากขึ้น อาจไม่ได้ทำให้เราเลี้ยงดูเด็กลูกหลานของเราได้ดีขึ้น เพราะมีเป็นอันมากที่เลี้ยงดูลูกอย่างผิดๆ อย่างที่เรียกว่า รักลูกไม่ถูกทาง คอยประคบประหงมมากเกินไป ไม่ได้ให้เขามีโอกาสได้ใช้ชีวิตที่ต้องดิ้นรนต่อสู้ ไม่ปล่อยให้เขาได้ต่อสู่กับความยากลำบาก ความผิดหวัง ลูกอยากได้อะไรก็มีให้ เมื่อมองเห็นการศึกษา ก็พยายามให้ลูกได้รับการศึกษาในห้องเรียนแบบที่คิดว่าดีที่สุด เรียนสูงเพียงใดก็จะสนับสนุน แต่ไม่ได้ให้ประสบการณ์การศึกษาในชีวิตจริง ไม่ได้เตรียมตัวเขาสำหรับโลกของการงาน ทำงานไม่เป็น ทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานไม่ได้ ทำอะไรแล้วหากต้องใช้ความพยายามพิเศษ ก็จะเลิกราโดยไม่พยายามอีกอย่างจริงจัง หากการเลี้ยงดูของเรานำเขามาสู่จุดนี้ เขาจะประสบความล้มเหลวในชีวิตต่อไปได้มาก แม้จะเรียนหนังสือมามาก ก็จะเข้าลักษณะว่า ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด

ดังนั้น พึงยึดสุภาษิตที่ว่า ไม่มีเค๊กหากไม่ทำงาน นั่นคือต้องให้เด็กๆได้เรียนรู้ที่จะทำงานเพื่อแลกเปลี่ยนกับรางวัล ในสมัยก่อนๆ แม้พ่อแม่ชนชั้นกลางของอเมริกัน มีฐานะ แต่เขาจะส่งเสริมให้ลูกๆได้ไปหางานทำเอง มีรายได้ ก็ให้เก็บไว้เป็นค่าขนม ค่าใช้จ่ายส่วนตัว และเมื่อโตขึ้นจบมัธยมศีกษา ก็ต้องหาเงินเพื่อเรียนหนังสือในมหาวิทยาลัยเองส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลือ พ่อแม่จึงจะสบทบจ่ายให้ เขาทำเช่นนี้เพื่อให้เด็กๆที่เติบโตมาได้ภูมิใจกับแรงงาน ความพยายาม และความสำเร็จของตนเอง

ในประเทศไทย ลูกคนไทยเชื้อสายจีนในสมัยก่อน เขาจะสอนลูกๆให้รู้จักช่วยพ่อแม่ประกอบอาชีพ กลับจากโรงเรียนก่อนทำการบ้าน ก็ต้องไปช่วยพ่อแม่ขายของ หยุดเสาร์อาทิตย์ก็หาเวลาช่วยพ่อแม่ทำงาน ทำงานไปด้วย ทำการบ้านไปด้วย หากพ่อแม่ไปทำงานนอกบ้าน ก็ต้องให้ลูกๆได้ช่วยทำความสะอาดบ้าน ซักเสื้อผ้า ทำกับข้าว หุงหาอาหาร เขาจะสอนให้เด็กๆได้รู้คุณค่าของเงิน มิได้หมายความว่าสอนให้เป็นคนงกเงิน แต่ต้องรู้ว่าสิ่งของต่างๆที่จะได้นั้น มันต้องเกิดจากน้ำพักน้ำแรงของคนทำงาน และให้ภูมิใจกับน้ำพักน้ำแรงของตน เหมือนกับสุภาษิตชาวเชคโกสโลวาเกียที่ว่า ไม่มีเค๊กหากไม่ทำงาน

นักการเมืองไทย ระวังจะเสียเพราะผู้หญิง

นักการเมืองไทย ระวังจะเสียเพราะผู้หญิง

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

Keywords:cw022, proverb, สุภาษิต

Man is harder than iron, stronger than stone and more fragile than a rose. ~Turkish Proverb

มีสุภาษิตชาวตุรกีหนึ่งกล่าวว่า "ผู้ชายนั้นแข็งกว่าเหล็ก แกร่งกว่าหิน แต่แล้วก็อ่อนไหวเสียยิ่งกับดอกกุหลาบ" ดอกกุหลาบในที่นี้หมายถึงเรื่องของความสวยความงาม หรือสตรีนั้นเอง

คำสอนสุภาษิตนี้เพื่อเตือนใจชาย เพราะในความแข็งแกร่งนั้น มีส่วนที่เปราะบางซ่อนอยู่

ในเรื่องเล่าในคริสต์ศาสนา แซมซั่น แม้จะแข็งแรงพอ สามารถฆ่าสิงโตได้ด้วยมือเปล่า แต่ท้ายสุด ก็ต้องเผยความลับแก่สตรีอย่างเดไลล่า อันนำมาซึ่งหายนะของเขา

ในอเมริกา มีนักการเมืองที่มีอนาคตมากหลายที่ต้องจบชีวิตการเมืองลงด้วยเรื่องเกี่ยวกับสตรี เขาจึงเตือนกันให้ต้องระวังเรื่องนี้ และในบางกรณีดังเช่นอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน (Bill Clinton) ที่มีเรื่องอื้อฉาวกับนักศึกษาฝึกงานในทำเนียบขาว ก็ทำให้แทบจะจบชีวิตการเมืองอย่างเศร้าทีเดียว และที่สำคัญทำให้เสียโอกาสที่จะทำงานด้านการเมืองได้อย่างเต็มที่

ในการเมืองไทย เขาตีกันด้วยเรื่องอื่นๆไม่ได้ แต่ท้ายสุดเขาอาจโจมตีกันด้วยเรื่องในครอบครัวหรือเรื่องสตรี จึงกล่าวได้ว่า หากจะก้าวหน้าในทางการเมือง ก็ต้องรู้จักรักษาเนื้อรักษาตัว เป็นคนรักครอบครัว มีความอบอุ่นในชีวิตคู่อย่างที่ควรจะเป็น

Tuesday, September 28, 2010

คุณสมบัติของรถยนต์ขนาดเบา

คุณสมบัติของรถยนต์ขนาดเบา

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

Keywords: รถยนต์ไฟฟ้า, electric car, ev.

