ภาพยนตร์เรื่อง Atonement
ประกอบ คุปรัตน์
แปลและเรียบเรียง
มูลนิธิก้าวไกลในเอเซีย
Springboard For Asia Foundation (SB4AF)
E-mail: pracob@sb4af.org
Updated: Saturday, June 21, 2008
From Wikipedia, the free encyclopedia
ความนำ
Atonement แปลว่าการชดเชย คือเมื่อได้กระทำผิดไปแล้ว ก็ต้องชดเชยหรือชดใช้ความผิดนั้น
Atonement เป็นภาพยนตร์ที่ได้นำออกฉายในปี ค.ศ. 2007 โดยเป็นนวนิยายในบทประพันธ์ชื่อเดียวกันของ Ian McEwan' กำกับภาพยนตร์โดย Joe Wright, และจัดทำบทเป็นภาพยนตร์โดย Christopher Hampton ผลิตโดย Working Title Films และถ่ายทำเป็นภาพยนตร์โดยใช้ฉากช่วงฤดร้อนในปี ค.ศ. 2006 ในประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส
นำแสดงโดย James McAvoy และ Keira Knightley. จัดจำหน่ายทั่วโลกโดย Universal Studios, และมีจำนวนน้อยที่จัดจำหน่ายโดยส่วนอื่นๆ โดยได้มีการเผยแพร่ในประเทศสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ในวันที่ 7 กันยายน ค.ศ. 2007 และเผยแพร่ในสหรัฐอเมริกาในวันที่ 7 ธันวาคม ค.ศ. 2007
ภาพยนตร์เรื่อง Atonement เปิดตัวในปี ค.ศ. 2007 ที่งานภาพยนตร์นานาชาติที่เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา (Vancouver International Film Festival) และพร้อมกันที่งานภาพยนตร์นานาชาติครั้งที่ 64 ของเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี (64th Venice International Film Festival) และทำให้ Wright ซึ่งมีอายุ 35 ปี เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ที่อายุน้อยที่สุดของกิจกรรมนั้นตั้งแต่เคยมีมา
ภาพยนตร์ได้รับรางวัล Oscar สำหรับทบภาพยนตร์เริ่มแรกที่ดีที่สุด (Best Original Score) ในงานของสถาบันครั้งที่ 80 (the 80th Academy Awards) และได้รับการเสนอชื่อให้เข้าชิงอื่นๆ อีก 6 รายการ รวมทั้งภาพยนตร์ดีเด่น (Best Picture), การจัดฉากภาพยนตร์ดีเด่น (Best Adapted Screenplay ) และผู้แสดงประกอบฝ่ายหญิงดีเด่น (Best Supporting Actress) ซึ่งแสดงโดย Saoirse Ronan .[3] ในงานแสดงของสถาบันภาพยนตร์แห่งอังกฤษครั้งที่ 61 (61st British Academy Film Awards) ได้รับการเลือกให้เป็นภาพยนตร์ดีเด่นแห่งปี (the Best Film of the Yea)r, และอีกรางวัลคือ การออกแบบภาพยนตร์ดีเด่นแห่งปี (the Production Design award).[4]
แนวเรื่อง (Plot)
ภาพยนตร์แบ่งออกเป็น 4 ตอน สอดคล้องกับ 4 นิยายเรื่องนี้ ในบางฉากได้มีการนำเสนอในรูปแบบอื่นๆอีกหลายครั้ง
Briony Tallis คือตัวละคอนที่เดินเรื่อง แสดงโดย Saoirse Ronan เธอเป็นเด็กหญิงอายุ 13 ปีที่มาจากชนชั้นสูงของครอบครัวชาวอังกฤษ เป็นน้องสาวคนสุดท้องของจำนวน 3 คน ซึ่งมีความไฝ่ฝันที่จะเป็นนักเขียน (Writer)
พี่สาวคนโต Cecilia (นำแสดงโดย Keira Knightley) ได้รับการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งหนึ่งของอังกฤษ คือที่ Cambridge University ซึ่งมีเพื่อนร่วมเรียนด้วยกัน คือ Robbie Turner (นำแสดงโดย James McAvoy), เป็นบุตรชายของแม่บ้าน (housekeeper) แสดงบทโดย Brenda Blethyn โดยค่าเล่าเรียนของ James McAvoy ได้รับการสนับสนุนโดยบิดาของ Cecilia
