Sunday, September 30, 2012

มารู้จักอิมฟาล (Imphal City) เมืองหลวงของรัฐมณีปุระ อินเดีย


มารู้จักอิมฟาล (Imphal City) เมืองหลวงของรัฐมณีปุระ อินเดีย

ประกอบ คุปรัตน์Pracob Cooparat
E-mail: pracob.cooparat@gmail.com

ศึกษาและเรียบเรียงจาก Wikipedia, the free encyclopedia

Keywords: Imphal, อิมฟาล, อินเดีย, มณีปุระ, พม่า, India, Manipur, Seven Sister States, Burma,


ภาพ Kangla Gate, Imphal ประตูเมืองเก่าของพระราชวังแคงกลา มีคูน้ำล้อมรอบ

อิมฟาล (Imphal City) คือเมืองหลวงของรัฐมณีปุระ (Manipur) อันเป็นหนึ่งใน “รัฐเจ็ดสาวพี่น้อง” (One of the Seven Sister States) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอินเดีย (India) ในบริเวณใจกลางเมืองมีคู (Moat) ล้อมรอบที่ซึ่งเป็นพระราชวังแคงกลาเก่า (Kangla) ซึ่งเป็นที่ตั้งของป้อมปราการกองทหารปืนของรัฐอัสสัม (Assam Rifles) ซึ่งเป็นกองทหารพราน ซึ่งในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2004 ได้มีการส่งมอบกองทัพนี้ให้แกรัฐมณีปุระ โดยนายกรัฐมนตรีมันโมฮัน ซิงค์ (Dr. Manmohan Singh) ของอินเดีย อีกสถานที่น่าสนใจหนึ่งคือ สนามโปโล ซึ่งจัดว่าเป็นสนามโปโลที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ใกล้ๆกับสนามโปโล มีพิพิธภัณฑ์ของรัฐมณีปุระ (Manipur State Museum) ซึ่งเป็นที่สะสมโบราณวัตถุและภาพอันเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของรัฐมณีปุระ

อีกแห่งหนึ่งที่เป็นที่น่าสนใจ คือ “ตลาดแม่ค้า” ซึ่งในภาษาท้องถิ่นเรียกว่า 'Ima Keithel' ซึ่งตั้งอยู่ที่ Khwairamband Bazar เป็นตลาดแห่งเดียวในโลกที่เป็นดังชื่อ คือ Ima-Mother = แม่, Keithel-Market = ตลาด รวมแปลว่า “ตลาดแม่ค้า” คือทุกร้านในตลาดดำเนินการโดยสตรี

ในปี ค.ศ. 1944 ในสงครามโลกครั้งที่สอง (World War II) จุดเปลี่ยนของประทะกันในพม่า (Burma Campaign) สงครามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือ “การรบที่เมืองอิมฟาล” (Battle of Imphal) ซึ่งกองทัพญี่ปุ่นพ่ายแพ้แก่สัมพันธมิตรเป็นครั้งแรก และหลังจากนั้น ก็เป็นความพ่ายแพ้ของญี่ปุ่นตลอดจนกระทั่งสิ้นสุดสงคราม

ในวันที่ 18 มิถุนายน ค.ศ. 1997 เขตอิมฟาลได้ถูกแบ่งออกเป็นสอง คือเป็นอิมฟาลตะวันออก (Imphal East) กับอิมฟาลตะวันตก (Imphal West)

ประเทศ
Country
อินเดีย
India
รัฐ
State
มณีปุระ
Manipur
เขต
District
อิมฟาลตะวันตก-Imphal West,
อิมฟาลตะวันออก-
Imphal East
สูงจากระดับน้ำทะเล
Elevation
786 เมตร (2,579 ft)
ประชากร
Population (2011 census)
รวม
Total
264,986 คน
ภาษา
Languages
ทางการ
Official
ไมไตลอน
Meiteilon (Manipuri)
เขตเวลา
Time zone
795xxx
รหัสโทรศัพท์
Telephone code
3852
เวบไซต์
Website

Wednesday, September 26, 2012

บ้านที่ผลิตมาเพื่อประกอบ (Prefabricated homes)


บ้านที่ผลิตมาเพื่อประกอบ (Prefabricated homes)

ประกอบ คุปรัตน์Pracob Cooparat
E-mail: pracob.cooparat@gmail.com

ศึกษาและเรียบเรียง

Keywords: การก่อสร้าง, prefabricated houses, buildings, home, prefab,

Prefabricated = ซึ่งเตรียมไว้ก่อน

Prefabricated homes เป็นบ้านที่ส่วนประกอบต่างๆถูกเตรียมไว้ก่อน อาจทำจากโรงงาน และทำเป็นจำนวนมากๆ ชิ้นส่วนต่างๆมีลักษณะเป็นมาตรฐาน มีขนาดที่ออกแบบพอเหมาะที่จะเตรียมผลิตไว้ก่อนที่โรงงาน แล้วเคลื่อนย้ายไปประกอบ ณ ที่หน้างานได้โดยง่าย บ้านในลักษณะนี้บางแบบมีความหรูหราตามแนวคิดของสถาปนิกนักออกแบบ[


ภาพ บ้านที่ผลิตมาเพื่อประกอบ คลิกดูที่นี่เพื่อดูภาพ แล้วจะเข้าใจ

 บ้านหรืออาคารในลักษณะแรก มีวัตถุประสงค์เพื่อความสะดวกและประหยัดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง แต่เป็นงานก่อสร้างถาวร เป็นคอนกรีตที่ไม่ได้ทำไว้สำหรับรื้อแล้วไปประกอบใหม่


ภาพ อาคารที่พักแบบชั่วคราว ที่ผลิตมาเป็นชิ้นส่วน แล้วนำมาประกอบ

บ้านหรืออาคารที่ผลิตมาในแบบอุตสาหกรรม ทำให้สะดวกในการก่อสร้าง ใช้เวลาประกอบ ณ ที่ๆจะก่อสร้าง ทำให้งานเสร็จได้อย่างรวดเร็ว ดังเช่น การทำที่พักอาศัยสำหรับผู้ประสบภัย ที่พักสำหรับคนงานก่อสร้าง และเมื่อเสร็จงาน ต้องการย้ายบ้านหรืออาคารไปยังที่อื่นๆ ก็สามารถกระทำได้โดยไม่ลำบากมากนัก เพราะชิ้นส่วนต่างๆในลักษณะนี้เป็นแบบถอดเข้าและถอดออกได้โดยง่าย

Monday, September 24, 2012

รถยนต์ไฟฟ้า Toyota iQ สำหรับวิ่งในเมืองก็ยังเป็นเพียงรถต้นแบบ


รถยนต์ไฟฟ้า Toyota iQ สำหรับวิ่งในเมืองก็ยังเป็นเพียงรถต้นแบบ

ประกอบ คุปรัตน์Pracob Cooparat
E-mail: pracob.cooparat@gmail.com

ศึกษาและเรียบเรียงจากข่าว “Toyota iQ electric city car still a 'concept' vehicle.” EV News, MONDAY, SEPTEMBER 24, 2012

Keywords: รถยนต์ไฟฟ้าลูกประสม, รถยนต์ไฟฟ้า, EVs, HV, PHEV, FCV, Smart EV, Toyota iQ 


ภาพ รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก Toyota iQ EV

วิศวกรของโตโยต้าได้เริ่มการวิจัยและพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ามากว่า 40 ปี เริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 1971 โดยพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า (EVs) ควบคู่ไปกับรถยนต์ไฟฟ้าลูกประสม (Hybrid - HV), รถยนต์ไฟฟ้าลูกประสมแบบเสียบปลั๊ก (Plug-in Hybrid - PHEV), และรถใช้พลังจาก Fuel Cell (FCV) vehicles แต่สิ่งเหล่านี้ยังเป็นเป้าหมายระยะยาว

แต่ในระยะปัจจุบันและระยะอันใกล้ Toyota จะเน้นไปที่รถยนต์ไฟฟ้าลูกประสมที่ใช้เทคโนโลยีที่บริษัทได้เปรียบอยู่แล้ว ที่ใช้พื้นฐานของ Hybrid Synergy Drive® platform หากการส่งเสริมรถไฟฟ้า ก็จะเป็นรถที่วิ่งในเมือง หากเป็น PHEV จะเป็นเพื่อการวิ่งในเมืองเป็นหลักร่วมกับการวิ่งระยะยาวเป็นครั้งคราว หากเป็นรถยนต์ไฟฟ้าลูกประสม (HV) จะเป็นเพื่อการวิ่งระยะกลางไปจนวิ่งระยะไกล ส่วนรถใช้พลัง Fuel Cell (FCV) จะเป็นเพื่อการวิ่งในระยะไกล

