Sunday, October 25, 2009

เมืองนิวยอร์คเปลี่ยนรถแทกซี่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าลูกประสม (Hybrid cars)


เมืองนิวยอร์คเปลี่ยนรถแทกซี่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าลูกประสม (Hybrid cars)

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob.cooparat@gmail.com

ศึกษาและเรียบเรียง

Updated: Saturday, September 05, 2009

Keywords: การขนส่ง, เทคโนโลยี, วิถีชีวิต, สหรัฐอเมริกา, นิวยอร์ค, New York City, Taxi, รถยนต์ไฟฟ้า, electric car, รถยนต์ไฟฟ้าลูกประสม, hybrid car, 


ภาพ รถแทกซี่ของเมืองนิวยอร์คในแบบเดิม คือเป็นรถขนาด Full sized






มหานครนิวยอร์ค (New York City, New York) มีประชากรประมาณ 8.5 ล้านคน มีที่ตั้งอยู่ในเขตตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศสหรัฐอเมริกา จัดเป็นตัวนำการเปลี่ยนแปลงในหลายๆด้าน ทั้งด้านศิลปะ แฟชั่น วัฒนธรรม และรวมถึงวิถีชีวิตอย่างระบบขนส่งในเมือง ระบบรถไฟฟ้าใต้ดินที่เรียกว่า Subway ในขณะที่โลกต้องแก้ปัญหาด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม เมืองใหญ่อย่างนิวยอร์คก็เป็นตัวนำการเปลี่ยนแปลงที่หลายๆฝ่ายต้องจับตามอง

ดูตัวอย่างจากรถแทกซี่ เมืองนิวยอร์คมีรถแทกซี่ประมาณ 62,000 คัน รถเหล่านี้ได้รับการควบคุม เขาพยายามให้มีปริมาณพอเหมาะแก่ขนาดของเมือง และต้องการควบคุมมลภาวะ.ให้การจราจรไม่ติดขัด โดยทั่วไป รถโดยสารส่วนบุคคลที่ต้องวิ่งเข้ามาในบางบริเวณดังเช่นเกาะแมนฮัตตัน (Manhattan) เกือบจะทุกเส้นทางจะต้องเสียค่าใช้จ่ายสองประการ คือหนึ่ง ค่าผ่านทาง เช่นทางลอดอุโมงค์ใต้ดิน ค่าผ่านทางด่วน และที่สำคัญก็คือเมื่อเข้ามาในหลายบริเวณก็จะต้องหาที่จอดรถ เสียค่าที่จอดรถอย่างแพงระดับอาจถึงเป็นพันบาทต่อวัน

รถรับจ้างอย่างแทกซี่เอง ก็มีให้วิ่งอย่างจำกัดตามโควต้า อีกประการที่เขาทำในขณะนี้ คือให้รถต้องปรับเปลี่ยนให้เข้ากับมาตรฐานใหม่ของเมือง ซึ่งได้เพิ่มมาตรการเรื่องพลังงานและสิ่งแวดล้อมเข้าไปด้วย

รถยนต์ที่อนุญาตให้ใช้เป็นรถแทกซี่ในมหานครนิวยอร์คได้ จะมีลักษณะพื้นที่สำหรับคนนั่ง ช่วงพักขา (Leg room) เหยี่ยดขาได้ นั่งสบาย กว้างขวางเพียงพอ มีที่เก็บของในกรณีที่ผู้ใช้บริการเดินทางไปและกลับจากสนามบิน สถานีรถไฟ ที่ต้องมีกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ ก็สามารถบรรจุได้อย่างเพียงพอ มีความปลอดภัย แม้เมื่อเกิดอุบัติเหตุ และในยุคต่อไปนี้ คือการสามารถลดมลภาวะทางอากาศ โดยมาตรฐานใหม่รถแทกซี่ต้องใช้พลังงานเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ รถเหล่านี้จะเห็นได้ว่า เขาอนุญาตให้รถประเภทลูกประสมที่ใช้พลังงานปิโตรเลียมร่วมกับระบบไฟฟ้า เกือบจะทั้งหมด ยกเว้นรถ Volkswagen Jetta ที่เป็นรถยนต์ใช้เครื่องยนต์ดีเซล (Diesel) ซึ่งใช้น้ำมันประหยัดกว่าเครื่องยนต์เบนซินทั่วไปอีกประมาณร้อยละ 40 นอกจากนี้เทคโนโลยียุโรปที่เรียกว่า Euro Diesel ให้หลักประกันด้านการปล่อยแก๊สเสียออกสู่อากาศในอัตราที่รับได้

