คนหน้าด้านครองครึ่งโลก

คนหน้าด้านครองครึ่งโลก

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

Keywords: สุภาษิต, proverb, cheeky, หน้าด้าน, ทะลึ่ง, ทะเล้น

มีสุภาษิตชาวดัชบทหนึ่งกล่าวว่า “Een brutaal mens heeft de halve wereld.” ซึ่งมีสุภาษิตใกล้เคียงในภาษาอังกฤษว่า “A cheeky person owns half the world."

ในภาษาไทย สุภาษิตดังกล่าวแปลได้ความว่า “คนหน้าด้านครองครึ่งโลก” หรือใกล้เคียงกับคำกล่าวในภาษาไทยว่า “ด้านได้ อายอด”

Cheeky = ทะลึ่ง, หน้าด้าน, ทะเล้น

มีคนเลี้ยงปลาคนหนึ่ง เขามีบ่อเลี้ยงปลาขนาด 10 ไร่ นับว่าใหญ่พอประมาณ เขาเลี้ยงปลาหลายชนิดคละกันไป แต่ปัญหาคือเขาไม่มีอาหารที่จะใช้เลี้ยงปลา เขาจึงเที่ยวไปเดินขอเศษอาหารจากร้านอาหารในเมือง โดยปกติ ร้านอาหารขนาดเล็กมีอาหารไม่มากนัก มักจะทิ้งอาหารปนไปกับขยะส่วนอื่นๆ กลายเป็นขยะเปียก เมื่อมีคนมาขอเก็บขยะเปียก เจ้าของร้านอาหารไม่ได้เสียอะไร เขาก็ยินดีให้ สำหรับคนเลี้ยงปลา เขาเก็บขยะเล็กๆน้อยๆจากหลายๆร้านอาหาร ก็มากพอที่จะนำไปเลี้ยงปลาในแต่ละวัน เป็นการลดต้นทุนค่าอาหารปลา ในระยะหลังเศษอาหารเริ่มกลายเป็นมีราคา แม้จะต้องจ่ายเงินซื้อบ้าง หากมีราคาไม่แพงและได้ปริมาณมากพอ เขาก็ยอมซื้อ แต่ราคาปลาก็สูงขึ้นด้วยเป็นเงาตามตัว

อีกตัวอย่างหนึ่ง ตามสำนักงาน และตามบ้านเรือนมีขยะอยู่หลายๆชนิด เรามักมองคนเก็บขยะเป็นคนไม่มีเกียรติ แต่ความจริงแล้ว มันเป็นอาชีพที่ทำเงินได้ไม่น้อยในปัจจุบัน หากคนรู้จักเข้าไปทำงานในช่องว่างดังกล่าว เจ้าของบ้านหรือร้านค้าเองก็มีของเหลือใช้ที่ไม่รู้จะกำจัดอย่างไร ในต่างประเทศเมื่อมีของเหลือใช้ที่พอจะมีคุณค่าและนำไปใช้ได้ เขาจะกองไว้ที่หน้าบ้าน หากใครต้องการใช้ก็ไปหยิบเอามาปรับปรุงใช้ ส่วนรถเก็บขยะเองนั้น เขาไม่มีที่เก็บขยะ มีแต่จะต้องโยนใส่รถที่มีระบบบีบอัดไปเลย ของดีๆที่พอจะใช้ได้จะกลายเป็นของเสีย

ทั้งสองตัวอย่างที่ได้กล่าวมานี้ คือเรื่องของการที่คนเรากล้าที่จะขอ แล้วสิ่งที่เราขอนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร คนเขาให้ได้ เขาก็ยินดีที่จะให้ และในบางกรณีที่มันเริ่มมีคุณค่า เราจะยอมจ่ายเงินบ้าง เป็นการต้องซื้อ ก็พอจะคุ้มในการดำเนินการแล้ว

มีผู้ชายคนหนึ่ง เขาเป็นนักธุรกิจเสียจริงๆ จนไม่รู้วิธีที่จะเกี้ยวผู้หญิง ไม่มีนิสัยโรแมนติก เขารู้จักผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาถูกใจ แต่ไม่ได้เคยไปเที่ยวเตร่ด้วยกัน แล้ววันหนึ่งเขาก็เข้าไปขอผู้หญิงคนนั้นแต่งงาน ข้อเสนอขอแต่งงานของเขาดูแปลก เขาพูดตรงๆถึงลักษณะนิสัยของเขา สิ่งที่เขามี สิ่งที่เขาจะทำในอนาคต แล้วเขาขอให้เธอมาร่วมใช้ชีวิตกับเขา เขาบอกไม่รีบร้อนที่จะได้คำตอบ แต่ขอให้เธอดูเขา รู้จักเขา พร้อมเมื่อใดขอให้บอกด้วย

มันดูตรงไปตรงมา อย่างที่เรียกว่า Decent proposal มันเป็นข้อเสนอที่ดี แม้สร้างความแปลกใจให้กับสตรีนั้น ซึ่งก็ไม่ปฏิเสธและไม่ได้ตอบรับในทันที แต่ในที่สุดหลังจากได้รู้จักชายหนุ่มคนนั้น สตรีนั้นก็ตอบรับ และนำไปสู่การแต่งงานที่ในอีกหลายสิบปีต่อมาได้พิสูจน์ว่า การตัดสินใจเลือกชายคนนั้นเป็นสามี นับเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับชีวิตเธอ

ในโลกนี้เป็นเรื่องจริงที่มีคนหน้าด้าน ทะเล้น ทะลึ่ง ที่ไม่กลัวที่จะขอหรือเสนอ แล้วนั่นก็นำไปสู่ความสำเร็จ ซึ่งจะตรงกันข้ามกับคนประเภทที่ไม่กล้าพูด ไม่กล้าขอ ชอบเพศตรงข้ามก็ได้แต่เพียงหลบตา อาย ไม่กล้าที่จะมีสัมพันธ์ด้วย แล้วในที่สุดก็เสียโอกาสไป

บางทีเราต้องเป็นคนกล้าพูด กล้าขอ กล้าที่จะเสนอตัวเอง แม้บางครั้งดูเหมือนเป็นสิ่งที่คนเขาไม่ปฏิบัติกัน แต่การที่เรากล้าที่จะแสวงหา แม้จะผิดหวังบ้าง แต่หากยังไม่ละเลิกความพยายาม ท้ายสุดมันก็นำไปสู่ความสำเร็จได้