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก Toyota iQ EV เป็นรถที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานในเมือง เป็นรถยนต์คันที่สอง โดยมุ่งทำให้รถมีน้ำหนักเบา ใช้แบตเตอรี่ขนาดไม่โต โดยคำนวณให้มีไฟฟ้าใช้วิ่งในเมืองเพียงพอ แต่ไม่ต้องการให้มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่เกินไป แต่สามารถชาร์จไฟได้เร็ว รถโดยรวมใช้พลังงานน้อย เพื่อทำให้รถยนต์ไม่มีราคาแพงจนเกินไป เป็นรถที่ออกแบบมาในตลาดเดียวกับ Smart EV ของ Mercedes

Toyota iQ EV การออกแบบให้มีน้ำหนักเบาที่สุดและใช้พลังงานน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

รถยนต์ไฟฟ้า iQ มีความยาวเพียง 3,120 มม. ยาวกว่ารถ iQ ขนาดมาตรฐาน 135 มม. ขนาดกว้างเท่ากันที่ 1,680 มม. ความสูง 1,505 มม. และขนาดฐานล้อที่ 2,000 มม. สามารถกลับรถได้ในวงขนาด 4.1 เมตร เหมาะกับการใช้งานในเมืองหลวงที่มีที่คับแคบ เปรียบหากเป็นการวิ่งในกรุงเทพมหานคร ก็ใช้งานได้คล่องแบบถึงไหนถึงกันเหมือนกับรถตุ๊กตุ๊ก (Tuk Tuk, Motorcycles)

สำหรับการออกแบบเน้นการทำให้รถมีน้ำหนักเบา แบตเตอรี่ใช้ lithium-ion ตัวถังใช้แผ่นเหล็กเหนียว ร่วมกับวัสดุน้ำหนักเบา ซึ่งทำให้ iQ EV มีน้ำหนักๆกว่า iQ มาตรฐานเดิม ซึ่งใช้เครื่องยนต์เผาไหม้น้ำมันเชื้อเพลิงขนาด 1.3 ลิตร, CVT เพียง 125 กิโลกรัม

สำหรับตัวถังที่แข็งแรงจะช่วยให้รถวิ่งด้วยความเสถียรและคล่องตัวในการขับเคลื่อน และลดแรงสั่นสะเทือน หากคนนั่งภายในจะรู้สึกถึงความเงียบสงบ ด้วยมีระบบกันเสียงที่ดี

iQ EV สามารถเร่งเครื่องได้ จาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงภายใน 14.0 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 125 กิโลเมตร/ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ 85 กิโลเมตรด้วยการชาร์จไฟเพียงครั้งเดียว

ส่วนความเร็วในการชาร์จไฟนั้น iQ EV สามารถชาร์จไฟได้เต็มแบตเตอรี่ด้วยไฟฟ้าบ้านขนาด 230 V สำหรับการชาร์จไฟอย่างรีบด่วน สามารถชาร์จไฟให้เต็มร้อยละ 80 ด้วยเวลาเพียง 15 นาที หรือประมาณไปนั่งดื่มกาแฟ หรือเข้าห้องน้ำตามสถานีบริการ ก็ได้ชาร์จไฟเพื่อเดินทางต่อไปได้แล้ว

โดยรวมๆ รถยนต์ไฟฟ้า iQ EV ก็ยังเป็นรถที่แม้ทำออกสู่ตลาด แต่สำหรับบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota เป้าหมายของเขาคือการผลิตรถยนต์ออกสู่ตลาดขนาดใหญ่ที่ปีละ 7-8 ล้านคัน ขณะนี้ที่จะทำมากที่สุด คือมุ่งไปที่รถยนต์ไฟฟ้าลูกประสม ซึ่งคงจะทยอยออกสู่ตลาดมาไม่น้อยกว่า 14-15 แบบ

ลิฟท์บันได (Stairlift) ของจำเป็นสำหรับผู้สูงอายุ

ลิฟท์บันได (Stairlift) ของจำเป็นสำหรับผู้สูงอายุ

ประกอบ คุปรัตน์Pracob Cooparat
E-mail: pracob.cooparat@gmail.com


Keywords: บ้านพักอาศัย, habitation, สุขภาพอนามัย, ผู้สูงอายุ, senior citizen, ลิฟต์บรรได, stair, stairlift, elavator, escalator,

ศึกษาและเรียบเรียงจาก Wikipedia


ภาพ ลิฟท์บันได (Stairlift) สำหรับช่วยผู้ป่วย คนพิการ หรือคนสูงอายถขึ้นหรือลงบันไดได้ด้วยตัวเอง


ภาพ ลิฟท์บันได (Stairlift) ขณะที่ใช้งานเพื่อช่วยขึ้นบันได ซึ่งเหมาะสำหรับบ้านคนสำหรับคนทั่วไป ที่มีบรรได้ที่กว้างพอ และสูงเพียงสองชั้น

Keywords: Habitation, ลิฟท์บันได, stairlift, stair lift, elevator, handicapped, elderly, mobility

ลิฟท์บันได (Stairlift) เป็นเครื่องมือที่ใช้ยกคนหรือเก้าอี้เข็นขึ้นหรือลงบันได โดยทั้งนี้บันไดจะต้องมีความกว้างพอ โดยทำราวที่ติดยึดกับบันไดหรือผนัง ที่จะทำเป็นรางสำหรับเคลื่อนคนขึ้นบันได เก้าอี้หรือฐานที่นั่งจะผนึกติดกับราว คนจะนั่งที่เก้าอี้หรือฐานที่จะถูกยกขึ้นหรือลงด้วยพลังมอเตอร์ไฟฟ้าไปตามราวที่ติดตั้งกับบันได ส่วนการสั่งงานให้ลิฟท์บันไดเลื่อนขึ้นหรือลง จะใช้ระบบรีโมท (Remote control) คล้ายที่ใช้สั่งปิดเปิดโทรทัศน์ เพื่อสั่งเครื่องให้ทำงานตามต้องการ

ลิฟท์บันไดมักใช้กับบ้านคนทั่วไป ที่อาจมีสองชั้น คนพิการ คนป่วย หรือคนชรามีที่พักอาศัยอยู่ชั้นบน ยังต้องการขึ้นหรือลงบันไดได้เองโดยมีเครื่องช่วย แต่หากเป็นอาคารขนาดใหญ่ เช่น คอนโดมิเนียม หรืออพาร์ทเมนท์ที่มีหลายหน่วยพักอาศัย และมีหลายๆชั้น ดังนี้ก็ต้องติดตั้งลิฟต์ หรือ Elevator ซึ่งก็สะดวกกว่า แต่ก็มีราคาแพงกว่า ในปัจจุบันลิฟต์หนึ่งตัว ราคาเริ่มต้นที่ 1,000,000 บาทพร้อมติดตั้ง ส่วนลิฟท์บันได้มีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 100,000 บาท พร้อมบริการติดตั้ง

Elevator = ลิฟท์ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้บรรทุกคนขึ้นหรือลงอาคารสูงหลายชั้น
Wheelchair = เก้าอี้เข็น, เก้าอี้มีล้อเข็นสำหรับคนพิการ คนป่วย หรือคนสูงอายุ

ลิฟต์บันได นอกจากจะเรียกทั่วไปว่า Stairlift แล้ว ยังมีชื่ออื่นๆที่ใช้เรียกกัน เช่น stair lifts, stair-lifts, chair lifts, หรือ stair gliders ซึ่งต้องไม่สับสนกับ chairlift ที่เขาใช้ขนนักเล่นสกีขึ้นไปเพื่อปล่อยให้เริ่มเล่นสกีหิมะจากที่สูงดังบนยอดเขา

สำหรับลิฟต์บันได้ได้มีการผลิตเพื่อการค้าและโฆษณาขายในสหรัฐตั้งแต่ปี ค.ศ. 1930s โดยบริษัท Inclinator Company of America ผู้ใช้เครื่องลิฟท์บันไดในระยะนั้นเป็นผู้ป่วยโรคโลลิโอที่ทำให้มีความลำบากในการเคลื่อนไหว การมีลิฟท์บันไดทำให้ผู้ป่วย คนพิการ หรือผู้สูงอายุที่ไม่สะดวกจะเดินขึ้นหรือลงบันไดด้วยหัวเข่าไม่ดี ก็สามารถจะช่วยตัวเองขึ้นหรือลงบันไดได้เอง โดยไม่ต้องมีคนช่วย