รถยนต์ขนาดเบาพิเศษ Ultra-light design by IWK นับเป็นแนวคิดการออกแบบรถยนต์ที่น่าสนใจ ซึ่ง IWK ได้กำหนดคุณสมบ้ติรถยนต์ไฟฟ้าของเขามีลักษณะดังนี้

1. แบตเตอรี่ที่จะใช้สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Cars) ต้องมีคุณสมบัติอายุการใช้งานที่คงทน ใช้ได้หลายปี

2. สามารถใช้งานวิ่งเป็นระยะทางที่ยาวไกลพอ ก่อนที่จะต้องชาร์ตไฟครั้งต่อไป

3. ราคาต้องไม่แพง ซึ่งต้องเทียบได้กับราคารถระดับประหยัดในปัจจุบัน ซึ่งปัญหาของการออกแบบรถยนต์ให้เป็นที่ยอมรับในปัจจุบัน คือปัญหาด้านราคา อ้นเนื่องมาจากราคาแบตเตอรี่ทั้งยังคงสูงอยู่

4. สำหรับรถยนต์ต้องรับผู้โดยสารผู้ใหญ่ได้ 2 คน และเด็กอีก 2 คน

5. มีน้ำหนักตัวรถไม่เกิน 200 กิโลกรัม แบตเตอรี่หนักไม่เกิน 50 กิโลกรัม เมื่อบรรทุกคนและสิ่งของเต็มพิกัดแล้วหนักไม่เกิน 550 กิโลกรัม

6. ขนาดยาว 244 ซม. กว้าง 132 ซม. เพียงพอสำหรับไหล่ชนไหลของคนสองคน ความสูง 149 ซม. สูงพอทำให้เข้านั่งหรือออกจากรถได้อย่างสะดวก

7. พลังงานจากมอเตอร์ 2 ตัว ขนาด 2X3.5 kW สามารถขับเคลื่อนให้วิ่งได้ที่ความเร็วสูงสุด 60 km/h

8. ลักษณะการเก็บพลังงานไฟฟ้า ใช้ Li-Mn Batteries ขนาด 72V/ 95Ah

9. ระยะทางขับขี่ไปได้ไกล 100 km ซึ่งการจะวิ่งไปได้ในระยะไกลนั้น ก็จะต้องมีน้ำหนักตัวที่เบา ทำให้ไม่ใช้พลังงานแบตเตอรี่มากจนเกินไป

Monday, September 27, 2010

ชุดประกอบจักรยานไฟฟ้า (Electric Bicycle)

ชุดประกอบจักรยานไฟฟ้า

ชุดประกอบจักรยานไฟฟ้า (Electric Bicycle)

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

Keywords: E-bike, pedelec, electric bike, electric bicycle, พลังงาน

สำหรับท่านที่สนใจที่จะพัฒนาจักรยานไฟฟ้า (Electric bicycle) ขึ้นใช้และเพื่อเรียนรู้ระบบบางอย่าง ท่านสามารถสั่งซื้อชิ้นส่วนต่างๆจากต่างประเทศ เพื่อนำมาประกอบเอง โดยบางส่วน เช่นตัวถึงจักรยาน สามารถใช้สินค้าที่มีอยู่แล้วในประเทศได้

600 Watt Hub Drive Conversion Kit รวมล้อหน้าด้วย แต่ต้องระบุขนาด

ราคา USD599, หรือ 19,168 บาท รายละเอียด (Specifications) ราคาสินค้า หากสืบหาจากบริษัทผู้ผลิตโดยตรงในประเทศจีนแล้วนำเข้าอาจถูกกว่านี้ สินค้าประกอบด้วย

มอเตอร์ให้พลังขับเคลื่อน (Motor Power) 400 Watt, 36 Volt DC, ระบบมอเตอร์แบบ Gearless, Brushless, Hub Motors

แบตเตอรี่แบบ Sealed, Lead-Acid Gel-Cell Batteries, -12 Volt DC, 12 Amp Hour Batteries (x3)

ระบบออกตัวนิ่มนวล (Adjustable Soft-Start Technology)

ใช้ได้กับวงล้อขนาด -16, 20, 24 or 26 inch Front Tire with Front Wheel Drive

ความเร็วสูงสุด (Top Speed) 20+ mph, ระยะวิ่งได้ต่อการชาร์ตไฟ 1 ครั้ง (Average Range (Distance) per Charge: 20+ miles หรือ 36 กิโลเมตร

ระยะเวลาที่ใช้ในการชาร์ตไฟ (Average Recharge Time) 4-6 hours, ระบบชาร์ตไฟแบบ Automatic Smart Charger: 1.5 Amp@36vdc

น้ำหนักบรรทุก (Payload Capacity) 300+ lbs. (U.S. Pounds), น้ำหนักคันรถ (Gross Weight of Kit) 36 lbs.