แม้ Robbie จะมีแผนที่จะศึกษาต่อในคณะแพทยศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยในเร็วๆนั้น เขาได้มาทำงานที่บ้านของ Tallis โดยที่นั้นมีญาติลูกพี่ลูกน้อง ชื่อ Lola Quincey (รับบทโดย Juno Temple) อายุ 15 ปี และมีพี่น้องฝาแฝด (Felix และ Charlie von Simson) ที่ได้มาเยี่ยมครอบครัวในช่วงที่พ่อแม่แยกทางกัน ตัวละคอนท้ายสุด คือ Leon (แสดงโดย Patrick Kennedy) เป็นพี่น้องของ Briony และ Cecilia ที่ได้นำเพื่อนชื่อ Paul Marshall (แสดงโดย Benedict Cumberbatch) ซึ่งเป็นตระกูลที่ได้รับสัญญาผลิตชอคโกแลตให้กองทัพ ครอบครัวของ Tallis วางแผนจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำพิเศษ โดยที่ Leon ได้เต็มใจที่จะเชิญ Robbie มาร่วมงานด้วย ซึ่ง Cecilia รู้สึกรำคาญใจ
Briony เพิ่งเขียนบทละคอนเรื่อง “การขึ้นศาลคดี Arabella (The Trials of Arabella) ซึ่งเธอพรรณนาว่าเป็น “ความซับซ้อนแห่งรัก” (the complications of love) อย่างไรก็ตาม ญาติของเธอได้กระทำในสิ่งที่ขัดแย้งมาก โดยที่ในห้องนอนของเธอ เธอได้เห็น Robbie และพี่สาวของเธอที่บริเวณน้ำพุ เธอเห็นพี่สาวของเธอได้เปลื้องผ้าออกจนเห็นชั้นในแล้วลงไปในน้ำพุนั้น เพื่อที่จะหาชิ้นส่วนของแจกันที่หลุดหายไป โดยเธอเข้าใจว่า Robbie ได้เข้าลวนลามพี่สาวของเธอ แต่ที่แท้แล้ว ทั้งสองคนมีความรักต่อกัน โดยที่ความรู้สึกนั้นก็ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ โดยที่ต่อมา Robbie ได้เขียนจดหมายขอโทษ Cecillia โดยมีสองฉบับ ฉบับหนึ่งเป็นการขอโทษต่อการกระทำ และอีกฉบับหนึ่งเป็นการแสดงความรู้สึกทางเพศ ในระหว่างที่ Robbie กำลังเดินทางไปร่วมงานเลี้ยงของครอบครัว Tallis เขาได้ขอฝากจดหมายที่มีถึง Cecilia โดยเป็นจดหมายส่วนที่ฝาก Briony มีข้อความทางเพศอย่างเปิดเผย แต่กว่าที่ Robbie จะมารู้ว่าได้ฝากจดหมายผิดฉบับไปก็สายเสียแล้ว และ Briony ได้แอบเปิดอ่านจดหมายนั้น ทำให้รู้สึกเป็นการตอกย้ำพฤติกรรมของ Robbie และคิดว่าเขาเป็นพวกจิตทางเพศวิตถาร แต่เมื่อ Cecilia ได้รับและอ่านจดหมายนั้น แทนที่จะรู้สึกโกรธกลับรู้สึกร่าเริง และในเย็นวันเดียวกันนั้นอีก ที่ทั้งสองได้แสดงบทรักระหว่าง Cecilia และ Robbie อีก โดย Briony เป็นฝ่ายจู่โจมพี่สาวของเธอ แต่ด้วยความที่เป็นเด็กและมองเห็นภาพนั้นว่าเป็นการคุกคามทางเพศของ Robbie ดังนั้นที่โต๊ะรับประทานอาหาร Briony ได้แสดงความโกรธ Robbie ออกมา แต่ต้องหยุดลงเมื่อแม่ของเธอ (แสดงโดย Harriet Walter) ให้ตามหาญาติฝาแฝดของเธอ โดยมีจดหมายบอก Briony ทิ้งไว้บนเตียงว่าเขาทั้งสองกำลังจะหนีกลับบ้าน ทุกคนตกใจ ครอบครัวของ Briony ได้ออกตามหาแฝดทั้งสองทั่วบริเวณที่ดินของครอบครัว
ในขณะที่ Briony ได้แยกออกตามหาตามลำพังในความืดนั้น เธอได้ไปพบชายในชุดทักซีโดกำลังข่มขืน Lola และที่ทำให้ Lola อยู่ในอาการตกใจ ไม่ได้บอกว่าเธอพบใครเป็นคนมาข่มขืนเธอนั้น เพราะเขาปิดตาเธอ ทุกคนเชื่อว่า Robbie เป็นคนที่กระทำการข่มขืนนั้น โดยที่ Cecilia ไม่ได้ปักใจเชื่อเช่นนั้น ต่อมา Robbie ได้กลับมาจากการค้นหา โดยที่นำพี่น้องทั้งสองคนกลับมาด้วย แต่ก็ต้องมาถูกจับเข้าคุก