ความต้องการ

ในสังคมที่พัฒนาแล้ว ต้องคิดถึงคนที่เขาขาดโอกาสในสังคม ดังเช่น คนป่วยบางโรค เช่น โปลิโอ ทำให้ส่วนขาลีบไม่แข็งแรงพอ คนพิการที่ทำให้ร่างกายส่วนล่างทำงานไม่ได้เต็มที่ หรือเป็นอัมพาตครึ่งท่อน คนสูงอายุที่เริ่มมีปัญหาข้อเข่าเสื่อม ทำให้ไม่สะดวกที่จะเดินขึ้นบันไดด้วยตนเอง จะอุ้มขึ้นลงก็จะดูทุลักทุเล และอาจไม่มีคนแข็งแรงพอที่จะช่วย

การช่วยคนให้เขาช่วยตัวเองได้ นับเป็นปรัชญาและแนวคิดที่ดี

การจะช่วยผู้มีปัญหาด้านสุขภาพและร่างกายดังกล่าวนี้ อาจะต้องด้วยความใส่ใจในระดับชุมชน เช่น เมือง อำเภอ หรือจังหวัด ให้มีกองทุนหรือมูลนิธิที่เป็นเจ้าของระบบลิฟต์บันได ให้เช่าใช้เป็นรายปี เมื่อหมดความต้องการหรือความจำเป็น ก็ให้ถอดไปใช้ที่อื่นๆที่มีคนต้องการได้ เพื่อลดต้นทุนการดำเนินการ แต่หากปล่อยให้เป็นการดำเนินการโดยแนวการค้าเสียทั้งหมด ก็อาจมีราคาแพงเกินความจำเป็น เพราะบางบ้านอาจต้องการใช้เป็นช่วงเวลา เสร็จแล้วก็อาจไม่จำเป็นต่อไป

Sunday, September 23, 2012

Toyota เพิ่มการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าลูกประสมเป็น 2 เท่า


Toyota เพิ่มการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าลูกประสมเป็น 2 เท่า


ประกอบ คุปรัตน์Pracob Cooparat
E-mail: pracob.cooparat@gmail.com

ศึกษาและเรียบเรียงจากข่าว “Toyota to double hybrid production this year – Nikkei” EV News, SUNDAY, SEPTEMBER 23, 2012

Keywords: รถยนต์ไฟฟ้าลูกประสม, EV, hybrid, Toyota, Corolla, Altis, Auris, Honda, Prius, 


ภาพ รถยนต์ Toyota Corolla อันเป็นรถประเภท Sedan รุ่นและขนาดที่ขายดีที่สุด ซึ่งมีชื่อแตกต่างกันในแต่ละประเทศ เช่น ในไทยเป็น Altis, ในออสเตรเลียเป็น Auris ในระยะต่อไปกำลังจะมีการพัฒนาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าลูกประสม (Electric Hybrid) โดยที่มีรถ Toyota Prius เป็นตัวนำตลาดด้านรถยนต์ไฟฟ้าลูกประสมอยู่แล้ว

บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ Toyota Motor Corp ของญี่ปุ่นประกาศจะเพิ่มการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าลูกประสม (Hybrid) เป็น 1.2 ล้านคันในปีนี้ เพื่อรองรับตลาดในเอเชียที่เติบโตขึ้น ข่าวจากนิคเคอิ (Nikkei)
โตโยต้าวางแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าลูกประสมที่เป็นตัวนำของบริษัท คือ Corolla sedan โดยเริ่มในประเทศญี่ปุ่นในฤดูใบไม้ผลิปีหน้า และเทคโนโลยีนี้จะนำไปใช้กับรถยนต์ Lexus อันเป็นรถยนต์หรูในเครือของโตโยต้าเช่นกัน

บริษัทรถยนต์ Honda Motor Co Ltd ของญี่ปุ่นที่เป็นคู่แข่งก็วางแผนที่จะพัฒนาเทคโนโลยีรถไฟฟ้าลูกประสม ซึ่งจะนำไปใช้กับรถยนต์นั่งขนาดกลาง คือ Accord sedan ในอเมริกาเหนือในช่วงฤดูร้อนปีหน้า ข่าวนิคเคอิกล่าว

โตโยต้ากำลังพิจารณาเปิดโรงงานในอินโดนีเซียเพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้าลูกประสมด้วยเช่นกัน  นอกเหนือไปจากได้เปิดสายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าลูกประสมในประเทศไทยไปแล้ว

บริษัทกำลังพิจารณาส่วนการผลิตขนาดใหญ่ ดังเช่น แบตเตอรี่ และมอเตอร์ที่จะช่วยลดต้นทุนและทำให้บริษัทมีความได้เปรียบเหนือคนอื่นๆ

ในปัจจุบันโตโยต้าและฮอนด้าขายรถยนต์ไฟฟ้าลูกประสมร้อยละ 70 ถึง 80 ในตลาดประเทศญี่ปุ่นเอง และในสหรัฐอเมริกา ข่าวธุรกิจรายวันฉบับดังกล่าวรายงาน

ข้อมูลพื้นฐาน - Toyota Motor Corporation เป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ใหญ่สุดของญี่ปุ่นและเป็นบริษัทข้ามชาติ มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ Toyota, Aichi ประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันมีคนทำงานในบริษัท 300,734 คนทั่วโลก และเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกในปี ค.ศ. 2010 ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2012 บริษัทได้รายงานว่าได้ผลิตรถยนต์มาแล้วทั้งสิ้น 200 ล้านคัน

รถยนต์ราคาประหยัด Agya และ Ayla จากอินโดนีเซีย


รถยนต์ราคาประหยัด Agya และ Ayla จากอินโดนีเซีย

ประกอบ คุปรัตน์Pracob Cooparat
E-mail: pracob.cooparat@gmail.com


Keywords: ยานพาหนะ, รถยนต์, Toyota, eco car, Indonesia, Astra, Agya,  


ภาพ รถยนต์ Daihatsu Ayla หรือในอีกชื่อว่า  Astra Toyota Agya 

ด้วยความร่วมมือของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของอินโดนีเซีย Toyota Astra Motor (TAM) และ Astra Daihatsu Motor (ADM) ที่จะผลิตรถยนต์ขนาดเล็ก (Compact cars) ในชื่อว่า Astra Toyota Agya และ Astra Daihatsu Ayla

จากความร่วมมือของ Toyota and Daihatsu ที่ได้เริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 2003 ในการผลิตรถยนต์ใช้วิ่งในเมืองขนาดเล็ก ซึ่งทำให้ในปัจจุบัน รถยนต์ Toyota Avanza และ Daihatsu Xenia ที่ผลิตในอินโดนีเซีย จัดเป็นรถยนต์ที่ขายดีที่สุดในประเทศมาแล้ว

Agya และ Ayla เป็นรถยนต์แนวคิดรุ่นใหม่ที่ออกแบบสำหรับตลาดอินโดนีเซีย โดยอาศัยประสบการณ์จาก Daihatsu ที่ถนัดการผลิตรถยนต์ขนาดเล็กราคาประหยัด

จากการเปิดตัวในการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่สำหรับประชาชนทั่วไป ที่เปลี่ยนจากขี่จักรยานยนต์มาเป็นขับรถยนต์ประหยัดขนาดเล็กแทน จึงได้มีการออกรถยนต์รุ่นใหม่ของทั้งสองบริษัท

TAM ยังไม่ได้ประกาศราคาว่า Toyota Agya จะมีราคาเท่าใด แต่รถ Ayla ที่เป็นรถขนาดเดียวกันจะขายในราคาคันละ US$7,875 หรือประมาณ 236,250 บาท Sudirman Maman Rusdi ประธานกรรมการอำนวยการของ ADM กล่าวว่ารถทั้งสองแบบของ Toyota และ Daihatsu จะผลิตที่โรงงานใหม่ของ Daihatsu ที่นิคมอุตสาหกรรม Suryacipta ที่ East Karawang, ในชวาตะวันตก (West Java) โรงงานอยู่ในระหว่างก่อสร้างช่วงสุดท้าย และจะสามารถดำเนินการได้ในเดือนตุลาคม ส่วนระบบการผลิตเมื่อเดินเครื่องเต็มที่จะผลิตได้ปีละ 100,000 คัน สำหรับการผลิตจะใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตได้ในอินโดนีเซียร้อยละ 84