สามารถเสริมแบตเตอรี่ได้ (Extended Battery Packs Also Available)

ติดต่อได้ที่ ELECTRIK MOTION, Your Electric Vehicle Headquarters, Call 866-ESCOOTR TOLL FREE

Sunday, September 26, 2010

สู่ความเป็นนานาชาติของการอุดมศึกษาไทย

สู่ความเป็นนานาชาติของการอุดมศึกษาไทย

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

การพัฒนาการศึกษาไทยในระดับอุดมศึกษาเพื่อการก้าวสู่ความเป็นนานาชาติ มีประเด็นดังต่อไปนี้

1. การพัฒนาการเรียนการสอนด้านภาษาอังกฤษ (International Languages) ทำให้นักศึกษามีความเข้มแข็งในการใช้ภาษาต่างประเทศ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษให้มีความเข้มแข็งขึ้น สื่อสารกับโลกภายนอกได้

2. การเปิดสอนในหลักสูตรการเรียนการสอนที่ใช้ภาษาอื่นๆที่ไม่ใช่ภาษาท้องถิ่น (ไม่ใช่ภาษาไทย) เป็นสื่อกลางในการเรียนการสอน (Medium of Instruction) ในกรณีเช่นนี้อาจไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นภาษาอังกฤษ ยกตัวอย่างในปัจจุบันมีความสนใจในการค้าขายกับประเทศจีน ซึ่งมีประชากรกว่า 1300 ล้านคน มีเศรษฐกิจเป็นอันดับสองของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา ความสนใจที่จะเรียนรู้ภาษาจีนมีมากขึ้น

3. การทำให้นักศึกษาในมหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง มีนักศึกษาที่ไม่ใช่คนในท้องถิ่น หรือชาตินั้นๆ เป็นนักศึกษาที่มาจากชาติอื่นๆ อาจมาเรียน โดยใช้ หรือไม่ใช้ภาษาในท้องถิ่นนั้นๆ (International Student Body) ดังในกรณีของประเทศสหราชอาณาจักร มีนักศึกษาต่างชาติเข้ามาศึกษาเป็นจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศของการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยมีความเป็นสากล

4. การทำให้มหาวิทยาลัยได้รับความยอมรับในระดับระหว่างชาติ (Internationally Recognized Programs/ Institutions) ทำให้มีการโอนย้ายหน่วยกิต หรือนักศึกษาข้ามมหาวิทยาลัย ข้ามประเทศกันได้

5. การทำให้นักศึกษา คณาจารย์ และประชาชนโดยรวม มีทัศนคติที่ดีต่อสังคมนานาชาติ เข้าใจและใช้ประโยชน์จากความเข้าใจโลกภายนอก นอกเหนือจากความเป็นสังคมในชาติของตน

ความหมายของการศึกษานานาชาติ

ความหมายของการศึกษานานาชาติ

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

ศึกษาจาก Wikipedia

การศึกษานานาชาติ (International Education) มีความหมายที่แตกต่างกัน หากเน้นที่ตัวผู้เรียนเป็นสำคัญ ส่วนหนึ่งหมายถึงการศึกษาต่อในต่างประเทศ หรือเรียกว่า Study abroad ในความหมายที่สองที่กว้างและลึกขึ้น คือ คือการจัดการศึกษาที่หวังให้ตัวผู้เรียนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมกับโลกภายนอกที่มีส่วนเชื่อมโยงต่อกัน (Interconnected world)

การศึกษานานาชาติเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ วัฒนธรรม ( cultures), ภาษา (languages), สภาวะแวดล้อม (environmental situations), รัฐบาล (governments), ความสัมพันธ์ทางการเมือง (political relations), ความสัมพันธ์ทางศาสนา ( religions), ทางภูมิศาสตร์ (geography), และประวัติศาสตร์โลก ( history of the world) ซึ่งโดยรวม การศึกษานานาชาติจัดได้เป็นอย่างน้อย 5 ประเด็นดังต่อไปนี้

1. ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโลก และวัฒนธรรม (Knowledge of other world regions & cultures)

2. การสร้างความคุ้นเคยเกี่ยวกับความเป็นนานาชาติและโลก (Familiarity with international and global issues)

3. การพัฒนาทักษะในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในโลก ในสภาพแวดล้อมที่ข้ามวัฒนธรรม และการใช้ข้อมูลข่าวสารที่มาจากแหล่งต่างๆที่มีอยู่ในโลก (Skills in working effectively in global or cross-cultural environments, and using information from different sources around the world)

4. ความสามารถที่จะสื่อสารได้หลายภาษา (Ability to communicate in multiple languages) และ

5. การพัฒนาบุคคลให้มีความเคารพและสำนึกถึงคนชาติและวัฒนธรรมอื่นๆ นอกเหนือจากของตน (Dispositions towards respect and concern for other cultures and peoples)

ระบบบริการแบบเปิด - เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาสำหรับโรงเรียนในสหราชอาณาจักร

ระบบบริการแบบเปิด - เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาสำหรับโรงเรียนในสหราชอาณาจักร

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

ศึกษาและเรียบเรียงจาก “Open Services: Sustainable ICT for UK Schools” เสนอโดย Admin on Fri, 17/09/2010 - 10:26am

การใช้บริการแบบเปิด (Open Services)

การพัฒนาการเรียนการสอนโดยใช้บริการระบบเปิด (Open services) และเนื้อหาแบบเปิด (Open content) ในโรงเรียนไปจนถึงในระดับท้องถิ่น ผู้บริหารระดับสูงของ NWLG CEO Gary Clawson on ได้ให้ทัศนะว่าสามารถประหยัดเงินไนการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาได้กว่าร้อยละ 25 ได้อย่างง่ายๆ และหากมีการปรับรูปแบบให้เหมาะสมอย่างจริงจังที่จะใช้ ICT เพื่อการศึกษา ก็จะประหยัดเงินได้เป็นร้อยละ 30-35 และในการทดลองใช้ในโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษา อันมีโรงเรียนมัธยมศึกษา 20 แห่ง และโรงเรียนประถมศึกษา 120 แห่ง ทั้งหมดนี้จะประหยัดเงินได้ 1.4 ล้านปอนด์ หรือ 70 ล้านบาทไทย