ในปี ค.ศ. 2008 เมืองนิวยอร์คได้ให้การรับรองรถยนต์ยี่ห้องและแบบที่จะใช้เป็นรถแทกซี่ได้ดังนี้

รุ่น ค.ศ.
ยี่ห้อและแบบ
เครื่องยนต์
คำอธิบาย
2009
Stretch
รถนั่งขนาดใหญ่ที่ยังคงมีใช้อยู่
2009
Hybrid
รถนั่งขนาดกลาง
2009
Hybrid
รถประเภท SUV ในแบบเดียวกับ Mazda Tribute
2009
Hybrid
รถประเภท SUV
2009
Hybrid
รถประเภท SUV
2009
Hybrid
รถนั่งขนาดเล็ก
2009
Hybrid
รถประเภท SUV ในแบบเก๋ง
2009
Hybrid
รถนั่งขนาดกลาง
2009
Hybrid
รถประเภท SUV
2009
Hybrid
รถนั่งขนาดเล็ก เป็นรถ Hybrid ที่ขายดีที่สุดในโลก
2009
Hybrid
รถนั่งขนาดกลาง
2009
Hybrid
รถประเภท SUV ในแบบเก๋ง
2009
Diesel
รถขนาดเล็กที่ปรับขนาดให้ใหญ่พอสำหรับขนาดคนในอเมริกาเหนือ เป็นรถยุโรปที่ขายดีที่สุดในอเมริกา
2008
-
modified Toyota Sienna (wheelchair accessible) จัดเป็น Minvan
2007
-
modified Dodge Caravan (wheelchair accessible) จัดเป็น Minvan
2008
-
modified Toyota Sienna (wheelchair accessible) จัดเป็น Minvan

รถแทกซี่ที่วิ่งตามท้องถนนในเมืองนิวยอร์คในยุคที่ผ่านๆมา จะเป็นรถขนาดใหญ่ (Full size) ที่ใช้น้ำมันเปลือง (Gas-quzzling) ดังรถ Ford Crown Victoria ซึ่งเกือบจะเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนิวยอร์คที่เป็นรถแทกซี่สีเหลือง ประเภทเดียวกับที่ใช้เป็นรถตำรวจ แต่แนวคิดนี้ได้เปลี่ยนไปในยุคที่ต้องคำนึ่งถึงการใช้น้ำมันเชื่อเพลิงอย่างไม่ประหยัด

แต่ในยุคต่อไป รถจะมีลักษณะหลากหลายขึ้นตอบสนองต่อผู้ใช้บริการ

รถนั่งขนาดกลาง อย่าง Toyota Camry, Nissan Altima หรือในชื่อ Nissan Teana ที่มีวิ่งในบ้านเรา, Chevrolet Malibu ซึ่งเป็นรถขนาดกลางของบริษัท GM ในสหรัฐเอง

มีที่เป็นสปอร์ตอเนกประสงค์ หรือแบบ SUV ขนาดที่นั่งสบาย พื้นรถยกสูง ทำให้เวลาขึ้นลงสะดวก จุของได้มากพอ ดังเช่น Ford Escape, Mercury Mariner, Mazda Tribute, Saturn Vue, หรือ Toyota Highlander รถประเภทนี้ หากเทียบกับรถนั่งทั่วไปที่เป็นประเภท Sedan จะใช้น้ำมันเปลืองกว่า หากเป็นแบบวิ่งสี่ล้อ แต่หากนำมาใช้เป็นรถแทกซี่ เขาอาจไม่ต้องใช้แบบมี 2 เพลา ส่งกำลังทั้ง 4 ล้อ เพราะส่วนใหญ่เป็นการวิ่งในเมือง บทถนนปกติ