ตามกฎรถยนต์ประหยัด หรือ Eco Cars จะต้องเป็นรถยนต์ขนาดต่ำกว่า 1,000 ซีซี หรือจะเป็นรถขนาด 1,200 ซีซีที่สามารถวิ่งได้ที่ 20 กิโลเมตร/ลิตรหรือดีกว่า จึงจะได้รับส่วนลดหย่อนภาษี

ในขณะที่ประชากรครึ่งหนึ่งของอินโดนีเซีย 240 ล้านคนกำลังจะเปลี่ยนเป็นชนชั้นกลาง และประเทศมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ดี อินโดนีเซียจึงเป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับผู้ผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ และด้วยความที่เป็นประเทศขนาดใหญ่ของเอเซียตะวันออกเฉียงใต้เป็นฐาน และมีประชากรในอาเซียนเกือบ 600 ล้านคน ที่มีเป็นอันมากยังต้องการถยนต์คันแรกขนาดเล็กแบบนี้อยู่

สำหรับรถยนต์ทั้งสองยี่ห้อนี้ คงจะเข้ามาขายในประเทศไทยแน่ ตามความร่วมมือของประเทศในกลุ่มอาเซียน ส่วนที่จะเสนอขายได้ในราคาเท่าใดนั้น คงต้องติดตามดูต่อไป

เทคโนโลยีพัฒนามอเตอร์ในกงล้อ (Wheel Motor)


เทคโนโลยีพัฒนามอเตอร์ในกงล้อ (Wheel Motor)

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob.cooparat@gmail.com

ศึกษาและเรียบเรียงจาก “Wheel Motor Start-up enters $10M GE Ecomagination Challenge” ใน Electric Vehicles News MONDAY, AUGUST 27, 2012

Keywords: ยานพาหนะ, รถยนต์ไฟฟ้า, electric car, hybrid car, hub motor, wheel motor, 


ภาพ ระบบมอเตอร์แทนที่จะอยู่ที่ในห้องเครื่องยนต์ตอนหน้าเดิม ก็มาอยู่อย่างอิสระในแต่ละกงล้อ เรียกว่า Wheel Motor เป็นการประหยัดพื้นที่ภายใน และน้ำหนักตัวรถลดลง

การพัฒนามอเตอร์ที่อยู่กับกงล้อ หรือ Wheel Motor ซึ่งเป็นความร่วมมือของส่วนงานของบริษัท GE คือ Ecomagination Challenge บริษัทนี้เป็นบริษัทในออสเตรเลียที่มีฐานะเป็นหน่วยวิจัยและพัฒนา ทำงานเพื่อพัฒนาระบบขับเคลื่อนโดยตรง (Direct drive), ระบบเบรกอัจฉริยะ (idisc type), ระบบสอดใส่มอเตอร์ไปที่ล้อ (In-wheel motors) สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหลาย

ระบบ Wheel motor นี้กำลังได้รับการพัฒนาอย่างเร่งรีบ เพื่อให้รถยนต์ไฟฟ้าที่จะออกสู่ตลาดในรุ่นต่อๆไปได้มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุด ระบบ Wheel motor ได้มีการใช้กันในการแข่งขันพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar racecars)

ระบบพลังงานขับเคลื่อนตรง หรือ Direct drive จาก Wheel motors นี้จะลดการสูญเสียจากระบบทดเฟืองเกียร์ที่กว่าจะส่งพลังไปถึงล้อได้จะต้องสูญเสียประมาณร้อยละ 20-30 อันเกิดจากการเร่งเครื่องและการเบรก ระบบใหม่นี้จะทำให้พลังงานที่จะสูญไปถึงร้อยละ 80 สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้

โดยทั่วไปสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกๆที่ทำ คือ การใส่มอเตอร์เข้าไปในบริเวณที่เคยเป็นที่ของเครื่องยนต์เผาไหม้ แล้วต่อเพลาส่งกำลังต่อมาในลักษณะไม่ต่างจากรถยนต์ใช้เครื่องเผาไหม้ปกติ แต่เทคโนโลยีที่จะพัฒนากงล้อนั้นให้เป็นมอเตอร์ไปในตัว ทำให้รถยนต์ใช้พลังงานลดลงอาจถึงร้อยละ 50 ซึ่งก็หมายความถึงทำให้วิ่งได้ไกลขึ้นเป็นเท่าตัว เพราะทำให้น้ำหนักตัวรถลดลง ขนาดของแบตเตอรี่ก็ลดลงเป็นเท่าตัว ทำให้ต้นทุนในการผลิตก็ลดลงไปด้วย

ระบบการทำให้กงล้อเป็นพลังขับเคลื่อนไปในตัว (Direct drive wheel motors) ทำให้ไม่มีพลังสูญเปล่าเมื่อต้องเบรครถ พลังที่จะไปเบรกรถนั้น ก็กลับคืนมาเป็นพลังไฟฟ้าสะสม เพื่อการใช้งานในระยะต่อไป
รถไฟฟ้าทั่วไปในรุ่นแรกๆ ต้องไปเสียพลังกับระบบเบรกแบบ ABS ระบบควบคุมเสถียรภาพ ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ ไม่สามารถรวบรวมพลังของรถให้กลับมาเป็นปั่นไฟคืนได้เต็มที่ แต่เมื่อตัวมอเตอร์ที่ให้พลังงานกลับมาเป็นตัวปั่นไฟคืนโดยตรง ก็จะทำงานได้อย่างเต็มที่

บริษัท GE's Australia & New Zealand ซึ่งมีเป้าหมายที่การทำงานด้านลดการเผาผลาญที่ไม่จำเป็น (Low Carbon ecomagination Challenge) ได้ทดลองรูปแบบธุรกิจที่ซึ่ง ผู้ประกอบการ นักนวตกรรม และนักศึกษาได้มาร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่าจะสามารถลดการเผาผลาญคาร์บอนได้อย่างไร โดยมีเงินรางวัล $500,000 เป็นแรงจูงใจ และโอกาสลงทุนต่อไปจนถึงระดับ $10 ล้านจากบริษัท GE และหุ้นส่วนของเขา

ส่วนบริษัท GE (General Electric) ได้ร่วมทีมกับบริษัทผู้ลงทุนทั้งในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ซึ่งรวมถึง Cleantech Ventures, CVC Limited, Greenhouse Cleantech, MH Carnegie & Co และ Southern Cross Venture Partners เพื่อช่วยสนับสนุนโครงการดีๆที่เกิดขึ้น

ข้อมูลจาก GE Ecomagination

Saturday, September 22, 2012

รถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุด 5 อันดับในสหรัฐอเมริกา


รถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุด 5 อันดับในสหรัฐอเมริกา

ประกอบ คุปรัตน์Pracob Cooparat
E-mail: pracob.cooparat@gmail.com

เรียบเรียงจากข่าว Electric Vehicle NewsTop 5 electric cars in the United States” SATURDAY, SEPTEMBER 22, 2012

Keywords: EVs, BATTERY ELECTRIC CAR, FORD, GM VOLT, MIEV, NISSAN, TOYOTA


รถยนต์ไฟฟ้า (EVs) และรถยนต์ไฟฟ้าลูกประสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEVs) ที่สำรวจในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2012 ที่ผ่านมา

1.    Chevrolet Volt: 13,497 คัน
2.    Toyota Prius Plug-in: 6,082 คัน
3.    Nissan Leaf: 4,228 คัน
4.    Mitsubishi i-MiEV: 403 คัน
5.    Ford Focus Electric: 169 คัน

ส่วนรถยนต์ไฟฟ้า Tesla, Fisker และ Coda ยังไม่ได้มีตัวเลขการขาย ส่วนรถ Ford Focus Electric ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งระบบเริ่มขายในเดือนธันวาคม แต่ยังไม่มีรถถึงมือตัวแทนจำหน่ายจนกระทั่งเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2012


ภาพ รถยนต์ไฟฟ้าลูกประสม Prius, Hybrid Electric

หากนับรวมรถยนต์ไฟฟ้าแบบลูกประสม (Electric Hybrid) ที่ไม่มีระบบเสียบปลั๊ก 5 อันดับเรียงตามลำดับคือ

1.    Toyota Prius - 164,408 คัน
2.    Chevrolet Volt: 13,497 คัน
3.    Lexus CT200h - 12,417 คัน
4.    Honda Insight - 4801 คัน
5.    Nissan Leaf - 4228 คัน

โดยรวมรถยนต์ไฟฟ้าลูกประสมของค่าย Toyota ซึ่งรวมถึง Lexus นับว่าเป็นเจ้าครองตลาด และตามมาด้วยรถยนต์ Chevrolet Volt ในค่าย General Motors หากนับรวมไปจนถึงสิ้นปีนี้ ตัวเลขคงจะมีการเปลี่ยนแปลงไป เพราะค่ายยักษ์ใหญ่หลายบริษัทได้เริ่มหันมาลงแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นแล้ว และทุกบริษัทล้วนต้องการความเป็นผู้นำ

ข้อมูลจากบริษัทผู้จำหน่ายรถยนต์ (Auto companies)

สถิติรถยนต์วิ่งด้วยพลังแสงอาทิตย์ที่เร็วที่สุดในโลก 88 กม./ชม.


