Thursday, December 27, 2012

หนังสือ กับการผจญภัยของผมก่อนสิ้นปีเก่า ต้อนรับปีใหม่


หนังสือ กับการผจญภัยของผมก่อนสิ้นปีเก่า ต้อนรับปีใหม่

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

การเรียนหนังสือเป็นเรื่องหนักหนา แต่ในความหมายที่ต่างกัน

If you would not be forgotten as soon as you are dead, either write something worth reading or do things worth writing.

หากไม่ต้องการให้คนลืมท่านทันทีเมื่อตาย ก็ต้องเขียนบางอย่างที่มีคุณค่าแก่การอ่าน หรือไม่ก็ทำบางอย่างที่มีคุณค่าแก่ที่คนจะนำไปเขียน

โดย เบนจามิน แฟรงคลิน (Benjamin Franklin) นักวิทยาศาสตร์, นักประดิษฐ, นักการทูต, อัจฉริยะ, หนึ่งในบิดาผู้ก่อตั้งประเทศสหรัฐอเมริกา

ศิษย์ที่รัก ...

หนังสือ 12 เล่มที่ผมได้จัดหา เพื่อเป็นคู่มือในการเรียนวิชาหนึ่ง ราคาลดแล้วประมาณเล่มละ 722 บาท แต่กว่าหนังสือเล่มนี้จะถึงมือท่านมันมีเรื่องราวที่อยากจะเล่าให้ฟัง


ภาพ หนังสือที่อยากให้มีไว้เป็นคู่มือในการเรียนวิชา Human Capital Development 

ผมได้เลือกหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อว่า Human Resource Management โดย Gary Dessler ฉบับนานาชาติ พิมพ์ครั้งที่ 13 โดยสำนักพิมพ์ Pearson ปี ค.ศ. 2013 มันมีทั้งหมด 712 หน้า มันอาจไม่ใช่หนังสือที่ดีที่สุดในโลก แต่เหมาะสำหรับการใช้เป็นคู่มือสำหรับการเรียนรู้เกี่ยวกับวิชา Human Capital Development ที่ผมและผศ.ดร. วสัญชัย กากแก้ว สอน หนังสือเล่มนี้ ราคาไม่แพง หากทำได้ ไม่ต้องไปถ่ายสำเนา แต่ซื้อหนังสือของเขาทั้งเล่ม เพราะราคาเล่มละ 722.5 บาท

ในวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เมื่อผมได้ไปส่งภรรยาจับจ่ายแถว Central World ราชประสงค์ แล้วนัดพบกันที่ร้าน Supermarket ชื่อ Gourmet Market ที่ศูนย์การค้า Siam Paragon แล้วผมก็เดินมาหาซื้อหนังสือที่ “ศูนย์หนังสือจุฬาฯ” ส่วนที่อยู่ติดกับวิทยาเขตของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


ภาพ กล่องบรรจุหนังสือ 12 เล่ม หนักรวม 18 กิโลกรัม

เดินหาหนังสือสักพัก ก็ให้เจ้าหน้าที่หาหนังสือให้ เมื่อตกลง รวมจ่ายค่าหนังสือไป 8670 บาท ซื้อ เจ้าหน้าที่เขาเอาหนังสือบรรจุใส่กล่อง แล้วถามผมว่า “จะให้ไปส่งที่รถอาจารย์ไหมครับ จอดรถที่ไหน” ผมบอก “ไม่ได้จอดรถที่นี่ แต่นัดไปเจอกันที่ Gourmet Market” ผมจะแบกหนังสือไปเอง ที่นั่นจะมีรถเข็นสามารถใส่ของขนไปได้

คุณพระช่วย ผมลืมไปว่า กล่องหนังสือ 12 เล่ม รวมแล้วหนักประมาณ 18 กิโลกรัม แล้วระยะทางที่ผมจะต้องแบกของไปให้ถึงเป้าหมาย คือประมาณ 350-500 เมตร และในระยะทางนั้น ต้องเดินแบกของขึ้นสะพานลอยโดยไม่มีบันไดเลื่อน ไม่มีล้อเลื่อนที่จะช่วยลากของ ต้องแบกของและเดินเอาล้วนๆ
ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น

ผมเดินแบกกล่องกระดาษที่ดูเหมือนจะหนักยิ่งขึ้นเอาไว้ด้วยบ่า เดินข้ามศูนย์การค้าสยามสแควร์ (Siam Square) สลับบ่าซ้ายและขวาเพื่อรับน้ำหนัก เดินแบบไม่เร็วแต่เดินเรื่อยๆ แต่ไม่ปล่อยของวางกับพื้น เพราะมันจะสกปรก แบกมาจนถึงสะพานเดินข้ามถนนไปยัง Siam Paragon มองไม่เห็นบันได้เลื่อนที่จะลดความเหนื่อยล้า เหงื่อท่วมเสื้อแล้ว พักอีกสักระยะ ก่อนอึดใจช่วงสุดท้าย ยกของใส่บ่า แล้วเดินขึ้นบันไดสูงเทียบเท่ากับตึก 3 ชั้น อย่างช้าๆ จนข้ามสะพานคนข้ามได้ แล้วพักวางของบนราวสะพาน ก่อนรวบรวมแรงช่วงสุดท้าย เดินแบกของไปยังจุดหมาย Gourmet Market ขณะแบก สลับบ่าซ้ายและขวาอีก 3-4 ครั้ง อากาศเย็นๆในที่ร่มปรับอากาศของศูนย์การค้า ทำให้รู้สึกสบายขึ้น จนในที่สุด ก็มาถึงเป้าหมาย เอาของใส่รถเข็นแล้วฝากของไว้กับร้าน สำรวจตัวเองอีกครั้ง เหนื่อยแน่นอน แต่หัวใจยังเต้นปกติ

ต้องกลับมาชื่นชมเวลาที่ต้องออกกำลังกาย เดินบนสายพาน และขี่จักรยานออกกำลังกายทุกเช้า การออกกำลังกายสม่ำเสมอมีประโยชน์จริงๆ ไม่เช่นนั้นคงแบกของหนักเดินไกลดังที่เล่ามาให้ฟังนี้ไม่ได้
ผมเขียนเล่ามาให้ฟังทั้งหมดนี้ ก็เพื่อบอกพวกท่านทั้งหลายว่า ขอให้ตั้งใจเรียน ตั้งใจอ่าน เลือกใช้ประโยชน์อย่างค่อยเป็นค่อยไป เรียนเรื่องการบริหาร (Management) ไปด้วย พร้อมกับเรียนรู้ภาษาอังกฤษ (English Skills) ไปพร้อมๆกัน หากจะค้นคว้าอะไรเพิ่มเติม ก็ให้เริ่มจากบทเรียนในหนังสือ แล้วค้นหาต่อเบื้องต้นจาก Wikipedia และระบบการแปลคำจาก Google

หากขี้เกียจเมื่อใด ให้นึกถึงความพยายามที่ผมแบกของ เพื่อนำหนังสือนี้ เดินทางติดตัวมายังจังหวัดสุรินทร์ อีก 450 กิโลเมตร ตลอดจนค่าหนังสือที่ท่านต้องจ่าย โปรดใช้หนังสืออย่างมีคุณค่าสมกับประวัติความเป็นมาของมัน

สวัสดีปีใหม่ ปี 2556 ขอให้เป็นปีแห่งความหวัง ความพยายาม ใช้สติ ปัญหา และจุดเริ่มต้นของความสำเร็จในทุกด้านต่อไป

No comments:

Post a Comment