ฉากได้เปลี่ยนไปสู่อีก 4 ปีให้หลัง ซึ่งเป็นช่วงแรกของสงครามโลกครั้งที่สอง Robbie ได้ถูกตัดสินให้เข้าคุก แต่ได้รับการปล่อยตัวในเงื่อนไขว่าเขาจะเข้ารับราชการเป็นทหาร เขาได้เป็นทหารในยศพลทหารในกองทัพของอังกฤษ (British Expeditionary Force) ที่ได้ไปทำการรบนอกประเทศ โดยได้พลัดหลงไปกับเพื่อนทหารอีก 2 คน และต้องซ่อนตัวอยู่ในห้องใต้หลังคาในช่วงที่เยอรมันได้บุกฝรั่งเศสแล้ว ภาพปรากฎย้อนกลับไปสู่ช่วงที่เขาได้รับการกล่าวหาว่ากระทำการข่มขืน ก่อนที่เขาจะได้รับการปลดประจำการ เขาได้พบกับ Cecilia อีกครั้งในกรุงลอนดอน ที่ซึ่งเขาได้กลับมารักกันอีก และเขาได้สัญญาว่าจะกลับมาหาเธอ เหมือนกับ Cecilia ผู้เป็นพี่สาว Briony (ในตอนนี้แสดงบทโดย Romola Garai) ได้เข้าร่วมเป็นพยาบาลอาสาในกรุงลอนดอน Briony พยายามที่จะติดต่อกับพี่สาวของเธอ แต่ได้รับการปฏิเสธ โดยโกรธที่ Briony ได้ทำให้ Robbie คนรักต้องถูกจำคุก และปรากฎว่า Cecilia ได้แยกจากครอบครัวของเธอ ด้วยทั้งหมดเชื่อว่า Robbie ได้กระทำผิดจริง
ในฉากที่ Robbie กับเพื่อนทหารอีกสองคนที่บาดเจ็บและป่วยหนัก เขาได้หลบหนีมาจนถึงหาด Dunkirk เพื่อรอการอพยพกลับเกาะอังกฤษ เขาได้รับการบอกเล่าว่าจะได้รับการขนถ่ายข้ามทะเลกลับในวันต่อมานั้น เขาได้เผลอหลับไป หลังจากนั้นเป็นฉาก Briony ที่เป็นพยาบาลทดลองงาน เธอได้พบกับภาพอันน่ากลัวของการขนย้ายนั้น ในฉากหนึ่ง ทหารฝรั่งเศสได้ตายอยู่ในขณะที่เธอกำลังพยายามปลอบโยนอยู่
ภาพ Robbie Turner และ Cecilia Tallis ในช่วงสงคราม
ในขณะที่ภาพยนตร์ได้แสดงให้เห็น Paul Marshall ได้กลายเป็นเศรษฐีจากการผลิตชอคโกแลตในช่วงสงคราม Briony ได้ไปร่วมงานแต่งงานของ Marshall กับญาติของเธอ คือ Lola ในขณะนั้น Briony ได้พยายามจะเขียนจดหมายแสดงว่า เธอได้เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่าง Robbie กับพี่สาวของเธอผิดไป โดยไปกล่าวหา Robbie เป็นคนไปข่มขืน Lola โดยที่ Paul และ Lola ในคืนนั้นก็ไม่ได้พูดความจริง ในคืนต่อมา Briony ได้รวบรวมความกล้าที่จะไปเยี่ยม Cecilia ที่แฟลตของเธอ เพื่อจะถอนคำพูดของเธอที่ได้กล่าวหาไปในช่วงที่ยังเป็นเด็กนั้น Robbieได้รับการขนถ่ายข้ามทะเลจาก Dunkrk กลับมาอังกฤษแล้ว และได้ไปพบ Cecilia ที่ห้องนอนของเธอ ทั้งตกใจและโกรธ Robbie โต้เถียงกับ Briony โดยที่ Cecilia ได้เป็นฝ่ายปลอบโยนเขา แต่ทั้งคู่เรียกร้องให้ Briony ต้องบอกแก่ครอบครัวและฝ่ายบ้านเมืองเกี่ยวกับความจริงในทันที เพื่อทำให้เขาได้พ้นผิดในข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นจริง
Robbie ได้ย้ำให้ Briony ต้องเขียนจดหมายเล่ารายละเอียดต่างๆที่ได้เกิดขึ้น โดย Cecilia และ Robbie เข้าใจว่าเด็กรับใช้คนหนึ่งเป็นผู้กระทผิดนั้น แต่ Briony ได้กล่าวว่าคนที่เป็นผู้กระทำการนั้น แท้จริงคือ Paul Marshall ซึ่งในปัจจุบันนั้น ได้แต่งงานกับ Lola แล้ว จึง Lola ไม่สามารถให้การเป็นปฏิปักษ์ต่อสามีของตนได้ Briony ได้นั่งรถใต้ดิน (Underground) จากไปหลังจากได้เล่าความจริงให้กับทั้งพี่สาวและ Robbie แล้วถึงเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้น