สถิติรถยนต์วิ่งด้วยพลังแสงอาทิตย์ที่เร็วที่สุดในโลก 88 กม./ชม.

ประกอบ คุปรัตน์Pracob Cooparat
E-mail: pracob.cooparat@gmail.com


Keywords: รถยนต์ไฟฟ้า, พลังแสงอาทิตย์, solar-powered car, Sunswift, Australia, New South Wales UNSW, Solar PHEV, Solar Plug-in Hybrid Electric Vehicle

Uploaded by UNSW on Jan 11, 2011 - สถิติรถยนต์วิ่งด้วยพลังแสงอาทิตย์ที่เร็วที่สุดในโลก โดยไม่ใช้แบตเตอรี่ช่วย ทำไว้เมื่อวันที่ 11 มกราคม ค.ศ. 2011 โดยทีม Sunswift ของมหาวิทยาลัย New South Wales (UNSW) ของออสเตรเลีย ซึ่งทำสถิติได้ที่ 88 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทีมพัฒนารถพลังแสงอาทิตย์นี้เป็นนักศึกษาจากหลายคณะวิชา ทำงานในลักษณะสหวิทยาการ โดยมีผู้จัดการทีมชื่อ Daniel Friedman ส่วนคนขับขอแรงจากนักขับรถแข่งมืออาชีพมาช่วย ดูได้ที่

http://www.youtube.com/watch?feature=endscreen&v=LI8sApVfOoM&NR=1

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ หากจะประยุกต์ให้ใช้วิ่งบนถนน ทำได้โดยใช้แบตเตอรี่ยุคใหม่เพิ่ม ใช้พลังจากเสียบปลั๊ก (Plug-in) เพิ่มได้ ใช้หลังคาของรถยนต์ในลักษณะรถตู้ติดแผงรับแสงอาทิตย์ ใช้เครื่องยนต์ขนาดเล็กที่สุด อาจจะ 1,000CC เครื่องยนต์ 3 สูบ น้ำหนักเบา ทำให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าลูกประสมเสียบปลั๊ก + พลังแสงอาทิตย์ หรือ จะเรียกว่า Solar PHEV (Solar Plug-in Hybrid Electric Vehicle) ใช้เป็นยานพาหนะได้ดีที่สุดในเขตที่ภูมิอากาศแห้งแล้ง ซึ่งมีอยู่ค่อนโลก

รถดังกล่าว สามารถจัดเป็นรถยนต์ที่ใช้วิ่งบนถนนจริงที่ประหยัดพลังงานที่สุดในโลกได้เช่นกัน

เมล็ดแฟลกซ์ (Flax seeds) อาหารเสริมที่มีคุณค่าแก่ผู้สูงวัย


เมล็ดแฟลกซ์ (Flax seeds) อาหารเสริมที่มีคุณค่าแก่ผู้สูงวัย


ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob.cooparat@gmail.com


Keywords: อาหารต้านมะเร็ง, โรคหัวใจ, เบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, Omega 3, อาหารเยื่่อใย, fiber, Flax seeds, 

เมล็ดแฟลกซ์ (Flax seeds) เป็นพืชที่มีคุณค่าอาหารที่ให้เยื่อใย (Dietary fiber) และลิกแนนส์ (Lignans) ในปริมาณที่มากเป็นพิเศษ มีสารอาหาร (micronutrients) และ กรดไขมันที่มี omega-3 ซึ่งทำให้เมล็ดแฟลกซ์ไปช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอล โดยเฉพาะในสตรี


ภาพ เมล็ดแฟลกซ์สีน้ำตาล


ภาพ เมล็ดแฟลกซ์สีเหลืองทอง


เมล็ดแฟลกซ์มี 2 ลักษณะ คือเป็นสีน้ำตาล (Brown seeds) และเป็นสีเหลืองหรือเหลืองทอง (Yellow seeds) ทั้งสองมีลักษณะทางโภชนาการเหมือนกัน ยกเว้นสีเหลืองจะมี Omega 3 ที่ต่ำกว่า เมล็ดแฟลกซ์ทั้งสองลักษณะเมื่อแห้งจะมีลักษณะแข็ง การจะป่น ต้องใช้เครื่องป่นในลักษณะเดียวกับเครื่องป่นกาแฟ (Coffee grinder)

ภาพ เมล็ดแฟลกซ์ เมื่อจะบริโภค ควรเป็นแบบบดหรือป่นแล้ว โดยควรใช้เครื่องบดในลักษณะเดียวกับบดกาแฟ แต่หากเป็นแบบเครื่องปั่นเหมือนปั่นน้ำผลไม้จะไม่ได้ผล เพราะเมล็ดมีความแข็งและเบา มันจะปลิวไปตามแรงกระแทก แต่จะไม่แตกหรือป่นเป็นผง

เมล็ดแฟลกซ์ มีประโยชน์ในการป้องกันโรคบางอย่าง เช่นมะเร็งเต้านมในสตรี และมะเร็งต่อมลูกหมากในชาย (breast & prostate cancers) ผลการวิจัยที่มหาวิทยาลัย Duke University เสนอแนะว่าเมล็ดแฟลกซ์อาจช่วยชะลอการเติบโตของมะเร็งต่อมลูกหมาก แต่ผลการวิจัยโดยรวมยังไม่สามารถสรุปได้ชัดนัก เมล็ดแฟลกซ์สามารถลดความรุนแรงของเบาหวาน ทำให้ระดับน้ำตาลอยู่ในระดับสม่ำเสมอ มีบางงานวิจัยชี้ว่าเมล็ดแฟลกซ์ช่วยทำหน้าที่เป็นยาระบาย ด้วยความที่เป็นอาหารที่ให้เยื่อใยสูง แต่อย่างไรก็ตาม การบริโภคเมล็ดแฟลกซ์ที่บดแล้วเป็นปริมาณมาก โดยไม่ได้บริโภคน้ำไปด้วยอย่างเพียงพอ จะทำให้ไปอุดตันทางเดินอาหารได้

การบริโภคเมล็ดแฟลกซ์อาจไปลดประสิทธิภาพยาที่กิน ด้วยความที่มีเยื่อใยไปทำให้การดูดซึมยาเป็นไปได้อย่างไม่เต็มที่ การบริโภคเมล็ดแฟลกซ์อาจมีผลทางลบเมื่อได้รับสารที่มีการกดระบบประสาท (Neurotoxic cyanogen glycosides) หากบริโภคดิบๆและในปริมาณที่มากเกินไป และการไปลดภูมิคุ้มกัน (Immune suppressive cyclic nonapeptides) และการไปลดการได้รับกรดอมิโนที่จำเป็น

การจะบริโภคเมล็ดแฟลกซ์ที่จึงควรเป็นในรูปตากแห้ง และนำไปป่นแล้ว (Ground Flaxeed) ทำให้สุกบ้างด้วยการใส่ไปในเครื่องดื่มร้อน ชงปนกับน้ำร้อน หรืออาหารร้อน หรือไปทำเป็นขนมที่ต้องทำให้สุก เช่นคุกกี้ จะเป็นการไปลดความมีฤทธิ์ทางลบลง