ทั้งนี้เพราะในประเทศสหราชอาณาจักรและในยุโรปต้องใช้ซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์ที่มีค่าใช้จ่ายด้านลิขสิทธิ์ทางปัญญาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

แนวทางแรก คือการลองตรวจสอบค่าลิขสิทธิ์ในการในการใช้บริการซอฟต์แวร์ เนื้อหา และระบบที่ต้องจ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์ทางปัญญา เมื่อเทียบกับเมื่อใช้ระบผลิตภัณฑ์ที่เป็นแบบเปิด (Open source products)

การหันมาใช้การเรียนในระบบ Open Source อย่าง Moodle/ National Digital Resource Bank ซึ่งง่ายที่จะใช้ ระบบจัดการเรียนการสอนออนไลน์ที่ต้องจ่ายเงินก็มีเช่น BlackBoard แต่ระบบที่เป็น Open Source นั้นมีหลายรายการที่จัดทำขึ้นในระบบเปิด หรือมีการปรับปรุงให้ใช้งานได้ง่ายๆ เบาๆเองก็ทำได้

ลองเปรียบเทียบระบบเมื่อต้องใช้ Microsoft Office ซึ่งต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ กับให้นักเรียนหันมาใช้ Open Office at home

สร้างและใช้ edubuntu/Openeducation ในระดับทั้งครูและนักเรียน โดยเน้นในระดับเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต (Desktop) จัดทำเป็นระบบ CD/Disk แล้วเผยแพร่ให้นักเรียนนำไปใช้ได้ที่บ้าน

ในการใช้งานค้นหาในอินเตอร์เน็ต เรามี Web Browser อย่าง Firefox ที่จะใช้งาน และมีระบบ Google ที่จะค้นหาข้อมูล โดยไม่ต้องอาศัย MS Internet Explorer

ในระบบสืบค้นข้อมูล ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ เราสามารถใช้งาน Google

ในระบบสารานุกรม เราสามารถใช้ Wikipedia (www.wikipedia.org ) ทั้งที่เป็นภาษาอังกฤษที่มีฐานข้อมูลมากมาย และมีการสร้างฐานข้อมูลเพิ่มมากขึ้นเป็นภาษาไทย และรวมถึงภาษาอื่นๆ ที่จะใช้เป็นเนื้อหาสาระเพื่อการเรียนการสอนได้

หากต้องการใช้เนื้อหาที่เป็น VDO เราสามารถฝากงานไว้ใน YouTube ทำเป็น VDO clip เพื่อการศึกษา แล้วให้ผู้เรียน/ผู้สอนเรียกใช้ได้ หรือหากทำในวงกว้าง อาจหาเจ้าภาพ มูลนิธิในประเทศจัดตั้ง Server กลางขึ้น เพื่อเรียกใช้ข้อมูลร่วมภายในประเทศ เพื่อลดการพึ่งพาเครือข่ายที่ต้องไปใช้ฐานข้อมูลใน server ที่ตั้งในต่างประเทศ

ทั้งนี้หมายความว่า ประเทศไทยต้องพัฒนาระบบเครือข่ายทั้งแบบสายและไร้สายรองรับ (Wired and Wireless) ตลอดจนเทคโนโลยีใหม่ที่อาศัยระบบส่งสัญญาณในแบบ Cellular ดังเช่นระบบ 2G, 3G, และต่อไปอาจเป็น 4G ที่ให้บริการได้ด้วยผ่านระบบเครื่องคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ทั้งแบบพกพา แบบกระเป๋าหิ้ว (Laptop) และในเครื่องขนาดเล็กราคาไม่แพง อย่างเช่น Netbook, iPad, E-Pad เป็นต้น

ในเรื่องนี้ หากเขตพื้นที่การศึกษาของไทย (Education Service Areas – ESAs) มหาวิทยาลัย และส่วนงานด้านการศึกษาต่างๆ ได้ร่วมกันพัฒนาเนื้อหาสาระในระบบเปิดที่มีในภาษาไทยให้เพิ่มมากขึ้น ระบบก็จะมีความสมบูรณ์และเพียงพอเพิ่มมากขึ้น

ตรวจสอบดูประสิทธิภาพการใช้งาน และให้มีการปรับปรุงระบบฮาร์ดแวร์และปรับซอฟต์แวร์ที่เขาต้องมีการปรับปรุง (Updated) เป็นระยะในระบบออนไลน์

The report is online at http://www.nwlg.org/downloads/docs/papers/openservices.pdf

Sunday, September 19, 2010

ความรักแบบเด็กๆ (Puppy love)

ความรักแบบเด็กๆ (Puppy love)

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

เก็บความจาก wikipedia, the free encyclopedia

Puppy love ไม่ได้แปลว่ารักลูกหมา แต่เป็นการเรียกความรักครั้งแรกๆของเด็กและวัยรุ่น เป็นความรักและผูกพันเหมือนแบบที่ลูกหมา (puppy) มีกับเรา ในความหมายเช่นนี้สำหรับผู้ใหญ่แล้วมองเหมือนกับการเปลี่ยนผ่าน เพราะความรักของเด็กๆนั้นส่วนใหญ่ก็จะไม่ได้สืบต่อมากลายเป็นความรักอย่างที่หนุ่มสาว หรือผู้ใหญ่จะมีต่อกัน อย่างที่เขาเรียกว่า romantic love

