เอาผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองและกฎหมาย
มาปราบอีโบลา ...
Keywords: สุขภาพ, health,
healthcare, โรคติดต่อ, epidemic, อีโบลา, Ebola, Ebola
virus disease – EVD, ภาวะผู้นำ, leadership, การจัดการ,
management, การบริหาร, โรนัลด์ เอ
เคลน, Ronald A. "Ron" Klain, บารัค โอบามา, Barack
Obama
ภาพ การระบาดของไข้หวัดนกในช่วงปีค.ศ. 1918 มีผู้ป่วย 500 ล้านคนทั่วโลก มีผู้เสียชีวิต 50-100 ล้านคน นับเป็นโรคระบาดที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์โรค ซึ่งเรียกลักษณะโรคระบาดในลักษณะนี้ว่า Pandemic คือการระบาดไปทั้งโลก
ภาพ การระบาดของไวรัสอีโบลา (Ebola Virus) ที่ได้เข้าสู่ประเทศพัฒนาแล้ว หากไม่มีการจัดการในเชิงยุทธศาสตร์ที่ดีและต้องมองประเด็นนี้ไปอย่างครอบคลุมทั่วโลก ชาวโลกจะคิดอย่างเอาตัวรอดเฉพาะตนหรือประเทศไม่ได้แล้ว
ภาพ การระบาดของไวรัสอีโบลาที่ขณะนี้มีจุดศูนย์กลางอยู่ในอัฟริกาตะวันตก ดังในประเทศกีนี เซียรา เลโอน ไลบีเรีย และมีพบผู้ป่วยประปรายในทวีอเมริกาเหนือและยุโรป
ภาพ นายโรนัลด์ เอ เคลน (Ronald A. "Ron" Klain) ที่ได้รับการเสนอชื่อให้ทำหน้าที่เป็น Ebola Response Coordinator ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งน่าจะต้องเป็นการทำงานที่ครอบคลุมไปกับความร่วมมือของนานาชาติ
จอมยุทธสู้อีโบลา
คราวนี้มาศึกษาเรื่องไวรัสอีโบลา (Ebola
Virus) แต่มองในเชิงมิติความเป็นผู้นำและการจัดการ
ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐอเมริกา
แต่งตั้งนายโรนัลด์ เอ เคลน (Ronald A. "Ron" Klain) เป็นผู้รับผิดชอบสูงสุดในการสู้กับภัยโรคระบาดมหาภัยอีโบลา (Virus
Ebola) ซึ่งเขาเรียกตำแหน่งเฉพาะกิจนี้ว่า Ebola Response
Coordinator ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า Ebolar Tsar นายเคลนมีประสบการณ์การเมืองอย่างสูง
เคยเป็นหัวหน้าคณะทำงานของทั้งรองประธานาธิบดีอัล กอร์ และโจเซฟ ไบเดน
จบการศึกษาจาก Georgetown University และปริญญาทางกฎหมายจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
ซึ่งเป็นระดับบัณฑิตศึกษาเทียบปริญญาเอก และเขาเป็นนักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม
แต่เขาได้รับเสียงคัดค้านว่าไม่เหมาะสมโดยเฉพาะจากนักการเมืองและสื่อสายอนุรักษ์
โดยมองว่าเขาไม่มีความรู้ทางการแพทย์และสาธารณสุขมา
ลองมาดูภูมิหลังของ นายโรนัลด์ เอ เคลน (Ronald
A. "Ron" Klain)
เขาเกิดเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม
ค.ศ. 1961 ซึ่งเทียบเป็นอายุ ณ วันนี้ 53 ปี ซึ่งถือว่าเป็นคนหนุ่มทางการเมือง แต่โดยวุฒิภาวะน่าจะทำงานอะไรได้อย่างกว้างขวางแล้ว
เขาเกิดที่เมืองอินเดียนาโปลิส รัฐอินเดียนา สหรัฐอเมริกา บิดามารดาเป็นชาวยิว ในปี
ค.ศ. 1979 เคลนจบการศึกษาขั้นมัธยมบริบูรณ์จากโรงเรียนมัธยมท้องถิ่นของรัฐ
ชื่อ North Central High School และเคยอยู่ในทีมแข่งขันทางปัญญา
(Brain Game team) ได้ตำแหน่งเกือบชนะเลิศ ในปี
ค.ศ. 1983 เขาจบปริญญาตรีเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง (Summa cum laude) จากมหาวิทยาลัย
Georgetown
University ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยวิจัยของเอกชนขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ที่กรุงวอชิงตันดีซี
อันเป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางบริหารประเทศของสหรัฐอเมริกา มหาวิทยาลัยมีนักศึกษาปริญญาตรี
7,000 คน บัณฑิตศึกษา 10,000 คน
มหาวิทยาลัยเป็นของเอกชนแบบไม่แสวงกำไร สนับสนุนโดยคริสตศาสนานิกายคาธอลิค
ในปี ค.ศ. 1987 เคลนจบการศึกษาวิชาชีพกฎหมายขั้นสูงจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
(Harvard
Law School) ซึ่งเป็นหนึ่งใน 3 สถาบันด้านกฎหมายที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา
ซึ่งมีศิษย์เก่าเป็นนักการเมืองที่มีชื่อเสียงของประเทศเป็นอันมาก ซึ่งรวมถึง
ประธานาธิบดีบิล คลินตัน และบารัค โอบามา
เลือกคนไปเป็นผู้นำต่อสู้กับไวรัสอีโบลา (Virus Ebola)
ในหลักการบริหารนั้น การจะทำอะไรให้สำเร็จ
เขามีหลักอยู่ว่า “Put the right man to the right place.” การจะดูว่าคนๆนั้นเป็นผู้นำ
(Leaders) ที่ดีหรือไม่ ก็ให้ดูวิธีการเลือกคนเข้าสู่ตำแหน่งว่าเขามีจุดมุ่งหมาย
และวิธีการอย่างไร กระทำการอย่างคิดถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้งหรือไม่?
