ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org
เรียบเรียงจากข่าว BBC, “Morocco's King Mohammed unveils constitutional reforms” ประจำวันที่ 17 June 2011, Last updated at 23:52 GMT
ภาพ กษัตริย์โมฮัมเหม็ดที่ 6 (Mohammed VI) กล่าวแถลงกรอบรัฐธรรมนูญใหม่ที่จะให้มีการประชามติ
กษัตริย์มอรอคโค โมฮัมเหม็ดที่ 6 สัญญาว่าจะให้ประชาธิปไตยสำหรับประชาชนชาวมอรอคโค
กษัตริย์โมฮัมเหม็ดที่ 6 (Mohammed VI) กล่าวว่าพระองค์จะยึดมั่นในสถาบันประชาธิปไตย จะปกป้องสิทธิ แต่จะยังคงอำนาจสำคัญบางส่วน
การปฏิรูปจะให้อำนาจนายกรัฐมนตรีและรัฐสภาในการบริหารราชการแผ่นดินมากขึ้น จะให้ภาษา Berber เป็นอีกภาษาทางการอีกหนึ่งภาษาในประเทศมอรอคโค นอกเหนือจากภาษาอาหรับ
ขอเสนอของพระองค์จะได้จัดให้มีการทำประชามติ (Referendum) ในวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2554
กษัตริย์โมฮัมเหม็ดได้เคยให้สัญญาในเดือนมีนาคมว่าจะนำเสนอให้มีการปฏิรูปรัฐธรรมนูญ หลังจากที่ได้มีการเดินขบวนต่อต้านรัฐบาล ซึ่งเกิดจากกระแสประชาธิปไตยที่ได้แผ่ขยายไปทั่วภูมิภาค แต่กระนั้นก็ตาม คนนับพันยังเข้าร่วมกระแสประชาธิปไตยเดินขบวนประท้วงเป็นระยะๆ
ในสมัยก่อนเรามีกษัตริย์ทรงอำนาจเบ็ดเสร็จ แต่เดี๋ยวนี้เรามีกษัตริย์ทรงอำนาจแล้วยังเป็นผู้นำทางศาสนา (Pope) ไปด้วยในตัว
Elaabadila Chbihna ผู้ประท้วงคนหนึ่งกล่าว ฝ่ายผู้รณรงค์ต่อต้านได้ตั้งข้อสงสัยในสัญญาของกษัตริย์ที่จะเปลี่ยนแปลง แต่กล่าวว่ามอรอคโคมีสถาบันกษัตริย์มากกว่า 400 ปี ที่มีประวัติว่าจะปรับปรุงแต่ก็เป็นแบบ “เสริมสวย” ที่ไม่จริงจัง
ในสุนทรพจน์ของกษัตริย์ผ่านทางสถานีโทรทัศน์แห่งมอรอคโค พระองค์ได้ให้ข้อเสนอเพื่อการปฏิรูปแล้วหวังว่าชาวมอรอคโคจะได้ให้การสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงนี้
พระองค์กล่าวว่า การปฏิรูปครั้งนี้หากได้รับการยอมรับ จะเป็นการตัดสินใจครั้งประวัติศาสตร์ที่จะเปลี่ยนแปลงกระบวนการปกครองที่ตั้งอยู่บนฐานของกฏหมายและสถาบันประชาธิปไตย และจะส่งเสริมระบบธรรมาภิบาล (Good governance) เป็นกลไกสำคัญในการบริหารประเทศ
การแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้จะประกันศักดิ์ศรีของประชาชนและความยุติธรรมทางสังคม
การประกันความเป็นอิสระของอำนาจตุลาการ และการพยายามกำจัดระบบฉ้อราษฎรบังหลวง การปฏิรูปจะให้สิทธิเสรภาพในการแสดงออก และให้สิทธิของทั้งสองเพศอย่างเท่าเทียมกัน
กษัตริย์กล่าวว่าอำนาจของพระองค์จะถูกลดลงมากที่สุด “เท่าที่จะเป็นไปได้” โดยนายกรัฐมนตรีจะมีอำนาจเพิ่มขึ้นที่จะแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี จัดตั้งรัฐบาล และการยุบสภา หากจำเป็น
ภาพ ประชาชนชาวโมรอคโคกำลังเฝ้าหน้าจอเพื่อฟังสุนทรพจน์ของกษัตริย์ ด้วยทัศนะที่แตกต่างกันออกไป
ตามข้อเสนอของพระองค์จะมีสภาแห่งชาติ (National councils) ที่รวมถึงสภาเยาวชน ที่จะทำให้ประชาชนกลุ่มได้มีส่วนร่วมในการปกครองประเทศ
กษัตริย์ทรงกล่าวว่าพระองค์จะยังคงดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดของทุกเหล่าทัพ และยังคงอำนาจด้านการรักษาความมั่นคงของชาติ
ตามข้อกำหนดของรัฐธรรมนูญ กษัตริย์จะมีบทบาทและอำนาจสูงสุดทางศาสนาของประเทศ
พระองค์กล่าวว่า “ศักดิ์ศรีของบุคคลของกษัตริย์ไม่ควรถูกล่วงละเมิด” ในที่นี้คาดว่าคงจะหมายถึงกฏหมายหมิ่นพระบรามเดชานุภา (Lese Majeste)
