สนับสนุนให้ผู้สูงอายุขี่จักรยาน ประสบการณ์จากประเทศญี่ปุ่น
Keywords: การขนส่ง, transportation, การเดินทาง, commuting, สิ่งแวดล้อม, environment, ecology, energy, รถจักรยาน, bicycles, bikes, เมืองเป็นมิตรกับจักรยาน, Bicycle-Friendly Cities, เกียวโต, ประเทศญี่ปุ่น, Kyoto, Japan, โตเกียว, Tokyo, ผู้สูงอายุ, senior
citizen, silver generation
ภาพ สุภาพสตรีสูงวัยที่ยังสาว
ขี่จักรยานไปจับจ่าย
คนญี่ปุ่นสูงวัยกำลังใช้จักรยานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
เขาใช้เป็นยานพาหนะหลักในชีวิตประจำวัน ซึ่งได้ประโยชน์หลายด้านที่ประมาณค่าไม่ได้
ประโยชน์ทางด้านสุขภาพ (PHYSICAL HEALTH BENEFITS)
การขี่จักรยานทุกวัน ขี่ไปจ่ายตลาด
ไปเยี่ยมเพื่อนฝูง ไปที่สถานีรถไฟ รถโดยสาร เพื่อจะเดินทางไปที่อื่นๆต่อไป
คนญี่ปุ่นสูงวัยกำลังเพิ่มปีที่มีคุณค่าให้กับชีวิตของตนเอง เป็นการใช้ชีวิตที่ไม่ต้องฝืนเหมือนต้องเข้าโรงยิมเพื่อออกกำลังกาย
การขี่จักรยานเป็นผลดีต่อสุขภาพ สร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหัวใจ
กล้ามเนื้อทั่วร่างกาย ลดไขมัน เพิ่มความแข็งแรงของกระดูก
ทำให้การเคลื่อนไหวของข้อต่อต่างๆดีขึ้น และป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน
โดยรวม เมื่อผู้สูงวัยขี่จักรยาน
เขาจะได้เพิ่มความแข็งแรง การทรงตัวและความคล่องแคล่ว
ซึ่งทำให้ลดโอกาสล้มและกระดูกแตกหรือหัก การขี่จักรยานเป็นการรักษาระดับสุขภาพ
ระดับของความดันโลหิต การลดการกระแทกอย่างดีไม่เหมือนการออกกำลังกายบางอย่าง
เช่นการวิ่ง หรือการยกน้ำหนัก ซึ่งไม่เหมาะสำหรับผู้มีอาการจากโรคข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritis)
จากการวิจัยเมื่อเร็วๆนี้ พบว่าการขี่จักรยานออกกำลังกายทำให้ท่านหนุ่มสาวขึ้น
นักวิจัยที่ King’s College London
และที่มหาวิทยาลัย Birmingham ประเทศสหราชอาณาจักรได้ศึกษากลุ่มประชากรวัยเกิน
55 ปีขึ้นไป พบว่าระดับการทำงานของร่างกายจะอยู่ในระดับอายุน้อยกว่าคนในวัยเดียวกันมาก
ประโยชน์ทางสุขภาพจิต (MENTAL HEALTH BENEFITS)
ผู้สูงอายุที่ขี่จักรยานจะได้ประโยชน์อย่างมากด้านสุขภาพจิต
การขี่จักรยานทำให้ลดความหดหู่ (Depression) ลดความเครียด (Stress
& Anxiety) ไม่ใช่เพียงเพราะการได้ออกกำลังกายเป็นการคลายเครียด
ไม่เชื่อลองได้ขี่จักรยานยามเช้าหรือเย็น ในช่วงอากาศร้อน แล้วใบหน้าเราได้ปะทะกับสายลมเย็นๆ
โดยไม่ต้องนั่งในห้องปรับอากาศ มันเป็นความรู้สึกที่ดี สดชื่นอย่างบอกไม่ถูก
ศาสตราจารย์ Art Kramer
แห่งสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก้าวหน้าแห่งมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ (Beckman