คนสูงอายุมักจะต้องระวังโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งมักจะได้แก่ โรคมะเร็ง โรงเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และโรคเหล่านี้ต้อง สิ่งที่ต้องระวังและปฏิบัติให้สม่ำเสมอ คือ

การทำให้ระบบขับถ่ายทั้งหลาย ได้ดำเนินการไปอย่างปกติที่สุด ดังนั้นอาหารที่ต้องมีเยื่อใยอย่างเมล็ดแฟลกซ์ และอื่นๆ จึงเป็นความจำเป็นสำหรับผู้สูงอายุทั้งหลาย

โรคความดันโลหิตสูง มักจะเกิดจากอาหารที่บริโภคไปมีคอเลสเตอรอลสูง อาหารที่มีลักษณะดูดซับ ทำให้เกิดมวล (Bulk) ในกระเพาะและลำไส้ ย่อมจะไปช่วยลดความอยากในการกินอาหาร ทำให้หิวลดลง กินอาหารเกินความจำเป็นลดลง และช่วยในการขับถ่ายให้เป็นไปตามปกติ แม้จะบริโภคอาหารไม่มากนัก

การได้บริโภคเมล็ดแฟลกซ์จึงช่วยทำให้ระบบการกินอาหารและการดูดซึม ได้ดำเนินไปอย่างปกติได้มากที่สุด


รถยนต์ไฟฟ้าลูกประสมแบบแนวคิด Toyota FT-Bh Concept

รถยนต์ไฟฟ้าลูกประสมแบบแนวคิด Toyota FT-Bh Concept

ประกอบ คุปรัตน์Pracob Cooparat
E-mail: pracob.cooparat@gmail.com

Keywords: รถยนต์ต้นแบบ, Minimalist, Toyota FT-Bh, PHEV, สิ่งแวดล้อม, การลดน้ำหนัก, Aero dynamic


ภาพ รถยนต์ต้นแบบ Toyota FT-Bh

Toyota FT-Bh เป็นนวตกรรมของโตโยต้าที่จะทำให้รถยนต์ขนาดเล็กระดับเดียวกับ Toyota Yaris ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยใช้วัสดุที่ไม่หวือหวา ที่จะทำให้ราคาแพงขึ้นไปด้วย ผลที่ออกมาคือการมีรถยนต์ไฟฟ้าลูกประสมที่ชื่อ Toyota FT-Bh ซึ่ง ณ เวลานี้ยังเป็นรถยนต์แนวคิดอยู่

Toyota FT-Bh มีเป้าหมายประสิทธิภาพการใช้น้ำมันที่ 134 MPG หรือ 56.6 กิโลเมตร/ลิตร หากพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าลูกประสมแบบเสียบปลั๊ก (Plug-in Hybrid Electric Vehicle - PHEV)
FT-Bh ใช้แนวคิด Minimalist คือทำให้เล็กที่สุดและเบาที่สุด น้ำหนักตัวรถ 1700 ปอนด์ หรือ 772.7 กิโลกรัม

FT-Bh ใช้เครื่องยนต์ 3 สูบขนาด 1,000 ซีซี น้ำหนักเพียง 60 กิโลกรัม ถือว่าเล็กที่สุดสำหรับรถในขนาดเดียวกันนี้ ส่วนระบบ Drivetrain ก็ลดน้ำหนักลงด้วย โดยมีน้ำหนักเบากว่าของ Priusมาตรฐาน 90 กิโลกรัม
FT-Bh มีขนาดเท่ากับ Toyota Yaris ยาว 3,985 มม. กว้าง 1,695 มม. และสูง 1,400 มม. โดยรวมใช้วัสดุทุกอย่างให้ประหยัด เพื่อให้ราคาประหยัดตามไปด้วย มีเครื่องปรับอากาศเป่าเฉพาะบริเวณที่ผู้โดยสารนั่งอยู่


ภาพ แนวคิดภายในของรถยนต์  Toyota FT-Bh


ภาพ แนวคิดภายในของรถยนต์  Toyota FT-Bh เบาะที่นั่งแบบบางเบา

Friday, September 21, 2012

รถยนต์สปอร์ตเล็กของอิตาลี Alfa Romeo MiTo


รถยนต์สปอร์ตเล็กของอิตาลี Alfa Romeo MiTo 


ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

ศึกษาและเรียบเรียงจาก Wikipedia

Keywords: supermini, TJD, Euro diesel, พลังงาน, สิ่งแวดล้อม


ภาพ รถยนต์สปอร์ตขนาดเล็ก Alfa Romeo MiTo 

ในโลกของวิทยาการรถยนต์เพื่ออนุรักษ์พลังงาน มีรถยนต์พัฒนาด้วยเทคโนโลยีใหม่ ตั้งแต่รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle – EV), รถยนต์ไฟฟ้าลูกประสม (Electric Hybrid Cars), รถยนต์ไฟฟ้าลูกประสมแบบเสียบปลั๊ก (Plug-in Hybrid Electric Vehicles – PHEV) ในยุโรปยังไม่มีการพัฒนาทางด้านนี้มากนัก เมื่อเทียบกับอเมริกา ญี่ปุ่น แต่เขามีนวตกรรมใหม่ที่อาจเรียกว่า Euro diesel คือพัฒนาเครื่องยนต์สำหรับใช้น้ำมันดีเซลใหม่ ให้มีขนาดเล็ก เบา แต่มีประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูง เผาไหม้หมดจด ก่อผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางอากาศน้อย

แต่ขณะเดียวกัน ก็ยังรักษารสนิยมหรูนิดๆในแบบยุโรป ดูตัวอย่างจาก Alfa Romeo MiTo
รถยนต์สปอร์ตขนาดเล็ก Alfa Romeo MiTo ที่รู้จักกันเป็นภายในว่า Type 955 เป็นรถยนต์สปอร์ตแบบ Supermini ในค่ายรถยนต์ Fiat ของอิตาลี เปิดตัววันที่ 19 มิถุนายน ค.ศ. 2008 ที่ Castello Sforzesco ในเมืองMilan ประเทศอิตาลี และแสดงตัว ณ งานแสดงรถยนต์ของอังกฤษ (British Motor Show) ในปี ค.ศ. 2008 เป็นรถยนต์แบบ hatchback  3 ประตู ขับเคลื่อนด้วยล้อหน้า เป็นรถที่ออกมาเพื่อแข่งขันในตลาดเดียวกับ MINI ของค่าย BMW และ Audi A1 ของกลุ่ม VW ของเยอรมัน รถ Alfa Romeo MiTo ออกแบบโดย Centro Stile Alfa Romeo โดยได้รับแรงจูงใจจาก 8C Competizione ซึ่งเป็นรถสปอร์ตแท้ของ Alfa Romeo เครื่องขนาดใหญ่

MiTo เป็นรถที่สร้างบนฐานรถ Fiat ขนาดเล็ก (Fiat Small platform) ที่ใช้เป็นโครงสร้างของ Fiat Grande Punto และ Opel/Vauxhall Corsa D ในค่ายของ GM ในยุโรป

รถยนต์สปอร์ตเล็กใหม่ของอิตาลี สะท้อนความต้องการของคนยุโรป ที่ต้องประหยัดพลังงาน รักษาสิ่งแวดล้อม และขณะเดียวกัน ก็ต้องการความหรูแสดงความมีเอกลักษณ์ของแต่ละคน MiTo มีใช้ทั้งเครื่องยนต์น้ำมันเบนซิน (Gasoline) น้ำมันดีเซล และก๊าซหุงต้ม LPG โดยมีขนาดเครื่องยนต์ตั้งแต่ .9 ลิตร จนถึงขนาด 1.6 ลิตร ที่น่าสนใจคือการใช้เครื่องยนต์ดีเซลที่พัฒนาใหม่ และเป็นที่นิยมในยุโรป เป็นเครื่อง JTD อันเป็นคำย่อจาก uniJet Turbo Diesel, ของกลุ่มรถยนต์ Fiat ซึ่งปัจจุบันเรียกว่า Common Rail Turbodiesel engine ที่สามารถใช้พลังงานจากดีเซลได้อย่างหมดจด และให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูง

