การศึกษาคือการทำให้คนเปิดกว้างทางความคิด
Keywords: การเปิดกว้างทางความคิด,
Open-mindednes, การเมือง, politics, การปกครอง,
governance, การศึกษา, education
It
is the mark of an educated mind to be able to entertain a thought without
accepting it. - Aristotle
ลักษณะคนมีการศึกษา คือคนที่ชื่นชอบต่อความคิด
แม้จะยังไม่ได้ยอมรับความคิดนั้นๆ – อริสโตเติล
ภาพ นักปราชญ์ชาวกรีก เกิดเมื่อ 384 ปีก่อนคริสตกาล
เมื่อผมสอนหนังสือ ผมชอบนำความคิดแปลกใหม่ (Ideas)
มานำเสนอ
แม้ความคิดนั้นๆอาจจะยังไม่ได้สอดคล้องกับค่านิยมในสังคมในขณะนั้น
หรือแม้แต่ผมเองก็ยังไม่ได้เชื่อในความคิดเหล่านั้น มันไม่ใช่เรื่องยากหรอกสำหรับโลกยุคใหม่
เพราะเราสามารถแสวงหามันได้จากหลายๆเส้นทาง เช่น การอ่านจากหนังสือ ฟังเพื่อนหรือนักวิชาการ
หรือควานหาเอาในสื่อต่างๆที่เปิดในระบบออนไลน์
โดยหลักของการศึกษาในยุคใหม่
เราต้องเริ่มต้นเรียนรู้ด้วยการมีจิตใจเปิดรับ (Open-mindedness) บางอย่างที่สังคมมีปัญหาอยู่แล้ว
การได้ฟังความคิดเห็นและทางเลือกที่แตกต่างกันออกไป ก็ได้รับการรับฟังมากหน่อย และมีการนำไปคิดหาความเป็นไปได้
การต่อต้านก็จะน้อย แต่ในบางอย่างที่สังคมมีปัญหาแบบไม่เคยรู้ตัว และเราได้รับมันมาอย่างฝังแน่น
ไม่เคยได้คิดที่จะเปลี่ยนแปลง ดังนี้ การต่อต้านความคิดนั้นๆก็จะมีมาก
เรื่องของความคิด – ผมไม่เห็นด้วยกับแนวทางประชาธิปไตยในแบบที่ตะวันตกยัดเยียดให้กับเรา
เช่น การเน้นการเลือกตั้งเป็นตัววัดประชาธิปไตย
แต่ไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องของประชานิยม (Populism) ที่นำนโยบายที่มีผลเสียระยะยาว
หรือ การนำมาซึ่งระบบเล่นพรรคเล่นพวก (Nepotism/ cronyism) การคอรัปชันอย่างกว้างขวาง
โดยไม่มีกลไกถ่วงดุล หรือรักษาธรรมาภิบาลได้จริง แต่ในอีกด้านหนึ่ง
ผมก็เห็นว่าในบ้านเมืองไทยเรานี้ เราได้อยู่ในยุคที่บ้านเมืองไม่ได้มีการเลือกตั้ง
ไม่มีตัวแทนของประชาชนทำหน้าที่มานานแล้ว
เราอาจได้รัฐบาลที่ดีที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง
แต่จากประสบการณ์ด้านรัฐศาสตร์ทั่วโลก มีหลักอยู่ว่า เมื่อการเวลาผ่านไป “อำนาจโดยสมบูรณ์จะนำไปสู่การคอรัปชั่นอย่างสมบูรณ์”
ในที่สุดเช่นกัน
ดังนั้น ผมจึงเห็นด้วยที่เราต้องยึดมั่นในแผนงาน
(Road map) ที่ได้ยึดมั่นกันไว้ เตรียมความพร้อมขั้นพื้นฐานที่จะนำไปสู่ประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง
ส่วนใครมาจากพรรคการเมืองใดที่จะมาบริหารบ้านเมือง ผมก็ทำใจยอมรับได้
และแม้จะมีพรรคการเมืองใดกลับมาบริหารบ้านเมืองแบบเผด็จการทางรัฐสภา
เราก็มีกลไกที่จะต่อต้านได้อย่างสันติวิธี
ไม่มีใครรู้อนาคตหรอก
แต่เราต้องมีความเชื่อมั่นว่า การเปลี่ยนแปลงที่ดีเกิดขึ้นได้ หากเราช่วยกัน
และก็ทำใจไว้ด้วยแล้วว่า บ้านเมืองไม่ใช่ของเราฝ่ายเดียว
ฝ่ายที่เห็นต่างจากเราก็มี และเราต้องเปิดใจรับฟังเขาด้วย
No comments:
Post a Comment