Sunday, August 16, 2009

มีเพื่อนใหม่ แต่อย่าลืมเพื่อนเก่า

มีเพื่อนใหม่ แต่อย่าลืมเพื่อนเก่า
ประกอบ คุปรัตน์
E-mail: pracob@sb4af.org
Updated: Thursday, December 07, 2006

ผมนำบทความที่ได้เขียนเนื่องในปีใหม่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เห็นว่าได้พูดไว้เกี่ยวกับ Human Network การสร้างกลุ่มเพื่อน จึงได้นำมาเสนออีกครั้งใน My Words นี้

สวัสดีปีใหม่ สำหรับทุกๆ คน
มีเพลงในภาษาอังกฤษสำหรับให้เด็กๆ ร้อง มีความบางส่วนดังนี้

Make new friends,
but keep the old.
One is silver,
And the other gold,

แปลความเป็นไทยได้ว่า

มาหาเพื่อใหม่กัน
แต่ก็ให้รักษาเพื่อนเก่า
คนหนึ่งนั้นเป็นดังเงิน
และอีกคนก็เป็นดังทอง

มันเป็นเพลงสอนให้เด็กเล็กๆ ดังเช่นเริ่มต้นตั้งแต่อนุบาล สอนให้รู้จักสร้างเพื่อนผูกมิตร และขณะเดียวกันมีเพื่อนเก่าอยู่ ก็ต้องให้รู้จักมีมิตรภาพที่ยั่งยืนต่อกัน สิ่งที่ผูกพันให้เด็กๆ ได้อยู่ในสถานศึกษานั้นไม่ใช่ครูอาจารย์หรอก บางทีเด็กๆ เมื่อเปิดเทอมใหม่นั้น เขาจะร้องไห้กระจองอแง เพราะกลัวโรงเรียน กลัวคุณครู แม้แต่ครูที่ว่าใจดีที่สุด ก็ยังมีเด็กบางคนหวาดกลัว มันเป็นธรรมชาติเช่นนั้น แต่สิ่งที่จะทำให้เด็กๆ ได้คุ้นเคยกับโรงเรียน ห้องเรียนเล็กๆ ของเขา คือเพื่อนๆ ในห้องเรียนนั้นๆ หากเด็กๆ มีมิตรไมตรีต่อกัน สนุกที่จะเรียนร่วมกัน เล่น และกินร่วมกัน ก็จะทำให้เขามีความสุขในการเรียนไปด้วย

ในสุภาษิตจีนมีคำกล่าวว่า

“อันนกไม่มีขน คนไม่มีเพื่อนนั้นดูจะกระไร” เขาหมายจะสอนให้คนทุกคน ต้องมีเพื่อน คนเราธรรมดา ไม่ว่าดีหรือเลวอย่างไร ก็ต้องมีเพื่อน คนไม่มีเพื่อนนั้นยากที่จะอยู่ในโลกมนุษย์ที่เป็นสัตว์สังคมได้อย่างมีความสุข

หรือ สุภาษิตที่ว่า “คนเรามีเพื่อนสักร้อยคน ก็นับว่ายังไม่พอ แต่ถ้ามีศัตรู 1 คน ก็นับว่าเกินพอ” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการต้องมีเพื่อน และต้องพยายามหลีกเลี่ยงการสร้างศัตรูโดยไม่จำเป็น

ในการประชุมกรรมการประจำปีของมูลนิธิเด็ก ครั้งหนึ่ง ซึ่งผู้เขียนเป็นกรรมการอยู่ด้วย ศาสตราจารย์นายแพทย์ประเวศ วะสี ประธานกรรมการมูลนิธิเด็ก ได้เก็บความจากในมุมมองฝรั่งที่มีประโยชน์ต่อการทำงานขององค์กรพัฒนาเอกชนของไทยเรา จับความได้ว่า

อันคนเราจะประสบความสำเร็จในชีวิตนั้น ต้องมี 3 สิ่ง คือ INN ซึ่งเป็นคำสอนของ

I = Individual คือความรู้ ความสามารถ และสิ่งที่เป็นตัวตนของเรา
N = Node คือกลุ่มคนที่เป็นแกนหลักในการดำเนินการนั้นๆ ซึ่งเป็นกลุ่มคนขนาดไม่ใหญ่ ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด อาจจะเรียกว่า Teamwork ก็ได้
N = Network คือ เครือข่าย อันหมายถึงเครือข่ายคน ซึ่งเป็นบุคคล องค์กรที่อยู่ในระดับรอบนอกออกไป แต่คนที่มีความสามารถในการใช้ความร่วมมือ รับรู้สื่อสาร และทำงานร่วมกันในแต่ละงาน ผ่านเครือข่ายที่โยงใยเข้าหากัน และอาจทำงานร่วมกันเป็นเฉพาะกิจ