เครื่องยนต์ดีเซลสำหรับรถยนต์ขนาดเล็ก ดังเช่นขนาด 1.3 ลิตร JTD (85 bhp) ใช้เทคโนโลยีดับเครื่องเมื่อรถหยุด (Start&Stop) เพื่อประหยัดพลังงาน มีประสิทธิภาพการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ 4.6 L/100 km (61 mpg-imp; 51 mpg-US) หรือ 21.7 กิโลเมตร/ลิตร สำหรับการวิ่งในเมือง; และ 3.0 L/100 km (94 mpg-imp; 78 mpg-US) หรือ 33.3 กิโลเมตร/ลิตร สำหรับการวิ่งบนทางหลวง; อัตราเฉลี่ยวิ่งในเมืองและทางหลวงที่ 3.6 L/100 km (78 mpg-imp; 65 mpg-US) หรือ 27.8 กิโลเมตร/ลิตร; และการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 95 กรัม/กิโลเมตรการวิ่ง ซึ่งเฉลี่ยต่ำกว่าเครื่องยนต์ในน้ำมันเบนซิน หรือ Gasoline

Toyota ขายรถยนต์ไฟฟ้าลูกประสมแบบเสียบปลั๊ก Prius PHEV ได้ 6,000 คัน


Toyota ขายรถยนต์ไฟฟ้าลูกประสมแบบเสียบปลั๊ก Prius PHEV ได้ 6,000 คัน

ประกอบ คุปรัตน์Pracob Cooparat
E-mail: pracob.cooparat@gmail.com


ศึกษาและเรียบเรียงจากบทความ “Toyota Sell 6,000 Plug-in Prius within first Six Monthsใน Electric Vehicles News - TUESDAY, SEPTEMBER 18, 2012

Keywords: รถยนต์ไฟฟ้าลูกประสมแบบเสียบปลัั๊ก, Toyota, PHEV, Plug-in Prius


รถยนต์ไฟฟ้าลูกประสมแบบเสียบปลั๊ก Toyota Prius Plug-In Hybrid

Toyota ขายรถยนต์ไฟฟ้าลูกประสมแบบเสียบปลั๊ก Prius PHEV ได้ 6,000 คัน การสามารถขายได้ถึง 6,000 คันในช่วงเวลา 6 เดือนของการเปิดตัว ซึ่งนับว่าแซงหน้า รถยนต์ไฟฟ้าลูกประสม Chevrolet Volt Plug-in ซึ่งขายได้ 2,745 คัน และสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าทั้งระบบ Nissan Leaf ซึ่งขายได้ 3,875 คันในช่วงเวลาเปิดตัวเท่าๆกัน

รถยนต์ไฟฟ้าลูกประสมแบบเสียบปลั๊ก หรือ Prius Plug-in เป็นการประสมประสานระหว่างรถยนต์ไฟฟ้าลูกประสมรุ่นมาตรฐานที่วิ่งได้ 50 ไมล์/แกลลอน กับการมีระบบแบตเตอรี่ให้พลังเสริม เพิ่มระยะทางที่สามารถวิ่งได้โดยไม่ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงไปอีกระยะหนึ่ง Prius Plug-in Hybrid รุ่นปี 2012 นี้ สามารถวิ่งได้ 95 ไมล์/แกลลอน โดยเปรียบเทียบ (MPGe = Mile Per Gallon Equivalent) ทั้งนี้ โดยมีแบตเตอรี่ใหม่แบบ Lithium-ion ขนาด 4.4 kWh ซึ่งทดแทนแบตเตอรี่เดิมที่ใช้ nickel metal hydride (NiMH) ซึ่งใส่ไว้ในช่องใต้ที่เก็บของด้านหลังอย่างพอดี สำหรับการชาร์ตไฟเติมในแบตเตอรี่นั้น ใช้เวลาเพียง 2.5-3.0 ชั่วโมงเมื่อใช้ไฟฟ้าขนาด 120v ที่ใช้กันตามบ้านโดยทั่วไปในสหรัฐอเมริกา แต่หากเป็นใช้ไฟฟ้าแบบ 240v ซึ่งใกล้เคียงกับระบบที่ใช้ตามบ้านในประเทศไทย จะใช้เวลาชาร์ตไฟ 1.5 ชั่วโมง

สำหรับการวัดประสิทธิภาพการใช้น้ำมันตามมาตรฐาน EPA รถยนต์ไฟฟ้า Prius Plug-in วิ่งได้ 95 ไมล์/แกลลอน แต่ด้วยการที่มีระยะวิ่งที่ใช้พลังจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว จะวิ่งได้ 11 ไมล์ ซึ่งนับว่าไม่มากเลย แต่สำหรับคนที่รู้จักใช้การวิ่งด้วย Mode ประสม Fuel economy จะสามารถวิ่งได้ที่ 136 MPGs ด้วยเทคนิคการขับในเมือง ซึ่งไม่ต้องใช้ความเร็วสูง

ในปี ค.ศ. 2011 Toyota ได้ขยายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าลูกประสมในชื่อ Prius โดยเพิ่ม Prius v ซึ่งเป็นรถแบบตรวจการแบบ 5 ประตู (Hatchback wagon) ซึ่งมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่ารถ Prius รุ่นมาตรฐาน รถ Prius c ซึ่งเป็นรถยนต์ขนาดเล็ก 5 ประตู (Subcompact hatchback) ซึ่งเป็นขนาดที่เล็กว่า Prius รุ่นมาตรฐาน และในปี ค.ศ. 2012 นี้จะมีรถยนต์ Prius plug-in hybrid โดยรวมรถยนต์ในตระกูล Prius มีการขายในตลาดจนถึงเดือนเมษายน ค.ศ. 2012 ถึง 2,870,000 คัน มีสัดส่วนเป็นร้อยละ 71.8 ของรถยนต์ไฟฟ้าลูกประสมทั้งหมดของบริษัท Toyota Motor ซึ่งโดยรวมขายได้ 4 ล้านคัน ซึ่งรวมถึง Lexus และ Toyota อื่นๆที่ได้ขายแล้วทั่วโลก ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1997

บริษัทรถยนต์ Maruti Suzuki กำลังเร่งพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 800 cc

บริษัทรถยนต์ Maruti Suzuki กำลังเร่งพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 800 cc

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob.cooparat@gmail.com

ศึกษาและเรียบเรียงจาก “Maruti Suzuki plans 800cc diesel engine, may deliver 30kmpl average” โดยKetan Thakkar, ET Bureau Jul 2, 2012, 07.47AM IST

Keywords: Suzuki Motor, Small car segment, Maruti Suzuki, diesel engine, A-Star, 800cc diesel engine, ญี่ปุ่น,Japan, อินเดีย, India, Nissan March, Chevrolet Brio

บริษัทรถยนต์ Maruti Suzuki กำลังเร่งพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 800 cc เพื่อใช้ในตลาดรถยนต์ขนาดเล็ก ซึ่งมีสัดส่วนถึงร้อยละ 45 ในอินเดีย


ภาพ รถยนต์ Maruti Suzuki หรือ Swift ที่มีใช้ในประเทศอินเดีย

MUMBAI: Maruti Suzuki เป็นบริษัทรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย การมีเครื่องยนต์ดีเซลขนาดเล็ก 800cc สำหรับตลาดรถยนต์ขนาดเล็ก นับว่าจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมส์ของตลาดรถยนต์ขนาดเล็ก ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดถึงร้อยละ 45

Description: http://articles.economictimes.indiatimes.com/images/pixel.gifการพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 800cc ของ Maruti Suzuki โดยร่วมมือกับบริษัทแม่ในญี่ปุ่น คือ Suzuki Motor Corp จากบุคคลในวงในที่รู้กล่าวว่า เครื่องยนต์แนวคิดใหม่นี้จะใช้ชื่อว่า E2 และบริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่นกำลังนำการพัฒนานี้อย่างเร่งรีบ เครื่องยนต์ดีเซลใหม่นี้จะให้พลังงานขนาด 40 แรงม้า และให้ประสิทธิภาพการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ 25-30 กิโลเมตร/ลิตร

บุคคลที่อยู่ใกล้กับกระบวนการพัฒนากล่าวว่าโครงการนี้จะใช้เวลาอีกประมาณ 6-12 เดือน และกล่าวอย่างอนุรักษ์ กว่าจะทำให้นำไปสู่สายการผลิตในอินเดียได้ ก็จะเป็นเวลาราวปี ค.ศ. 2015 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า มันเป็นไปได้ที่จะพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลขนาดเล็ก 800cc นี้ ด้วยเทคโนโลยีด้านนี้กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่ปัญหาอยู่ที่การจะทำให้เครื่องยนต์นี้ถูกพอที่จะขายได้ในราคาที่เหมาะสม