1.
เลือกคนที่มีความรู้โดยตรงกับเรื่องนั้นๆ
2.
เลือกคนที่สามารถจักการ
ทำความเข้าใจกับผู้ร่วมงาน จัดการเรื่องงบประมาณ และทำให้งานนั้นสำเร็จไปได้โดยไม่จำเป็นจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องนั้นๆ
3.
เลือกคนที่ตัว(ผู้นำ)ต้องการเลือกเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวหรือผลประโยชน์ของผู้ถูกเลือกให้ทำงานชิ้นนั้น
4.
เหตุผลอื่น
เช่น ใว้ใจเพราะเป็นญาติกัน ทดแทนบุญคุณกัน
หรือให้ทำงานที่ไม่มีทางสำเร็จเพื่อกำจัดคนนั้น และ ฯลฯ
ไม่รู้ Obama
เลือกข้อไหน แต่ไม่ใช่ข้อแรกแน่
เหตุผลในการเลือก
ทำไมเลือก โรนัลด์ เอ เคลน (Ronald A.
"Ron" Klain) เป็นผู้รับผิดชอบสูงสุดในการสู้กับภัยโรคระบาดมหาภัยอีโบลา (Virus
Ebola)
ประกอบ คุปรัตน์ > ผู้นำอย่างบารัค
โอบามา (Barack Obama, US. president) ของสหรัฐอเมริกา
แองเจลา เมอร์เคล (Angela Merkel, Chancellor of Germany)
ของเยอรมัน หรือเดวิด คาเมรอน ของสหราชอาณาจักร (David
Cameron, UK Prime Minister) ฉลาดพอที่จะรู้ว่า
การดูแลโรคระบาดไวรัสอีโบลานั้นไม่ใช่เรื่องที่จะปล่อยประละเลย
หรือมาเล่นพรรคเล่นพวกวางฐานอำนาจเป็นเกมส์การเมืองกัน
เพราะมันระบาดขณะนี้ในอัฟริกาตะวันตก เพราะจริงๆแล้วมันมีโอกาสระบาดหนักไปทั่วโลก
และหนีไม่พ้นประเทศตัวเอง และผลกระทบมีทั้งชีวิต และระบบเศรษฐกิจและสังคมโลก
ผมเห็นว่าบารัคโอบามา (Barack Obama) เขาเลือกในแนวข้อ (2) คิอ “เลือกคนที่สามารถจักการ ทำความเข้าใจกับผู้ร่วมงาน
จัดการเรื่องงบประมาณ และทำให้งานนั้นสำเร็จไปได้โดยไม่จำเป็นจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องนั้นๆ
“และผมไม่ติดใจที่ว่าคนที่เขาเลือกมานั้น ไม่ใช่แพทย์
หรือนักการสาธารณสุข หรือผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยา (Epidemiologist) เขาต้องเลือกคนที่สามารถทำให้งานนี้สำเร็จ
ที่ต้องเกี่ยวข้องกับคนหลายประเทศทั่วโลก
หากอเมริกันคิดจะป้องกันโรคระบาดไม่ให้เข้ามาในประเทศตนเอง แบบคนอื่นๆ
ประเทศอื่นๆจะทุกข์ยากอย่างไรก็ไม่สนใจ ดังนี้คงจะไม่ฉลาดเอามากๆ
โปรดติดตามต่อไป
ไวรัสอีโบลาเป็นเรื่องร้ายแรงจริง
มีศักยภาพที่จะสร้างความเสียหายให้แก่โลกได้อย่างกว้างขวาง
มีความเฉียบพลันกว่าโรคเอดส์ แต่คล้ายกันคืออัตราเสี่ยงเสียชีวิตมีสูง
และที่สำคัญต้นตออยู่ในทวีปอัฟริกา ที่ชาติตะวันตกมักเข้าไปไม่ถึง
ต้องรอดูกันต่อไปครับว่าโลกนี้จะมีการจัดการกับโรคระบาดร้ายแรงนี้อย่างไร
ขอถือโอกาสนี้ใช้เป็นบทเรียนว่าด้วย “ความเป็นผู้นำและการจัดการ” (Leadership
and Management) ไปด้วยในตัวนะครับ
No comments:
Post a Comment