ปัก กึนฮเย (Park Geun-hye) บุตรสาวอดีตผู้นำเผด็จการเกาหลีใต้ได้รับชัยชนะ

ปัก กึนฮเย (Park Geun-hye) บุตรสาวอดีตผู้นำเผด็จการเกาหลีใต้ได้รับชัยชนะ ได้เป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของเกาหลี

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

ประธานาธิบดีหญิงคนแรก

จากข่าว  “Park Geun-hye claims South Korea presidential victory.”  CNN วันที่ December 19, 2012 -- Updated 2315 GMT (0715 HKT)

ภาพ ปัก กึนฮเย (Park Geun-hye) 

Seoul, South Korea (CNN) ผู้สมัครสายอนุรักษ์ ปัก กึนฮเย (Park Geun-hye) บุตรสาวอดีตผู้นำเผด็จการของเกาหลีใต้ ได้รับชัยชนะในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ผลการเลือกตั้งทำให้ประเทศนี้ได้มีประธานาธิบดีหญิงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

ในการหาเสียงท่ามกลางฝูงชนที่จัตุรัสกวางวามุน (Gwanghwamun Square) ปัก กึนฮเยกล่าวว่าชัยชนะของเธอนั้นเป็นชัยชนะของประชาชน เธอกล่าวว่า “ข้าพเจ้าจะเป็นประธานาธิบดีของชาติเราที่จะรักษาสัญญา” - ปัก กึนฮเย (Park Geun-hye) ผู้ชนะการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการของเกาหลีใต้

“นี่เป็นชัยชนะของประชาชนผู้ต้องการก้าวข้ามวิกฤติและฟื้นฟูเศรษฐกิจของเรา ดิฉันจะไม่ลืมประชาชนผู้เชื่อมั่นในตัวดิฉัน ไม่ว่าที่ใดที่ได้เดินทางไปในช่วงของการหาเสียงเลือกตั้ง”

... ดิฉันจะเริ่มยุคแห่งความสุขในชาติของเรา”

ประวัติบุคคล

ข้อมูลพื้นฐานจาก Wikipedia …

ภาพ อดีตประธานาธิบดีปัก จุงฮี (Park Chung-hee)

ปัก กึนฮเยเป็นบุตรสาวของอดีตประธานาธิบดีปัก จุงฮี (Park Chung-hee) ซึ่งเป็นคนที่ชาวเกาหลีใต้มีทัศนะที่แตกต่างกัน ทั้งเกลียดอย่างที่สุด และทั้งยกย่องให้ความเคารพ บางคนกล่าวว่าเขาเป็นเผด็จการที่ละเลยต่อสิทธิมนุษยชน และมีการปราบปรามฝ่ายตรงกันข้ามอย่างรุนแรง แต่อีกฝ่ายหนึ่งมองเห็นเขาอย่างให้ความยกย่องว่าวีระบุรุษ เป็นผู้ที่ทำให้เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจในเกาหลีใต้

แต่หลังจากนายพลเผด็จการปัก จุงฮีครองอำนาจได้ 16 ปี เขาก็ถูกสังหารในปี ค.ศ. 1979

ปัก กึนฮเย (Park Geun-hye) เกิดเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1952 เป็นผู้ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีของประเทศเกาหลีใต้ เธอเป็นประธานพรรคแนวอนุรักษ์ พรรคใหญ่แห่งชาติ (Grand National Party - GNP) ในช่วงปี ค.ศ. 2004 และ 2006 และระหว่าง ค.ศ. 2011 ถึง 2012 พรรคใหญ่แห่งชาติ หรือ GNP ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Saenuri Party ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012 ปัก กึนฮเย เป็นสมาชิกรัฐสภาแห่งชาติเกาหลี ผู้ได้รับเลือกตั้ง 4 สมัยติดต่อกัน

พรรคซาเอนูริ (Saenuri Party)

พรรคซาเอนูริ (Saenuri Party) หรือเป็นที่รู้จักกันในนาม "พรรคพรหมแดนใหม่" ก่อตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012 แทนที่พรรคเดิม คือพรรคใหญ่แห่งชาติ (Grand National Party) จัดว่าเป็นพรรคแนวอนุรักษ์ของเกาหลีใต้ พรรคได้มีเสียงข้างมากในสภาครั้งที่ 19 ซึ่งจะมีผลในช่วงปี ค.ศ. 2012 ถึง 2916

โดยแนวนโยบายเศรษฐกิจของพรรค อาจเรียกได้หลายลักษณะ ดังเช่น อนุรักษ์นิยม (Conservatism), อนุรักษ์นิยมเสรี (Liberal conservatism), เสรีนิยมใหม่ (Neoliberalism), เสรีนิยมทางเศรษฐกิจ (Economic liberalism), กล่าวคือ เป็นเศรษฐกิจเสรีนิยม เน้นการพัฒนาอุตสาหกรรม เป็นมิตรกับบริษัทยักษ์ใหญ่ของเกาหลีเอง เน้นการสร้างความแข็งแกร่งทางการค้า และการส่งออก