I = Individual - ผมลองมาพิจารณาดู คนเรามีความรู้ ความสามารถ ฉลาดเฉลียว และมีคุณธรรมอันดี นับว่าเป็นสิ่งสำคัญ เราต้องหมั่นฝึกฝน เรียนรู้ และพัฒนาขีดความสามารถอย่างไม่หยุดยั้ง แต่ก็จะไม่ใช้ทั้งหมด
N = Node - จุดต่อเชื่อม - คนเราต้องรู้จักทำงานกับทีมงาน (Node) Node เป็นคำที่คนไทยไม่ค่อยคุ้นนัก แต่สำหรับพวกทำงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแล้วจะคุ้นเคยดี เขาให้ความหมายว่าเป็นจุดต่อเชื่อม และส่งสัญญาณและข้อมูลข่าวสารออกไป และ Node นี้ก็จะส่งสัญญาณต่อๆ ไปยัง Node อื่นๆ
N = Network - ในองค์กรหนึ่งๆ อาจมีคณะทำงานหลายๆทีม และแต่ละทีมต้องมีการต่อเชื่อมสัญญาณ สื่อสารไปยังส่วนอื่นๆ ขององค์กร ดังนี้ก็เรียกว่า เครือข่ายภายใน (Local Area Network – LAN) ในทางคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร ระบบเครือข่ายภายในมีความสำคัญอย่างสูง คอมพิวเตอร์แต่ละตัว หากไม่มีการเชื่อมต่อ ก็แทบจะไม่มีความหมายในปัจจุบัน เพราะมันต้องมีการสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์ต่อกัน

ในบางกรณี การต่อเชื่อมนั้นเปิดกว้างสู่ภายนอก ดังเช่น อินเตอร์เน็ต (Internet) คือระบบเครือข่ายที่มีการต่อเชื่อมเป็นวงกว้างไปได้ทั่วโลก เครือข่ายวงกว้างเช่นนี้ ในทางคอมพิวเตอร์เรียกว่า Wid Area Network – WAN และการเชื่อมต่อในองค์กร และการเชื่อมต่อในวงกว้างเช่นนี้ ที่ทำให้คนทำงานที่รู้จักวิธีการ สามารถทำงานร่วมกัน แม้ตัวจะต้องอยู่ห่างไกลกัน แต่การเชื่อมต่อที่สำคัญนั้น ส่วนหนึ่งคือ การที่ต้องมีการรู้เขา รู้เรา จะทำอย่างไรจึงจะไม่ถูกหลอกผ่านเครือข่าย ทำอย่างไร คนที่มีความสามารถสูง และเฉพาะมากๆ จึงจะสามารถมาทำงานร่วมกันได้ นั่นก็ต้องย้อนกลับไปที่ ตัวตนของเราเอง เราเป็นคนมีความรู้ความสามารถ ฉลาดเฉลียว และที่สำคัญเป็นคนดี มีพื้นฐานที่สำคัญในการทำงานร่วมกันหรือไม่ และเพื่อนใกล้ตัวเรา เขาจะเป็น Node ในการส่งสัญญาณว่า เราเป็นคนเช่นใด

จากประสบการณ์ในต่างประเทศ ฝรั่งเขาให้ความเห็นว่า คนที่จะทำงานในองค์กรยุคใหม่ได้มีประสิทธิภาพนั้น ต้องอาศัยเรื่องของเครือข่าย (Network) อย่างมาก บางที่ในแต่ละวัน คนทำงานของเขาต้องติดต่อกับหน่วยงานและคนไปในหลายๆ มุมโลก และต้องประสาน สื่อสารกัน พูดและเข้าใจในสิ่งเดียวกัน ซึ่งต้องใช้เครื่องมือการสื่อสารยุคใหม่ ต้องฝึกทักษะอ่านและเข้าใจคนที่มีความต่างกันในวัฒนธรรม

อันความสำเร็จในการดำรงชีวิตและการทำงานของคนเรานั้น มันขึ้นอยู่กับอย่างน้อย 3 สิ่งนี้แหละ คือ INN อันหมายถึง การทำตนให้เป็นคนดีมีความสามารถ การสร้างและพัฒนาทีงาน กลุ่มทำงานที่มีวัตถุประสงค์ร่วมกัน และขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์กับคน กลุ่มคน องค์กร และสังคมวงกว้างที่เราจะสามารถทำงานร่วมกันได้ในรูปแบบต่างๆ

ในวารดิถีขึ้นปีใหม่นี้ ผมซึ่งเป็นคนเลยวัยทำงานตามปกติแล้ว และกำลังทำงานในอีกแบบหนึ่งในลักษณะเป็นพี่เลี้ยงให้กับคนรุ่นใหม่ ได้เติบโตส่งต่อประสบการณ์ต่อไป ขออำนวยพรไปยังเพื่อนๆ น้องๆ ลูกหลาน และวงการที่รู้จัก ขอให้ท่านมีความสุขความสำเร็จในการทำงาน มีชีวิตครอบครัวที่ดี อบอุ่น มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง มีพลังใจที่จะทำงานใช้ประโยชน์จากสติปัญญาและพรสวรรค์ของท่านได้อย่างเต็มที่

สำหรับผู้เคารพนับถือ อาวุโสยิ่งกว่าผม ผมขอใช้โอกาสนี้ส่งความระลึกถึง ขอบพระคุณครูอาจารย์ที่ได้เคยสั่งสอน ขอบคุณพี่ๆ และผู้หวังดีที่ได้ให้คำแนะนำในหลายๆ ครั้งของชีวิต

สวัสดีปีใหม่ พ.ศ. 2550 ครับ

No comments:

Post a Comment