แต่ก็มีเหมือนกันที่เด็กๆและวัยรุ่นจะจริงจังและผูกพัน และเมื่อผู้ใหญ่ห้ามปราม ก็จะเกิดความรู้สึกโกรธ ผิดหวัง หรือแม้แต่ทำร้ายตัวเอง หรือการฆ่าตัวตาย ซึ่งก็มีเกิดขึ้นในบางครั้งอย่างคาดไม่ถึง ดังนั้นผู้ใหญ่ พ่อแม่พึงเข้าใจความรู้สึกของเด็กๆ ต้องรู้ว่าควรจะปล่อยอย่างไร และควรจะให้คำปรึกษาแนะนำอย่างไร เมื่อถึงเวลาทีจะต้องให้คำปรึกษา หรือเป็นที่พึ่งทางใจในยามที่เขาผิดหวังและต้องการคำปรึกษา

Friday, September 17, 2010

ความตื่นตัวในรถยนต์ไฟฟ้า

ความตื่นตัวในรถยนต์ไฟฟ้า

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

เรียบเรียงจาก “Inside the Electric-Car Explosion” September 16, 2010, เป็นผลการวิเคราะห์โดย GLG Expert Contributor

ความตื่นตัวที่จะใช้รถไฟฟ้า (Electric car, EV) ได้เกิดขึ้นทั่วไป ทำให้บริษัทรถยนต์ค่ายต่างๆต้องหันมาคิดค้นและประดิษฐ์รถยนต์ไฟฟ้าแข่งกัน

ค่ายรถยนต์เยอรมัน BMW หรือ Bavarian Engine works ได้ใช้ตัวถังโครงสร้างรถอังกฤษมีชื่อ คือ Austin Mini อันเป็นรถยนต์ขนาดเล็ก ประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยมอยู่แล้ว มาทำเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ชื่อว่า MINI E, 612

ในสหรัฐอเมริกามีคนอเมริกันมากกว่า 14,000 คน ได้จองรถยนต์ไฟฟ้าญี่ปุ่น Nissan Leaf ขนาดเท่าๆกับ Tiida ที่มีวิ่งในประเทศไทย และไม่เกินสิ้นปี ค.ศ. 2010 ก็จะมีรถเหล่านี้มาวิ่งบนถนนของอเมริกา

มีค่ายรถยนต์อื่นๆที่ตามมา ดังเช่น

ค่ายฝรั่งเศส มีรถ Peugeot iOn, Citroën C-ZERO ที่จะเปิดตัวเป็นรถยนต์นั่งไฟฟ้าขนาดเล็ก ซึ่งคือตัวเดียวกับรถยนต์ค่ายความร่วมมือญี่ปุ่น คือ Mitsubishi’s I-MiEV

ส่วนค่ายรถยนต์ฟอร์ด (Ford Motors) จะเปิดตัวรถไฟฟ้าในปี ค.ศ. 2011

ค่าย GM หรือ General Motors เจ้าของแนวคิดรถยนต์ไฟฟ้าลูกประสม Chevrolet Volt และในยุโรปและบางประเทศจะใช้ชื่อว่า Vauxhall/Opel Ampera ซึ่งจะเป็นแนวคิดมีเครื่องยนต์ขนาดเล็กไว้ปั่นไฟฟ้าเพื่อส่งไปยังมอเตอร์เพื่อขับเคลื่อนรถยนต์ พร้อมทั้งมีแบตเตอรี่สำหรับสำรองไฟ อัดไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) แนวคิดนี้จะมีการขยายผลนำมาใช้ในรถ Jaguar โดยมีบริษัท Lotus เป็นฝ่ายออกแบบเครื่องยนต์

เนื่องจากแบตเตอรี่ที่จะใช้สำรองไฟในรถยนต์ไฟฟ้าจะมีน้ำหนักมาก บางคันมีน้ำหนักแบเตอรี่ถึง 700 ปอนด์ จึงมีการคิดค้นที่จะทำให้ส่วนประกอบรถยนต์อื่นๆ ทั้งโครงสร้างและตัวถังมีน้ำหนักเบาโดยใช้วัสดุที่เรียกว่า Carbon fibre

ค่ายรถโฟล์คสวาเกน (VW) จะใช้รถยนต์ Golf ซึ่งเป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่เป็นที่นิยมทั่วโลก และผลิตออกมาเป็นรุ่นที่ 7 แล้ว เพื่อเป็นโครงสร้างรถยนต์ไฟฟ้าที่จะผลิตออกสู่ตลาดได้คาดว่าในราว ค.ศ. 2012-2014

ในสหรัฐอเมริกา ได้มีความพยายามส่งเสริมในสองระดับ คือส่งเสริมทั้งบริษัทผู้ผลิต และส่งเสริมด้วยการลดหย่อนภาษีผู้ใช้รถไฟฟ้า ซึ่งรวมเป็นเงินประมาณ USD 25,000,000,000 ซึ่งเงินนี้จะใช้ไปเพื่อไปช่วยค่าแบตเตอรี่รถไฟฟ้าที่เป็นอันมากจะใช้ Lithium-ion

ในประเทศสหราชอาณาจักรได้ใช้มาตรการส่งเสริมทำให้ราคารถลดลงร้อยละ 25 หรือเป็นเงินประมาณ 5,000 ปอนต์สำหรับผู้ซื้อ 8,600 คนแรก ส่วนในรัฐแคลิฟอร์เนียที่กังวลกับปัญหามลพิษทางอากาศ มีส่วนลดภาษีให้ผู้บริโภคอีกคันละ USD 5,000