Institute for Advanced Science and Technology at the University of Illinois) ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาสรุปว่าการเดินและการออกกำลังกายสม่ำเสมอในช่วง 6
เดือนถึง 1 ปี
จะช่วยทำให้ความจำและทักษะการแก้ปัญหาดีขึ้นร้อยละ 15 ถึง 20
การออกกำลังกายด้วยการเดินหรือขี่จักรยานวันละ 45 นาทีในแต่ละวัน จะช่วยสมองด้านความคิด (Cognitive function) ทั้งในเด็กและผู้สูงอายุ และเฉพาะผู้สูงอายุ
การได้ขี่จักรยานหรือออกกำลังกายสม่ำเสมอจะช่วยต่อต้านการสูญเสียความทรงจำ
ภาพ จักรยานสามล้อญี่ปุ่น ผลิตโดยบริษัท Bridgestone
เหมาะสำหรับผู้สูงวัย ได้ประโยชน์ในหลายระดับ
ภาพ จักรยานสามล้อที่บรรทุกของที่จับจ่ายได้ทั้งตะกร้าด้านหน้า และด้านหลัง
ภาพ จักรยานแบบแม่้าน ที่ญี่ปุ่นเรียก mama bicycle ติดทั้งตะกร้าด้านหน้า และที่ใส่ของด้านหลัง หรือจะให้มีเด็กนั่งซ้อนได้
ภาพ จักรยานแบบชายและหญิงใช้ได้ แต่มีการออกแบบให้มีน้ำหนักเบากว่าจักรยานแม่บ้านทั่วไป
ภาพ จักรยานไฟฟ้าแบบแม่บ้านใช้ได้ และเหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการเดินทางไกลสักหน่อย เช่นระยะ 10-15 กิโลเมตร ต้องใช้แรงจากไฟฟ้าช่วยเสริมการถีบ
ประโยชน์ในทางสังคม (SOCIAL BENEFITS)
สาวยาคูลท์ (Yakult girls)
นอกจากประโยชน์ทางด้านสุขภาพจิต
คนสูงอายุที่ขี่จักรยานจะได้ประโยชน์ทางด้านสังคม
คนสูงอายุที่ขี่จักรยานจะไม่อยู่ติดกับบ้าน
จะพึ่งพาให้คนต้องดูแลน้อยกว่าผู้สูงอายุที่ต้องมีคนคอยดูแล
คนสูงอายุที่ขี่จักรยานได้ จะไปที่ไหนๆก็ได้ที่อยากจะไป
ในเมืองใหญ่อย่างโตเกียวมีประชากรเป็นสิบล้านคน
แต่ก็มีชุมชนเพื่อนบ้านกระจายอยู่ทั่วไป ที่ หากคนสูงอายุต้องการอะไร
ก็สามารถเดินไปซื้อหา หรือขี่จักรยานไป การขี่จักรยานได้จึงเป็นการทำให้ชีวิตเป็นอิสระ
ไม่ต้องพึ่งพา นับเป็นพลังทางบวกเป็นผลประโยชน์ทางด้านจิตใจที่ไม่ควรมองข้าม
การหลุดพ้นจากการต้องอยู่แต่ในบ้านอย่างเงียบเหงา
การได้ออกไปเที่ยวไกลๆด้วยจักรยาน นับเป็นประโยชน์ที่ได้มีปะทะสังสรรค์ทางสังคม
ซึ่งมิฉะนั้นก็จะไม่มีโอกาส กิจกรรมทางสังคมนี้ทำให้คนสูงอายุมีสุขภาพจิตที่ดี
ภาพ Yakult ladies - สาวยาคุลท์กับงานช่วยเหลือสังคม
ในประเทศญี่ปุ่นมีสตรีจำนวนกว่า 41,000
คนที่ทำงานให้กับบริษัท Yakult เครื่องดื่มสุขภาพที่เรียกว่า
Pro biotic drinks ในแต่ละวัน “สาวยาคุลท์” (Yakult
ladies) นี้ ทำหน้าที่บริการสำคัญให้กับชุมชน
ดังเช่นการติดตามเฝ้าดูแลผู้สูงอายุที่เป็นลูกค้าเป็นประจำ โดยไม่ได้รับเงินเดือนอะไรเป็นพิเศษ