มันเป็นงานยากที่จะพัฒนาเครื่องยนต์ขนาดเล็ก แล้วให้มันทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ มันยากที่จะทำให้เครื่องยนต์ระบบ 4 สูบ ให้กลายเป็น 3 สูบ แต่จะยากยิ่งขึ้นไปอีกที่จะทำให้มันเป็นเครื่องยนต์ 2 สูบ แล้วทำให้มันให้พลังงานที่มากพอ ให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีพอ และในราคาที่สามารถซื้อหาได้ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิจัยและพัฒนาอาวุโสที่ไม่ประสงค์จะให้ออกนามกล่าว


ในด้านราคา รถยนต์ Suzuki Swift ที่มีขายในประเทศไทย ซูซูกิ สวิฟท์ (Suzuki Swift) ในรุ่นที่จัดเป็น Eco Car ในประเทศไทย ราคาเงินสด

ขนาดเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร เกียร์มือ เริ่มต้นที่ราคา 429,000 บาท

ขนาดเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ รุ่นแพงสุดที่ 559,000 บาท

นับเป็นรถยนต์ในตลาดเดียวกับ Nissan March, และ Chevrolet Brio จัดเป็นรถในระดับ Eco car ที่ได้สิทธิพิเศษบางประการในประเทศไทย แต่โดยทั่วโลกในประเทศสหรัฐอเมริกาและอื่นๆ ที่ต้องการรถยนต์ที่มีความเร็วและสมรรถนะโดยรวมสูงขึ้น ก็จะมีเครื่องยนต์ขนาด 1.4 และ 1.6 ลิตร รองรับ และก็ด้วยราคาที่สูงขึ้นด้วย

ในอนาคต หากมีรถยนต์ขนาดเล็กในแบบ Maruti Suzuki ของอินเดีย ที่ใช้เครื่องดีเซล 2 สูบขนาดความจุ 800cc และมีพลังที่ 40 แรงม้า ดังที่ได้เสนอไปแล้ว ก็ดูอาจจะมีพลังน้อยไปสำหรับประเทศไทย แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการประหยัดพลังงานที่คิดออกมาเป็นราคา และตลอดจนราคารถยนต์ หากยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 500,000 บาท ก็นับว่าจะยังน่าสนใจสำหรับตลาดในเอเชียอย่างประเทศไทย ที่ต้องการรถยนต์ขนาดเล็ก

ข้อมูลพื้นฐานจาก Wikipedia - Suzuki Motor Corporation (スズキ株式会社 Suzuki Kabushiki-Kaisha?) เป็นบริษัทข้ามชาติ ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ Minami-ku, Hamamatsu, Japan ในประเทศญี่ปุ่น มีความเชี่ยวชาญเรื่องการผลิตรถยนต์ขนาดเล็ก รถยนต์ขับเคลื่อนด้วย 4 ล้อ รถมอเตอร์ไซค์ รถวิ่งทางวิบาก (All-terrain vehicles (ATVs), เครื่องยนต์สำหรับเรือ (Outboard marine engines) ยานพาหนะสำหรับผู้พิการ (wheelchairs)

Suzuki จัดเป็นบริษัทรถยนต์ใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของญี่ปุ่น รองจาก Toyota, Nissan และ Honda เป็นบริษัทผลิตรถยนต์ใหญ่เป็นอันดับที่ 9 ของโลก มีคนงาน 45,000 คนใน 35 ฐานการผลิตใน 23 ประเทศ มี 133 ส่วนงานจัดส่ง (Distributors) ใน 192 ประเทศทั่วโลก ตามสถิติของสมาคมผู้ผลิตรถยนต์ในญี่ปุ่น (Japan Automobile Manufacturers Association - JAMA) Suzuki เป็นผู้ผลิตรถยนต์และรถบรรทุกขนาดเล็กที่ใหญ่เป็นอันดับสองของญี่ปุ่น

Wednesday, September 19, 2012

การออกกำลังสมอง (Brain Exercise) - 2


การออกกำลังสมอง (Brain Exercise) - 2

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

Keywords: การเขียน, writing, brain exercise, การออกกำลังสมอง, ความจำ, memory

เมื่อผมเป็นครูอาจารย์ จุดด้อยของผมประการหนึ่งคือ "สอนหนังสือ แต่ไม่ได้สอนคน" ผมชอบบรรยาย แต่บ่อยครั้งผมจำชื่อนิสิตนักศึกษาที่เรียนกับผมไม่ค่อยได้ บางทีจำหน้าได้ จำความคิดที่เขาเขียนหรือพูดได้ แต่ลืมชื่อเขาบ่อยๆ ... แต่มาเดี๋ยวนี้มีเครื่องมือช่วยความจำ มีกล้องถ่ายภาพ Digital และมีโทรศัพท์แบบ iPhone มีโปรแกรมอย่าง Facebook และ website ช่วยงานอื่นๆ ผมจึงสร้างอัลบัมภาพช่วยความจำ พร้อมทั้งมีฐานข้อมูลกำกับไปกับภาพหน้าคน เขาเรียกว่า Tag Photo คือการเอาข้อความแปะกับภาพหน้าคนแต่ละภาพ ช่วยทำให้จำคนได้ง่ายขึ้น

นอกจากใช้อัลบัมภาพ (Albums) เพื่อช่วยความจำแล้ว ผมยังใช้ช่วยในการออกกำลังสมอง (Brain exercise) ผมชอบเดินทางท่องเที่ยว เห็นภาพที่ไหนที่น่าสนใจ ก็จะถ่ายเก็บไว้ แล้วมานำเสนอพร้อมแสดงความคิดเห็นประกอบ บางเรื่องหากสนใจก็จะขยายความคิดเพิ่มเติมไปอีกสักระดับหนึ่ง ปัจจุบันนี้มีภาพถ่ายใน Facebook แบ่งออกเป็น 40 อัลบัม (Albums) มีภาพรวม 1,861 ภาพ ความจริงภาพที่ถ่ายมีมากกว่านี้ แต่ตามหลักคือเสนอเพียงพอประมาณ หากเสนอมากไป ก็จะกลายเป็น Information overload
แต่หากเรื่องใดประเด็นใดที่รู้สึกสนุกที่ติดตามลึกซึ้งขึ้นไป ก็จะประมวลเขียนลงใน My Words จึงกลายเป็นบทความทั้งขนาดสั้นและยาวรวม 1,359 บทความ ขณะที่เขียนและนำเสนอไป จะค่อยๆกลับมาดูว่า ส่วนไหนที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ ก็จะหาทางเข้ามาขยายความ ทำให้ได้ข้อมูลที่ลึกยิ่งขึ้น

หากจะมีคนถามผมว่าทำไปทำไม ไม่รู้สึกเหนื่อยหรือ? ก็คงจะตอบได้ว่ามันเป็นคล้าย Hobby ของคน บางคนสะสมแสตมป์ โปสการ์ด เหรียญ รถยนต์ บางคนชอบร้องเพลงคาราโอเกะ ชอบเขียนกลอน ทำกับข้าว ฯลฯ

งานอดิเรกของผม คือ การเอาทักษะด้าน ICT มาใช้ควบคู่กับการถ่ายภาพ การพิมพ์/การเขียน พร้อมกับฝึกเรียกความรู้ความเข้าใจที่มีอยู่มาใช้ ผมมีความชอบของผมในอีกแบบหนึ่ง ผมชอบถ่ายภาพ แม้ถ่ายได้มีดีนัก ไม่มีศิลปะ เป็นภาพที่บันทึกสิ่งที่ได้เห็น กล้อง Digital ที่ใช้ก็ไม่ใช่อย่างหรูอะไร ภาพที่ได้จากการท่องเที่ยว ถ่ายเสียหรือซ้ำๆกัน ก็จะลบภาพลงเสียส่วนหนึ่ง ภาพที่ดูจะมีสาระที่จะนำเสนอ ก็นำเสนอไปใน Web เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน

สิ่งเหล่านี้ที่ทำอยู่ ผมเรียกว่า “การออกกำลังสมอง” (Brain Exercise) ที่ผมทำควบคู่กับการออกกำลังกายในแต่ละวัน ทำเท่าที่รู้สึกสนุกที่จะทำ ทำเพื่อให้ร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ของเราตื่นตัว แข็งแรง และสดชื่นอยู่เสมอ