ในยุโรปเหนือ รถยนต์ตระกูล Norway ชื่อ THINK ได้บุกเบิกเรื่องรถยนต์ไฟฟ้ามากว่าสองทศวรรษ ปัจจุบันได้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าโดยใช้แบตเตอรี่แบบ Lithium-ion และหวังว่าระบบขับเคลื่อนของรถยนต์ฟ้า หรือที่เรียกว่า Power-train ที่บริษัทได้คิดค้นมานั้น จะได้มีบริษัทยักษ์ใหญ่นำไปใช้

ในแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา แดนผู้บุกเบิกด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ได้มีบริษัทตั้งใหม่ ชื่อ Tesla Motors ได้ใช้แบตเตอรี่แบบ Lithium-ion และใช้โครงสร้างรถสปอร์ต Lotus โดยใช้แบตเตอรี่เทียบเท่ากับที่ใช้ในเครื่องคอมพิวเตอร์แบบกระเป๋าหิ้ว 6,831 เครื่องมาประกอบเป็นแหล่งพลังของรถยนต์ไฟฟ้า

แม้จะไม่ได้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าออกสู่ตลาดในขนาดกว้างขวางจนพอที่จะสร้างกำไร แต่เทคโนโลยีของ Tesla ก็ทำให้บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ตัวจริงของโลก คือ Toyota ได้เข้ามาถือหุ้น USD 50 ล้าน แล้วยังมีบริษัทรถหรูอย่าง Daimler เข้ามาร่วมเป็นหุ้นส่วนอีกราย สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทที่จะออกสู่ตลาดในวงกว้างด้วยราคาที่ลดลงเหลือคันละ USD 49,900 เรียกว่า Tesla Model S Saloon ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะได้นำมาใช้ในรถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์ (SUV) Toyota RAV4 คาดว่าในกลางปีนี้ Tesla Motors จะระดมเงินในตลาดหลักทรัพย์ได้อีกกว่า USD 200 ล้าน

ค่ายรถไฟฟ้าที่เป็นคู่แข่งของ Tesla คือ Fisker Automotive ได้พัฒนารถยนต์ไฟฟ้าแบบหรู รถยนต์ไฟฟ้า Fisker Karma ได้ใช้โรงงานเก่าของฟอร์ดและมีนักออกแบบสำคัญจากรถสปอร์ตหรู Aston Martin พัฒนารถยนต์ไฟฟ้าแบบ Sports saloon ที่จะออกสู่ตลาดได้ในราคาคันละ USD 87,900 แล้วจะตามมาด้วยรถในราคาที่ถูกกว่าสำหรับตลาดกว้าง โดยจะมีฐานผลิตที่ Wilmington

แบตเตอรี่นับเป็นหัวใจความสำเร็จของรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต ซึ่งมีโจทย์ยากที่ต้องทำให้สำเร็จ คือ ต้องมีน้ำหนักตัวที่เบาลง สามารถจัดเก็บพลังไฟฟ้าได้อย่างหนาแน่นให้พลังงานได้ต่อเนื่องยาวนานในการอัดครั้งเดียว ต้องมีราคาที่ถูกลง ด้วยเหตุดังกล่าว ประเทศที่มีเทคโนโลยีหรือเป็นฐานผลิตแบตเตอรี่ให้กับเครื่องโทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์กระเป๋าหิ้วและพกพาทั้งหลายจึงมีความได้เปรียบในการเดินต่อไปทางด้านแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ดังบริษัท LG Chem ของเกาหลี จึงได้ทำงานร่วมกับบริษัท A123 ที่มีฐานอยู่ที่เมืองบอสตันในสหรัฐ บริษัท Daimler ได้ลงทุนกับบริษัท Li-Tec และบริษัทรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ในการพัฒนาแบตเตอรี่ไฟฟ้าป้อนให้กับค่ายรถยนต์ความร่วมมือ ส่วนค่ายรถยนต์โฟล์คสวาเกน (VW) ได้ร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์กระเป๋าหิ้ว BYD ของจีน บริษัทดังกล่าวมีเงินลงทุนจากมหาเศรษฐีติดอันดับของโลก คือ Warren Buffett

ราคาของแบตเตอรี่สำหรับใช้ในรถยนต์ไฟฟ้ายังเป็นตัวแปรสำคัญ ในรถยนต์ไฟฟ้า Nissan Leaf ที่ทำให้ถูกที่สุดแล้วนั้น ค่าแบตเตอรี่มีราคาประมาณ 15,000 ปอนต์ หรือ 720,000 บาท ซึ่งยังนับว่าสูงมาก และจะต้องผลักด้นให้ราคาส่วนแบตเตอรี่นี้ลดลงมาเหลือร้อยละ 25 ของราคาดังกล่าว หรือประมาณ 180,000 บาทไทย

เพราะราคาแบตเตอรี่ที่ยังสูงมากนี้ มีแนวโน้มที่จะลดลง จึงมีแนวทางในการนำเสนอใหม่ๆ เช่น บริษัท General Motors ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Chevrolet Volt มีสัญญารับประกันแบตเตอรี่ 100,000 ไมล์ หรือ 8 ปีอย่างใดอย่างหนึ่ง ส่วน Nissan มีทางเลือกของสัญญาให้เช่าใช้แบตเตอรี่แทนการซื้อ

อากาศร้อนหรือหนาวนับเป็นตัวแปรและผลกระทบสำคัญต่อประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ Nissan Leaf ยอมรับว่ารถของเขาวิ่งได้ตั้งแต่ 47 ถึง 137 ไมล์ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและสไตล์การขับขี่ ด้วยเหตุของภูมิอากาศที่แตกต่างกันมาก จึงทำให้ต้องมีระบบระบายความร้อนแบตเตอรี่ด้วยของเหลว และควบคุมอุณหภูมิแบตเตอรี่ให้อยู่ในระดับทำหน้าที่ได้ดีที่สุดตลอดเวลา