ในฉากต่อมา Briony ทีได้กลายเป็นหญิงชรา (แสดงบทโดย Vanessa Redgrave) กำลังอยู่ในอารมณ์เศร้าแห่งความทรงจำนั้น เธอกำลังถูกสัมภาษณ์เกี่ยวกับนวนิยายล่าสุดของเธอ (ผู้สัมภาษณ์แสดงโดย Anthony Minghella) และในตอนนี้ที่ Briony ได้กล่าวว่าเธอกำลังจะตายด้วยโรค vascular dementia และเรื่อง Atonement จะเป็นเรื่องสุดท้ายที่เธอได้เขียน
Briony ได้ยอมรับว่านวนิยายเป็นเรื่องเกี่ยวกับอัตชีวประวัติ แต่ในตอนท้ายของเร่องได้เปลี่ยนไป ในความเป็นจริง เธอไม่เคยได้มีความกล้าเพียงพอที่จะรับผิดและได้เล่าความเป็นจริงให้กับพี่สาวฟัง Robbie ได้เสียชีวิตด้วยโรค septicemia ตั้งแต่คืนที่อพยพในวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 1940 และ Cecilia ได้เสียชีวิตด้วยการจมน้ำตายไปเมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 1940 ในช่วงวินาศภัยในบริเวณสถานีรถไฟใต้ดินในช่วงการทิ้งระเบิด (Balham tube station disaster) เธอได้ยอมรับว่าได้เปลี่ยนในช่วงท้ายของเรื่อง เพื่อแสดงความเสียใจโดยกล่าวในนวนิยายนี้ เพื่อให้ตอนจบเป็นไปดังที่คนทั้งสองควรจะได้รับความสุขนั้น
เป็นการกล่าวสุดท้ายในความเสียใจที่เธอได้โขมยความสุขที่พี่สาวของเธอและ Robbie คนรักที่ควรจะได้รับ นวนิยายเรื่องนี้จึงเป็นการกล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซื้งของเด็กวัย 13 ปีที่ได้สร้างความเสียหายอันใหญ่หลวงให้กับคนทั้งสอง และเธอจะเสียใจตลอดไป
ภาพยนตร์ปิดท้ายลงด้วยฉากง่ายๆ ที่แสดงถึงความสุขที่ Cecilia และ Robbie ควรจะได้รับ หากได้มีการเปลี่ยนบทให้ต่างไปจากความเป็นจริง ภาพหลังฉากเป็นโปสการ์ดของหน้าผาและชายหาดในประเทศอังกฤษ ที่ซึ่ง Cecilia ครั้งหนึ่งได้เคยให้ไว้กับ Robbie
ตัวละคอน (Cast)
Keira Knightley as Cecilia Tallis, the elder of the two Tallis sisters.[5] Originally intended to play 18-year-old Briony, Knightley was the first reported to have landed one of the starring roles in Atonement, having previously worked with Wright on the cinema adaptation of Jane Austen's Pride & Prejudice (2005).[6] With the director and Knightley unable to agree over which character the actress should play, Wright finally decided on Cecilia "because she has none of that Elizabeth Bennet vibe."[6] In preparing for her role, Knightley watched films from the 1930s and 1940s, such as Brief Encounter and In Which We Serve, to study the "naturalism" of the performances in those films that Wright wanted in Atonement.[5]
James McAvoy as Robbie Turner, the son of the Tallis family housekeeper with a Cambridge education courtesy of his mother's employer. Having refused previous offers to work with Wright, McAvoy was the director's first choice (producers met several actors for the role, including Jake Gyllenhaal,[7] but McAvoy was the only one offered the part), fitting Wright's call for an actor who "had the acting ability to take the audience with him on his personal and physical journey." The actor noted that Robbie was one of the most difficult characters he had ever played, "because he’s very straight-ahead".[5]