รัฐบาลก็ไม่ได้จ่ายอะไรให้ สาวยาคุลท์จะขี่จักรยานไปในทุกซอกมุมของชุมชน
รู้รายละเอียดของสุขภาพลูกค้าที่เป็นผู้สูงอายุ
สามารถให้คำปรึกษาและช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆ ที่เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน
งานเหล่านี้ไม่ได้เกี่ยวกับธุรกิจหลักของบริษัท ไม่ได้รับเงินพิเศษ
ลองคิดโอกาสในอีกแง่หนึ่ง คนสูงอายะที่มีฐานะดำรงตนอยู่ได้
หรือพอมีเงินเหลือ ได้ใช้เวลาว่างขี่จักรยานออกไปเยี่ยมญาติหรือเพื่อนผู้ใหญ่ ผู้ที่สูงวัยยิ่งกว่า
ที่ขาดคนดูแลหรือติดต่อ ผู้อาสาสมัครสามารถให้คำแนะนำด้านสุขภาพ การช่วยตรวจวัดน้ำตาลในเลือด
ความดันโลหิต การได้พูดคุย และเมื่อพบปัญหาก็รายงานหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านสุขภาพผู้สูงวัย
ดังนี้ก็เป็นประโยชน์ เพราะในสังคมญี่ปุ่นที่มีผู้สูงอายุอยู่เป็นอันมาก
บางทีมีผู้สูงอายุเจ็บป่วยและเสียชีวิตไป โดยไม่มีใครรับรู้
เพราะลูกหลานก็ไปทำงานในที่ๆห่างไกลออกไป
สุกินามิชมรมซ่อมจักรยาน (Suginami Green Cycle initiative)
ในประเทศญี่ปุ่นมีชมรมผู้สูงอายุร่วมกันทำกิจกรรมหนึ่งที่เรียกว่า
“Suginami
Green Cycle initiative” ที่ซึ่งผู้สูงอายุในชุมชนมารวมตัวกันเป็นประจำ
เพื่อซ่อมจักรยานที่ไปเก็บมาจากที่ต่างๆรอบๆเมือง เพื่อนำมาขายต่อในราคาถูก ผู้สูงอายุเหล่านี้
จะทำงานอาสานี้อย่างจริงจังในแบบญี่ปุ่น
ทั้งนี้อีกส่วนหนึ่งคือเพื่อโอกาสในการสร้างมิตรภาพที่ยืนยาวของคนในชุมชนที่ได้ร่วมกันทำงาน
สนับสนุนผู้สูงอายุให้ขี่จักรยาน (SUPPORTING ELDERLY
CYCLISTS)
ผู้สูงอายุมีความต่างกันหลายระดับ
ทั้งทางอายุและสมรรถนะทางร่างกาย แต่การขี่จักรยานกระทำได้ในผู้สูงวัยทุกระดับ
ทั้งนี้ต้องอาศัยการออกแบบจักรยานให้สอดคล้องกับถนน ความลาดชัน
ระดับความสามารถในการทรงตัว บานคนแข็งแรงแต่เสียศูนย์ในการทรงตัว หรือมีความไวในการตอบสนอง
(Reflexion หรือ Coordination) ลดลง
ก็สามารถเปลี่ยนจากจักรยานสองล้อ (Bicycle) เป็นจักรยานสามล้อ
(Tricycle) หรือบางคนอยู่ในที่ๆเป็นเนินเขา ถนนมีขึ้นมีลง
หรือต้องการเดินทางไกลสักหน่อย ก็ใช้จักรยานแบบไฟฟ้าลูกประสม (Padelec) ที่มีระบบพลังไฟฟ้าไว้เสริมเมื่อมีการขี่ขึ้นเขา หรือต้องการเดินทางไกลสัก
10-15 กิโลเมตร เป็นต้น
ภาพ จักรยานไฟฟ้า (Electric bicycle,
e-bikes) แบบมีระดับการใช้พลังไฟฟ้ากับพลังคนถีบ
ตั้งแต่ใช้พลังไฟฟ้าทั้งหมด; พลังไฟฟ้า + พลังคนถีบ; และพลังคนถีบอย่างเดียว
ภาพ ผู้สูงอายุในประเทศญี่ปุ่นที่จะมีมากยิ่งขึ้น และเป็นปัญหาด้านค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ
No comments:
Post a Comment