อีกประเด็นหนึ่งที่เป็นข้อจำกัดของรถไฟฟ้า คือความกังวลเรื่องระยะทางวิ่ง หรือ Range anxiety คนจะกลัวว่าวิ่งไปแล้ว ไฟฟ้าหมด แล้วหาที่อัดไฟไม่ได้ หรืออัดได้ แต่ก็จะใช้เวลานาน ไม่เหมือนกับเติมน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีก็เติมน้ำมันเพื่อวิ่งต่อได้ ในความเป็นจริงนั้น ชาวตะวันตกพวกที่ขับรถไปทำงานทุกวันนั้นใช้รถไม่เกินวันละ 45 ไมล์ก็จริง แต่คนมักจะต้องคิดว่ามีพลังเอาไว้ให้เหลือเฟือเพียงพอ แต่ขณะเดียวกัน การต้องมีพลังสำรองนั้น ทำให้ต้องมีแบตเตอรี่ที่มีขนาดและน้ำหนักมาก และทำให้ราคารถโดยรวมสูงขึ้นจนเกินเหตุ

เพื่อแก้ปัญหาการเติมไฟฟ้า หรือ Charging Points ที่เติมไฟแต่ละแห่งจะมีราคาประมาณ 5,000 ปอนด์ การออกแบบที่เติมไฟฟ้านั้นไม่ยาก แต่วิธีการบริหารนั้นยังต้องคิดและพัฒนากันต่อไป Elektromotive Ltd เป็นบริษัทคิดทำระบบเติมไฟฟ้าที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ชื่อว่า Elecktrobay ในปัจจุบันได้มีการติดตั้งเครื่องดังกล่าวแล้ว 165 จุดในกรุงลอนดอน และ 1,300 จุดทั่วประเทศ

เมื่อต้องมีการเติมไฟฟ้า ก็ต้องมีมาตรฐานเข้ามาเกี่ยวข้องที่ทำให้ระบบรองรับรถยนต์ไฟฟ้าจากทุกค่ายได้ ระบบการคิดและเรียกค่าใช้พลังไฟฟ้า เพราะบริษัทอย่าง Elektromotive เองก็อยากที่เข้าไปดำเนินการในตลาดร่วมยุโรป ปัญหาก็คือเมื่อเทคโนโลยียังอยู่ในช่วงของการพัฒนา จึงยังไม่มีความลงตัวแน่นอนในขณะนี้

Contributed by a Member of the GLG Consumer Goods & Services Councils

Wednesday, September 15, 2010

จากหลังคาบ้านสู่แบตเตอรี่และเครือข่ายไฟฟ้า

จากหลังคาบ้านสู่แบตเตอรี่และเครือข่ายไฟฟ้า

September 15, 2010, 3:30 pm

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

แปลและเรียบเรียงจาก From the Roof, to a Battery, to the Grid โดย TODD WOODY

Keywords: Green Living, สิ่งแวดล้อม

ในโรงจอดรถของนาย Peter Rive ในบ้านที่เมืองซานฟรานซิสโก มีแบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ที่เป็นแบบ Lithium-ion แต่ไม่ใช่ต่อไปยังรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Roadster Sports ที่เขามีอยู่

การไฟฟ้าของรัฐแคลิฟอร์เนียได้ให้รางวัลเป็นเงิน USD 1.8 ล้าน หรือประมาณ57.6 ล้านบาท แก่บริษัทของ Rive ชื่อว่า SolarCity เป็นบริษัทติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ที่เรียกว่า Photovoltaic Panel

บนหลังคาของบ้านในแคลิฟอร์เนียมีมากขึ้นเรื่อยๆที่ติดตั้งแผงพลังแสงอาทิตย์ที่เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายไฟฟ้าแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีกลไกควบคุมการใช้พลังงานร่วมกับเครือข่าย

ทางเลือกหนึ่งคือการรับพลังไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์แล้วจัดเก็บในแบตเตอรี่ ส่วนหนึ่งที่เกินความต้องการก็ส่งเข้าสู่เครือข่ายไฟฟ้า และเมื่อมีความต้องการใช้ไฟฟ้ามากๆ อัตราค่าไฟฟ้าสูง แทนที่จะต้องใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ก็ใช้ส่วนที่มาจากแผงพลังงานแสงอาทิตย์

เมื่อความต้องการใช้ไฟฟ้าร้อยละ 5-10 มาจากพลังแสงอาทิตย์ ก็นับเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องกล่าวถึง

บริษัท SolarCity ได้ร่วมมือกับ Tesla Motors อันเป็นบริษัทผู้บุกเบิกรถยนต์ไฟฟ้าแนวหน้าของสหรัฐอเมริกา และบริษัทไฟฟ้าแห่ง Silicon Valley ซึ่งดำเนินการโดยญาติของนาย Rive คือ Elon Musk ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกของ Tesla Motors เอง และมหาวิทยาลัยแห่งรัฐแคลิฟอร์เนียที่เมือง Berkeley เพื่อศึกษาการประสมประสานพลังแสงอาทิตย์ที่จัดเก็บด้วยระบบแบตเตอรี่รุ่นใหม่ โดยได้มีการทดสอบกิจกรรมจัดเก็บพลังแสงอาทิตย์ด้วยแบตเตอรี่ และการป้อนเข้าสู่เครือข่ายของบ้าน 6 หลัง

เราคิดว่าสักวันจะมีการติดตั้งระบบแผงผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์มากพอ ราคาของชุดแผงรับพลังแสงอาทิตย์ราคาถูกลง ก็จะช่วยทำให้ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานถูกลง แม้มันจะไม่ใช่เรื่องง่าย นาย Rive กล่าว