รถแบบ Minivan ซึ่งเป็นรถมีที่นั่ง 3 ตอนรวมถึงคนขับด้านหน้า จุผู้โดยสารได้มากขึ้น เพราะแบบที่นั่ง 2 ตอนหลัง จุดคนได้ 4-5 คนได้สบาย ซึ่งในอนาคต แทกซี่อาจได้รับอนุญาตให้รับผู้โดยสารซ้อนรายได้ ในกรณีเดินทางไปจุดหมายปลายทางใกล้กันหรือที่เดียวกัน ดังการรับผู้โดยสารจากโรงแรมไปยังสนามบิน ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของผู้โดยสารที่จะได้ลดค่าโดยสารที่แบ่งจ่าย ทางเมืองเองก็ทำให้ลดการมีรถวิ่งบนท้องถนน และแทกซี่เองก็ได้รับค่าจ้างที่โดยรวมมากขึ้น

รถขนาดเล็กอย่าง Toyota Prius, Honda Civic, หรือ Volkswagen Jetta ซึ่งก็นั่งได้สบายเพียงพอสำหรับขนาดคนมาตรฐานทั่วไป แถมประหยัดน้ำมันเพราะเป็นระบบรถลูกประสม และคันเล็กมีน้ำหนักเบา ในสมัยก่อนๆ จะถือว่าเป็นรถเล็ก คนนั่งแทกซี่ไม่อยากนั่ง คนขับก็ไม่กล้าใช้ เพราะจะไม่มีคนเรียกใช้บริการ แต่ในยุคต่อไป ค่านิยมของคนที่ต้องการรักษาสิ่งแวดล้อม จะทำให้มีคนเรียกใช้บริการรถขนาดเล็กมากขึ้น

รถ Minivan หรือรถที่นั่งได้ 7 คนนับว่าเป็นความสะดวก ปรับให้คนพิการใช้บริการได้สะดวก หากจัดรับผู้โดยสารจากสนามบินเข้าสู่เมือง สามารถรับผู้โดยสารได้จำนวนมากกว่ารถนั่งธรรมดา 2 เท่า

รถแทกซี่มีประโยชน์ เพราะโดยเปรียบเทียบ การมีรถแทกซี่บริการ 4 คันทำให้ลดการใช้รถส่วนตัวในเขตเมืองได้เฉลี่ย 10 คัน แถมรถแทกซี่ไม่ไปแย่งที่จอดรถในเมืองดังรถนั่งส่วนตัว

การกำหนดให้แทกซี่ที่ใช้ในเมืองนิวยอร์คต้องมีประสิทธิภาพการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ระดับ 25 ไมล์/แกลลอน และจะเพิ่มเป็น 30 ไมล์/แกลลอนในปีถัดไป ดังนั้นรถที่จะเข้าข่ายดังกล่าวได้ จึงเป็นรถยนต์ประเภทลูกประสมเป็นส่วนใหญ่ หรือเกือบทั้งหมด

ในแต่ละปี จะมีการเปลี่ยนและนำรถลูกประสม หรือรถประหยัดพลังงานเข้ามาแทนที่รถรุ่นเก่าที่สิ้นเปลืองพลังงาน และก่อมลพิษทางอากาศ เท่ากับเปลี่ยนแปลงไปร้อยละ 20 ต่อปี

โดยกฎระเบียบของเมือง เจ้าของแทกซี่ต้องเปลี่ยนใหม่ทุก 3-5 ปี ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้ แม้รถแทกซี่จะเป็นของเอกชน หรือบุคคล แต่ต้องอยู่ในกฎเกณฑ์ของคณะกรรมการควบคุมรถแทกซี่และรถยนต์นั่งบริการ (The Taxi and Limousine Commission) ซึ่งประธานกรรมการของคณะกรรมการดังกล่าวแต่งตั้งโดยนายกเทศมนตรีของเมืองนิวยอร์ค

ค่ารถยนต์ลูกประสมที่จะใช้มีราคาสูงกว่ารถยนต์ทั่วไปที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างเดียว แต่อัตราการใช้แทกซี่ที่วิ่งระยะทางมากต่อปี ภายในเพียงปีเดียว ก็จะคุ้มค่าการประหยัดน้ำมันทดแทนราคาแบตเตอรี่ USD 10,000 หรือประมาณ 350,000 บาท

