Sunday, February 3, 2013

หรือระบบการศึกษาจะเป็นเพียงเหยื่อทางการเมือง?


หรือระบบการศึกษาจะเป็นเพียงเหยื่อทางการเมือง?

วัชรินทร์ สอนพูด

Keywords: การศึกษา, education, โรงเียน, schools, การเมือง, politics, นโยบายการศึกษา, education policies



ภาพ นักเรียนในโรงเรียนส่วนภูมิภาคของประเทศไทย จาก www.nationmultimedia.com

ผมวิเคราะห์ ๒ วัฒนธรรม คิดได้ฉับพลันก็ขอเขียนความประกอบภาพ : มูลกรณีหลายเรื่องที่บุคคลสำคัญใน"วังจันทรเกษม"กระทรวงศึกษาธิการ ได้ถ่ายทอดออกมาจนสร้างเป็นกระแสเม๊าท์กันฮือฮา จะด้วยทรงผมเด็กนักเรียนไทยยุคใหม่ การบ้าน เป็นต้น

เราคงปฎิเสธไม่ได้ว่านี่คือ "เหยื่อทางการเมือง" ที่ชนชั้นผู้ปกครองได้ครอบงำเด็กนักเรียนและผู้ปกครองที่นุ่มนวลไว้อย่างแยบคายและประหนึ่งว่า "ชอบธรรม"

นับแต่รัฐบาลภายใต้การบริหารของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาตั้งแต่ ๙ สิงหาคม ๒๕๕๔ กระทรวงศึกษาธิการได้เปลี่ยนเสนาบดีไปแล้วถึง ๓ คน

นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล อยู่ได้ ๖ เดือน

ศาสตราจารย์สุชาติ ธาราธำรงเวช ป.เอก ด้านเศรษฐศาสตร์บริหารได้ ๑๐ เดือนซึ่งมีผลงานที่เด่นชัดที่สุดก็คือชุดความคิดที่ติดกรอบเป็นถาวรวัตถุประดับไว้ในห้องผอ.โรงเรียนทั่วประเทศ และ

คนสุดท้ายคืออดีตท่านผู้พิพากษา พงษ์เทพ เทพกาญจนา ผู้ที่มีทรัพย์สินร่ำรวยประมาณ ๒.๙ พันล้าน ขึ้นดำรงตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการในปัจจุบัน ผลงานโดนใจนักเรียนทั่วไทยและทั่วถึงกอปรกับเสียงร้อง เฮ ! ลั่นสนั่นประเทศกับ "สิทธิเด็ก" ที่จะได้รับสมบูรณ์ ขยายผลอย่างกว้างขวางและรวดเร็ว ทอม..ทวงสิทธิสวมกางเกง เด็กหญิง-ชาย..ใคร่เจาะลิ้น เจาะหู สักลาย โกนผม หรือไฮไล้ท์สีผม และร้องสิทธิแต่งตัวอวดอึ๋ม เซ็กซี่ โชว์ชุดชั้นใน..ตามสไตล์ที่เด็กพึงต้องการ

หากย้อนดูนักเรียนไทยในอดีต นักเรียนจะใช้สิทธิเรียกร้องค่าหน่วยกิตแพง สำหรับพวกผมนัดหยุดเรียนประท้วงอาจารย์ใหญ่ หรือนิสิตนักศึกษาที่นำโดยธีรยุทธ (ปัจจุบันศาสตรจารย์ ดร.ธีรยุทธ บุญมี) ก็เรียกร้องการรณรงค์ซื้อสินค้าไทย ไม่ซื้อสินค้าญี่ปุ่นและต่อต้านการล่าสัตว์ป่าของกลุ่มนายทหารและตำรวจในทุ่งนเรศวร

แต่เด็กไทยยุคใหม่กำลังถูกพิษร้าย "ประชานิยม" (Populism) ทั้งสื่อโทรทัศน์และอื่นๆมอมเมาเยาวชนไทย ครอบครัวที่เป็นสถาบันทางสังคมที่เล็กที่สุดอ่อนแอเป็นโดมิโนจะล้มป่วยและตายในที่สุด

สถานศึกษาเป็นแหล่งผลิตซ้ำทางวัฒนธรรม (Cultural reproduction) ที่กระทรวงศึกษาธิการควรที่จะปรับกระบวนทัศน์กำหนดเป็นวาระแห่งชาติ อาศัยพลังปัญญานักวิชาการ ปราชญ์การศึกษา เครื่อข่ายผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษา ครู และผู้มีส่วนได้เสียในสังคมทุกภาคส่วน สร้างเด็กไทยใหม่ให้เป็น "ทุนมนุษย์" (Human Resource) ที่สมบูรณ์ ถอดรื้อการศึกษาที่ใช้ตะวันตกเป็นศูนย์กลาง นำปรัชญาที่เกี่ยวข้องมา "ปฏิรูปการศึกษา" อย่างจริงจัง ไม่ใช่ ๒ รัฐมนตรีผู้ยิ่งใหญ่ในวังจันทรเกษม จะมาสนใจแต่การขึ้นป้ายรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญที่ขึ้นพรึบทั่วประเทศขณะนี้ หรือนี่คือหน้าที่ที่แท้จริง..


No comments:

Post a Comment