เจ้าของบ้านสามารถใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ในชั่วโมงที่ราคาไฟฟ้าสูง คือช่วงที่มีคนใช้กันมากๆ (Peak Hours) หรือใช้เมื่อเครือข่ายไฟฟ้าล่มลง

การวิจัยนี้เพิ่งเริ่มต้นขึ้น บริษัท SolarCity จะทดสอบผลกระทบของการจัดเก็บไฟฟ้า และการปล่อยกระแสไฟโดยผ่านแบตเตอรี่ที่ผลิตได้จากแผงรับพลังแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา ซึ่งมีขีดความสามารถผลิตไฟฟ้าระดับ 3 Kilowatt

ในปัจจุบันเราสามารถตัดสินใจที่ใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ หรือจะเป็นช่วงของการเก็บไฟ ทั้งนี้โดยอาศัยสัญญาณผ่านอินเตอร์เน็ต Rive กล่าว

จากจำนวนเงินรางวัลวิจัย USD 14.6 ล้านที่ให้แก่กิจการแผงผลิตไฟฟ้าจากพลังแสงอาทิตย์ USD 1.9 ได้ให้แก่ SunPower ที่เป็นโครงการจัดเก็บพลังไฟฟ้าที่ใช้ในร้าน Target stores

SunPower เป็นบริษัทใน Silicon Valley ที่ผลิตแผงพลังแสงอาทิตย์ที่ใช้ได้กับ Ice Energy ซึ่งเป็นบริษัทในโคโรราโด ที่ใช้ระบบไฟฟ้าผลิตน้ำแข็งเมื่อราคาพลังแสงอาทิตย์นั้นราคาต่ำ เมื่อราคาไฟฟ้าสูง ระบบปรับอากาศหรือเครื่องทำน้ำแข็งก็จะปล่อยให้น้ำแข็งละลายทำความเย็น แทนที่จะต้องไปใช้พลังไฟฟ้าไปกับเครื่อง Compressor

ระบบ Ice Bear system และ Solar array จะติดตั้งในร้าน Target Store ที่มีการใช้แบตเตอรี่แพ็ค 2 แห่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย

Julie blunden รองประธานบริษัท SunPower ด้านนโยบายสาธารณะกล่าวว่า ลูกค้าอย่าง Target จะได้รับประโยชน์จากระบบในทางการเงิน เมื่อสามารถลดความต้องการใช้ไฟฟ้าพร้อมๆกันในช่วงค่าไฟฟ้าจากเครือข่ายมีสูง

Friday, September 3, 2010

เราจะใช้ประโยชน์จากคอมพิวเตอร์มือถืออย่างไร

เราจะใช้ประโยชน์จากคอมพิวเตอร์มือถืออย่างไร

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

Keywords: iPhone, BlackBerry

PDA เป็นคำย่อมาจาก Personal Digital Assistant เป็นเครื่องมือคอมพิวเตอร์ในขนาดเล็กที่กะทัดรัด ใช้ทำหน้าที่เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แฟกซ์ ใช้ติดต่ออินเตอร์เน็ต จดหมายอิเลคโทรนิกส์ ใช้เพื่อจัดการระบบข้อมูลส่วนตัว ในการป้อนข้อมูล ในระยะแรกๆใช้ปลายปากกาหรือของแหลมจิ้มหรือกด ต่อมาก็มีแป้นพิมพ์ขนาดจิ๋วทำหน้าที่เหมือนแป้นพิมพ์ทั่วไป และต่อมาอีกก็มีการใช้หน้าจอแบบสัมผัสทำหน้าที่เป้น Keyboard ใน PDA บางส่วนพัฒนาไปสู่การใช้รับฟังเสียงแล้วแปลงสัญญาณเป็นตัวอักษร

ระบบ PDA ที่นับว่าก้าวหน้าที่สุดในปัจจุบัน ทำให้ผู้ใช้สะดวกใช้มากที่สุดจะได้แก่ iPhone ของ Apple และ BlackBerry และขณะเดียวกันได้มีผู้พัฒนาโทรศัพท์มือถือและบริษัทพัฒนาซอฟท์แวร์ได้เข้ามาพัฒนาแข่งขันเพิ่มขึ้น ราคาสินค้ามีแนวโน้มถูกลง มีระบบแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น ส่วนระบบเครือข่ายไร้สายก็เป็นอีกตัวหนึ่งที่ทำให้มีการพัฒนาความสามารถในการใช้ได้โดยมีการจำกัดด้านสถานที่น้อยลงไปอีก ดังคำกล่าวทีว่า Anywhere, Anytime

คำว่า PDA มีคนใช้น้อยลง แต่จะมีการประดิษฐชื่อและ Brand ของสินค้าที่ทำให้คนใช้ติดปากที่จะเรียกกันต่อๆไป ดังกรณีของ iPhone และ BlackBerry

iPhone 4

BlackBerry

ประเด็นของการใช้คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่ทำหน้าที่ได้หลายๆอย่างนั้น ก็คือทำให้สิ่งที่เราเคยมีข้อจำกัด ไม่สามารถสื่อสารได้ระหว่างเดินทาง เช่นขณะอยู่บนรถโดยสาร รถส่วนตัว หรือต้องไปอยู่ที่ๆไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้ได้ ก็ทำให้สามารถใช้งานได้ เวลาที่เคยเป็นข้อจำกัด อ้นเนื่องมาจากการต้องเดินทางตลอดเวลา ก็กลายเป็นโอกาส แล้วแต่คนจะคิด จะสรรหาว่าเราจะใช้เครื่องมือดังกล่าวได้อย่างไร ในเวลาใด และที่ไหน