ดูตัวอย่างจาก Liaquat Janjma อายุ 50 ปีทำงานขับรถแทกซี่กะกลางคืน โดยใช้รถที่เพื่อนเป็นเจ้าของ เมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา เขาได้เปลี่ยนรถจาก Crown Victoria คันใหญ่ ใช้น้ำมันปกติ มาเป็น Toyota Highlander ใช้เทคโนโลยีรถลูกประสม ด้วยพลังงานน้ำมันปิโตรเลียมและไฟฟ้า ปรากฏผลทันทีคือทุกคืน เขาสามารถประหยัดค่าน้ำมันเชื้อเพลิงได้ระหว่าง USD20-50 หรือประมาณ 700 – 1,750 บาทต่อกะ ถ้าหากขับสองกะ ทุกวันอย่างในประเทศไทย หนึ่งวันประหยัดเงินได้ถัวเฉลี่ย 2,450 บาท หรือเดือนละ 73,500 บาท หรือปีละ 882,000 บาท นั่นแม้เมื่อบวกค่าซ่อมหรือบำรุงรักษาระบบแบตเตอรี่แล้ว ก็จะยังมีเงินเหลืออีกมากเพียงพอที่จะเป็นแรงจูงใจในการเปลี่ยนรถจากเดิมาใช้เป็นรถรุ่นใหม่ที่เป็นลูกประสม (Hybrid) ที่มีระบบใช้พลังงานไฟฟ้าประสม

ความจริงเมืองใหญ่อื่นๆของสหรัฐอเมริกา อย่าง San Francisco ใน California หรือ Boston ในรัฐ Massachusetts ก็ได้ผลักดันให้มีการนำรถลูกประสมมาใช้ในเมืองเช่นกัน แต่ยังไม่ได้กระทำเป็นขนานใหญ่เหมือนในเมืองนิวยอร์ค

จัดได้ว่าเมืองนิวยอร์คเป็นเมืองต้นแบบด้านการใช้การขนส่งสาธารณะ เมืองนิวยอร์คมีระบบรถไฟฟ้าใต้ดินที่เรียกว่า Subway ที่มีเครือข่ายครอบคลุมกว้างขวางที่สุดในสหรัฐอเมริกา และเมื่อใช้ร่วมกับสเครือข่ายรถประจำทาง (Buses) ซึ่งปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนเป็นรถลูกประสม (Hybrid) ไปแล้วเป็นจำนวนมาก และเมื่อรวมกับรถแทกซี่ซึ่งมีการควบคุมค่าบริการ ทำให้คนนิวยอร์คไม่จำเป็นต้องใช้รถยนต์ส่วนตัว เพราะแม้รถยนต์โดยทั่วไปในสหรัฐอเมริกาจะมีราคาถูก ไม่เสียภาษีรถยนต์สูงอย่างในยุโรปหรือประเทศไทย แต่การมีรถยนต์ส่วนตัวไม่สะดวกในด้านที่จอดรถ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างนิวยอร์ค

นายกเทศมนตรี Michael Bloomberg แห่งนครนิวยอร์ค ได้ผลักดันขนานใหญ่ที่จะปรับปรุงระบบรถแทกซี่ของเมือง และหากสำเร็จในวงกว้าง จะเป็นตัวผลักดันให้สหรัฐเองต้องให้ความสำคัญแก่รถและการขนส่งทางเลือก โดยเฉพาะรถลูกประสม ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงร่วมกับระบบไฟฟ้า (Hybrid) วิ่งได้ทั้ววันโดยไม่ต้องรอชาร์ตไฟเข้าแบตเตอรี่อย่างรถไฟฟ้าอย่างเดียว โดยความเป็นจริงแล้ว รถลูกประสมประหยัดพลังงานได้มากถึงร้อยละ 40-50 จากรถธรรมดาหากเป็นการวิ่งในเมืองที่ต้องวิ่งๆหยดๆ แต่สิ่งที่ต้องติดตามคือ ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา ราคาแบตเตอรี่ที่ต้องเปลี่ยนเป็นระยะ


ภาพ รถแทกซี่ในแบบใหม่ของนิวยอร์คที่เน้นความสะดวกสบาย บันทุกของได้ และใช้พลังงานไฟฟ้าลูกประสม (Hybrid cars)


ภาพ แทกซี่สีเหลืองในนิวยอร์ค ต้นแบบที่ชนะของ Nissan


ภาพ รถยนต์ไฟฟ้าลูกประสม Toyota Prius ซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่กว่า Toyota Altis ในกรุงเทพฯ มากนัก


ภาพ รถยนต์ไฟฟ้าทั้งระบบ อย่าง Nissan Leaf จะมีเห็นวิ่งในนิวยอร์ค






No comments:

Post a Comment