Saoirse Ronan as Briony Tallis (age 13), the youngest Tallis sister and aspiring novelist. Twelve-year-old newcomer Saoirse Ronan was not cast until casting director Jina Jay had come across her after many unsuccessful auditions around Great Britain. McEwan called her performance "remarkable": "She gives us thought processes right on-screen, even before she speaks, and conveys so much with her eyes."[5] Ronan received an Academy Award nomination for Best Supporting Actress for her performance.
Romola Garai as Briony Tallis (age 18): Garai was the last of all three incarnations of the younger Tallis sister to be cast,[5] following Abbie Cornish's refusal, who backed out due to scheduling conflicts with Elizabeth: The Golden Age (2007).[8] She was obliged to adapt her performance's physicality to fit into the Briony appearance that had already been decided upon for Ronan and Redgrave, spending time with Ronan and watching footage of her to approximate the way the younger actress moved".[5]
Vanessa Redgrave as Briony Tallis (age 77): Everyone's ideal to play the older Briony,[5] Vanessa Redgrave was the first approached (although she was not cast until they had found Ronan),[9] committing to the role after one meeting with Wright. Accordingly, she, Ronan, and Garai worked with a voice coach to keep the character’s timbre in a similar range throughout the story.[5]
Harriet Walter as Emily Tallis, the matriarch of the family. Both Emily Watson[10] and Kristin Scott Thomas[10] were approached to play the role of Emily Tallis before the role went to Walter.
Patrick Kennedy as Leon Tallis, the eldest of the Tallis siblings
Brenda Blethyn as Grace Turner, Robbie's mother, the Tallis family housekeeper
Juno Temple as Lola Quincey, the visiting 15-year-old cousin of the Tallis siblings
Charlie and Felix von Simson as Jackson and Pierrot Quincey, Lola's nine-year-old twin
brothers
Benedict Cumberbatch as Paul Marshall, a visiting friend of Leon Tallis
Danny Mays as Tommy Nettle, a fellow soldier of Robbie
Jérémie Renier as Luc Cornet, the wounded French soldier Briony (18) comforts in the hospital
Dan Fleury as Chris Singleton, French-speaking wounded soldier
Nonso Anozie as Frank Mace, another fellow soldier
Anthony Minghella as the Interviewer
No comments:
Post a Comment