ตามข้อเสนอใหม่นี้ ไม่ได้พยายามขยายอำนาจทางศาสนาของกษัตริย์ แต่ได้ให้ภาพที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับอำนาจของกษัตริย์ทางการเมือง
ร่างข้อเสนอปฏิรูปรัฐธรรมนูญนี้เป็นผลจากคณะกรรมการปฏิรูปที่กษัตริย์ได้ทรงแต่งตั้งขึ้น
Driss Lachgar รัฐมมนตรีว่าการความสัมพันธ์กับรัฐสภาได้เรียกร่างรัฐธรรมนูญใหม่นี้ว่าเป็น “การปฏิวัติโดยแท้จริง” เขากล่าวว่า “มันจะเป็นการวางรากฐานให้กับระบบรัฐธรรมนูญที่มีฐานรัฐสภา”
หลังการกล่าวสุนทรพจน์ของกษัตริย์จบลง รถยนต์ที่วิ่งตามท้องถนนในมอรอคโคได้ชูธงชาติ และบีบแตรลั่นเมือง เยาวชนต่างเดินไปตามถนนตีกลองและส่งเสียงแสดงความดีใจกึกก้อง
แต่กระนั้น นักรณรงค์ต่อต้านก็ไม่ยินดีนักกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
ในสมัยก่อนเรามีกษัตริย์ทรงอำนาจเบ็ดเสร็จ แต่เดี๋ยวนี้เรามีกษัตริย์ทรงอำนาจแล้วยังเป็นผู้นำทางศาสนา (Pope) ไปด้วยในตัว
Elaabadila Chbihna นักรณรงต์ต่อต้าน ที่เรียกว่ากลุ่มเคลื่อนไหว 20 กุมภาพันธ์ ที่ได้จัดรณรงค์เคลื่อนไหวต่อต้านที่จัดให้มีขึ้นทั่วประเทศเป็นรายสัปดาห์ กล่าวแสดงความไม่เห็นด้วย และไม่ไว้วางใจ
สิ่งที่น่ากังวลของประเทศมอรอคโคคือ ประเทศกำลังประสบปัญหาการท้าทายทางเศรษฐกิจ มีอัตราคนว่างงานสูงขึ้น และอัตราความยากจนก็แผ่ขยายสูงขึ้น
กษัตริย์โมฮัมเหม็ดวัย 47 พรรษา ได้ครองราชย์สมบัติตั้งแต่ปี ค.ศ. 1999 หลังการสิ้นพระชนม์ของพระบิดา กษัตริย์ฮัสซันที่ 2 (Hassan II) ปัจจุบันกษัตริย์แห่งมอรอคโคจัดได้ว่าเป็นประมุขของประเทศที่มีการสืบราชวงศ์ (Dynasty) ที่ยาวนานที่สุดของโลกอาหรับ
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ราชอาณาจักรโมร็อกโก المملكة المغربية (อาหรับ) | ||
คำขวัญ: الله، الوطن، الملك | ||
เมืองใหญ่สุด | ||
- | พระมหากษัตริย์ | |
- | นายกรัฐมนตรี | |
- | จาก ฝรั่งเศส | |
- | จาก สเปน | |
- | รวม | 446,550 ตร.กม. (56) |
- | น้อยมาก | |
- | 2548 (ประมาณ) | 31,478,000 (37) |
- | 66.8 คน/ตร.กม. (96) | |
2548 (ประมาณ) | ||
- | รวม | 139.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (51) |
- | 4,700 ดอลลาร์สหรัฐ (109) | |
ดพม. (2546) | 0.631 (กลาง) (124) | |
- | (DST) | |
212 |
โมร็อกโก (อังกฤษ: Morocco; อาหรับ: المغرب "ทิศตะวันตก") หรือชื่อทางการคือ ราชอาณาจักรโมร็อกโก (Kingdom of Morocco; อาหรับ: المملكة المغربية "ราชอาณาจักรที่ตั้งอยู่ทางตะวันตก") เป็นประเทศในแอฟริกาตะวันตกเฉียงเหนือ มีชายฝั่งทอดยาวบนมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งผ่านช่องแคบยิบรอลตาร์ เข้าสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีอาณาเขตทางตะวันออกจรดประเทศแอลจีเรีย (ชายแดนทางด้านนี้ปิด) ทางใต้จรดเวสเทิร์นสะฮารา ทางเหนือจรดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และทางตะวันตกจรดมหาสมุทรแอตแลนติก โมร็อกโกอ้างสิทธิเหนือเวสเทิร์นสะฮาราและได้ปกครองพื้นที่ตั้งแต่ พ.ศ. 2518 สถานะของเวสเทิร์นสะฮารายังคงโต้แย้งกันอยู่ และ กำลังรอประชามติจากสหประชาชาติ
โมร็อกโกปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข มีวันชาติตรงกับวันที่ 30 กรกฎาคม[1]
No comments:
Post a Comment