.jpg)
ภาพ รถยนต์ไฟฟ้า Nissan Leaf ใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเดียว
จะออกตลาดในราวปลายปี ค.ศ. 2010
จะออกตลาดในราวปลายปี ค.ศ. 2010
รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Cars)
ประกอบ คุปรัตน์
แปลและเรียบเรียงจาก
Wikipedia, Free Encyclopedia
Updated: Thursday, September 03, 2009
Keywords: vehicles, energy, รถยนต์ไฟฟ้า
รถยนต์ไฟฟ้า (Electric car) เป็นลักษณะของของรถยนต์ (automobile) ที่ใช้พลังงานทางเลือก (alternative fuel) โดยที่ใช้พลังงานที่มาจากมอเตอร์ไฟฟ้า (electric motors) และระบบควบคุมมอร์เตอร์ (motor controllers) ที่ทำให้เกิดพลังแล่นหรือลากจูง (propulsion) หากในรถยนต์อย่างที่ใช้กันเป็นกระแสหลักปัจจุบัน พลังงานมาจากเครื่องยนต์ที่เผาไหม้ (internal combustion engine - ICE) แต่รถยนต์ไฟฟ้าได้พลังงานจากไฟฟ้าที่เก็บสะสมในแบตเตอรี่ที่มีลักษณะเป็นแพ็ก ดังนั้นรถยนต์ประเภทนี้จึงจัดได้ว่าเป็นรถยนต์ใช้แบตเตอรี่ (battery electric vehicles - BEVs) และแบตเตอรี่นี้นับเป็นหัวใจสำคัญสำหรับเทคโนโลยีใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้านี้ เพราะมันต้องมีขนาดไม่ใหญ่ น้ำหนักไม่มาก ให้พลังงานสูง เก็บไฟให้ใช้ได้อย่างต่อเนื่อง มีพลังสม่ำเสมอ สามารถใช้ในการขับเคลื่อนได้เป็นระยะทางไกลต่อการชาร์ตไฟฟ้า 1 ครั้ง
ข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้ไฟฟ้าอย่างเดียว คือไม่ต้องไปเสียค่าใช้จ่ายด้านเครื่องยนต์เหมือนรถยนต์ทั่วไป หรือรถยนต์ลูกประสม (Hybrid Cars) ที่ใช้เครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื่อเพลิงร่วมกับไฟฟ้า รถยนต์ลูกประสมต้องมีค่าใช้จ่ายทั้งระบบไฟฟ้า และระบบเครื่องยนต์พลังงานน้ำมัน และทำให้มีน้ำหนักตัวมากขึ้น
น้ำหนักเครื่องยนต์ของรถยนตัทั่วไปอาจหนักหลายร้อยกิโลกรัม แต่มอเตอร์ไฟฟ้า (Motor) จะมีน้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัม ที่จะต้องมีน้ำหนักมากคือแบตเตอรี่ และที่ทำให้มีราคาแพง คือแบตเตอรี่นั้นเป็นประเภท ultracapacitors มีสมรรถนะสูง ทำมาจาก Lithium ซึ่งเป็นวัสดุมีราคาแพง ซึ่งปัจจุบันมีราคาถึง USD10,000 หรือประมาณ 300,000 บาทต่อคันขึ้นไป ซึ่งทำให้รถยนต์ไฟฟ้าจะมีราคาสูงในระดับอีก USD7000 ขึ้นไป ซึ่งขึ้นอยู่กับการได้รับการสนับสนุนจากรัฐในช่วงแรกหรือไม่ ราคารถยนต์จึงมีราคาที่ระดับ USD25,000 – 30,000 หรือประมาณเกือบ 900,000 บาทในระบบภาษีแบบอเมริกัน หากเป็นในประเทศไทยก็จะมีราคาใกล้ๆกับรถหรูของยุโรป ซึ่งก็ทำให้ยังมีราคาสูงอยู่เมื่อเทียบกับรถยนต์ทั่วไปในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีคนพูดถึงโอกาสของรถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น เพราะมันสามารถวิ่งได้ถึง 100 กิโลเมตร บางรุ่นวิ่งได้ถึง 250 กิโลเมตร จากการอัดไฟฟ้าครั้งเดียว วิ่งได้เร็วไม่ต่างจากรถยนต์ใช้พลังน้ำมัน นอกจากนี้ ค่าแบตเตอรี่ในปัจจุบันยังมีราคาสูง แต่ก็จะมีราคาลดลงเรื่อยๆ เพราะสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ (Recycle)
แต่เมื่อพูดและคิดกันถึงรถยนต์ไฟฟ้า ก็ต้องคิดถึงสภาพแวดล้อมด้วย เพราะทำอย่างไรจึงจะได้มีไฟฟ้าที่ไม่ต้องใช้น้ำมันไปเผาให้เกิดเป็นพลังงานดังที่ปฏิบัติกันในประเทศไทย ทำอย่างไรจึงจะได้พลังงานทางเลือกที่มาจากน้ำ (Hydro Power) จากลม (Wind Turbine) จากพลังนิวเคลียร์ (Nuclear Power) ทำอย่างไรจึงจะมีเครือข่ายพลังงานไฟฟ้า และสถานที่ๆคนจะไปเติมไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ได้ เพราะอย่างน้อยๆ ก็จะต้องใช้เวลาสัก 30 นาทีเพื่อชาร์ตไฟฟ้าได้ร้อยละ 80 และหากจะอัดให้ได้เต็มศักยภาพร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็ต้องใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง หรือทิ้งไว้ทั้งคืน
เป็นรถยนต์ลูกประสม (Hybrid) ที่ขายดีที่สุดในโลก

จาก Camry ที่มีฐานจาก Camry ที่ขายดีที่สุดในสหรัฐอเมริกา
สำหรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว ทำให้เกิดแนวแข่งขันกันอย่างกว้างขวาง เพราะบริษัทรถยนต์ขนาดใหญ่ ก็ยังติดยืดกับรถที่ใช้พลังงานน้ำมันเป็นหลัก แต่สำหรับบริษัทขนาดเล็กนั้น เขาสามารถคิดค้นได้อย่างไม่ต้องติดยืด ไม่มีต้นทุนในการผลิตในแบบเดิม ในการนี้ประเทศจีนหรืออินเดีย เขามีโอกาสในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างไม่เสียเปรียบประเทศอย่างสหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น เพราะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว ทุกฝ่ายยังอยู่ในระยะเริ่มต้นกันทั้งสิ้น ดังผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศจีน เขาบอกว่า หากจะต้องแข่งขันกันในรถยนต์แบบลูกประสมแล้ว เขาก็ยังเสียเปรียบประเทศญี่ปุ่นที่ได้เริ่มไปก่อนหน้านานแล้ว แต่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว เขาไม่เสียเปรียบมากนัก ยังสามารถแข่งขันกันได้
อยากได้รถไฟฟ้าพวกนี้จนใจจะขาดแล้ว ติดต่อซื้อได้ที่ไหนและราคา,ใครรู้ช้วยบอกทีนะ อิอิ
ReplyDelete