ในทัศนะด้านชาติ พรรคฯจัดเป็นพวกเกาหลีชาตินิยม (Korean nationalism) ไม่ดำเนินนโยบายอ่อนข้อให้กับเกาหลีเหนือ ในทางการเมือง จัดว่าเป็นพวกขวากลาง (Centre-right) จนถึงพวกขวาเต็มตัว (Right-wing)

ชีวิตการเมือง

ในด้านชีวิตครอบครัว บิดาของปัก กึนฮเย คือปัก ชุงฮี (Park Chung-hee) อดีตประธานาธิบดีเผด็จการผู้ครองอำนาจในช่วงปี ค.ศ. 1963 ถึงปี ค.ศ. 1979 ปัก กึนฮเยเกี่ยวข้องกับการเมืองตั้งแต่เป็นวัยรุ่น ที่ต้องติดตามการทำงานของบิดา

ปัก กึนฮเย นับเป็นนักการเมืองที่ทรงอิทธิพลที่สุด นับแต่ยุค 3 คิม อันได้แก่ คิมยังซัม (Kim Young Sam), คิม แดจุง (Kim Dae-jung), และ คิม จองพิล (Kim Jong-pil) ปัก กึนฮเยเป็นสมาชิกสภาแห่งชาติ (Korean National Assembly) มาแล้ว4 สมัยในช่วงปี ค.ศ. 1998 ถึง 2012 และเริ่มทำงานเป็นสมัยที่ 5 ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ค.ศ. 2012

ปัก กึนฮเย ได้รับตำแหน่งเป็นสตรีหมายเลขหนึ่ง ตั้งแต่เมื่อมารดาของเธอ ถูกสังหารโดยนักล่าสังหารที่ทำการให้กับเกาหลีเหนือ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 1974 ตราบจนบิดาของเธอ ได้ถูกสังหารโดยหัวหน้าหน่วยสืบราชการลับ กิม แจกิว (Gim Jaegyu) ในวันที่ 26 ตุลาคม ค.ศ. 1979

มรดกทางการเมือง

ในช่วงที่บิดาของเธอยังมีชีวิตและมีอำนาจในฐานะเผด็จการผู้ปกครองประเทศ กลุ่มสิทธิมนุษยชนอันเป็นฝ่ายตรงข้ามกับบิดาของเธอ ได้กล่าวโทษปัก จุงฮีว่าได้มีการจับกุมคุมขังฝ่ายต่อต้าน กระทำการผิดหลักสิทธิมนุษยชน (Human rights) แม้ในอีกด้านหนึ่ง มีคนจำนวนมากเช่นกันที่ให้เครดิตต่อนายพลปัก จุงฮีที่เป็นผู้ริเริ่มการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติให้ฟื้นตัวเข้มแข็งได้ หลังสงครามโลกครั้งที่สอง และสงครามเกาหลี ที่ประเทศเสียหายทั้งชีวิตผู้คนและทรัพย์สินไปเป็นอันมาก อย่างไรก็ตามในปี ค.ศ. 2007 ปัก กึนฮเยได้แสดงความเสียใจต่อนักรณรงค์ทั้งหลายที่ได้รับผลกระทบจากการปกครองประเทศของบิดาของเธอ

ปัก กึนฮเยได้ชื่อว่าเป็นนักหาเสียงเลือกตั้งที่มีความสามารถ และมักเป็นผู้นำชัยชนะมาสู่พรรคของเธอ มีหลายครั้งที่พรรคของเธอได้รับคะแนนนิยมตกต่ำ และเมื่อเธอได้รับมอบหมายให้นำพรรค เธอก็สามารถนำชัยจากการเลือกตั้งได้อย่างดีเกินคาด

ดังในการหาเสียงในวันที่ 20 พฤษภาคม ค.ศ. 2006 จี ชุงโฮ (Ji Chung-ho) อาชญากรวัย 50 ปี ได้โจมตีและใช้ดาบฟันใบหน้าของปัก กึนฮเยจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำให้เกิดแผลยาว 11 เซนติเมตร ต้องมีการเย็บแผลถึง 60 เข็ม ใช้เวลาผ่าตัดหลายชั่วโมง แต่เมื่อเธอฟื้นขึ้นมา คำถามแรกที่เธอถามเลขานุการที่เฝ้าไข้อยู่ว่า “แดจอง (Daejon) เป็นอย่างไรบ้าง?” แดจองไม่ใช่ชื่อคน หรือญาติพี่น้อง แต่เป็นเมืองที่มีขนาด 1.4 ล้านคน ที่มีความสำคัญในทางเศรษฐกิจและการเมือง

หลังจากนั้น พรรค GNP ของเธอที่ได้ส่งคนชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีของเมืองแดจอง ที่คะแนนตามห่างถึงร้อยละ 20 ในการหยั่งเสียง ก็กลับมาเป็นผู้ฝ่ายชนะการเลือกตั้ง และเพราะการเลือกตั้งนี้ ปัก กึนฮเย จึงได้รับฉายาว่า “ราชินีเลือกตั้ง” (Election Queen)

อนาคตของเกาหลีใต้

อนาคตทางการเมืองของปัก กึนฮเย จะเป็นเรื่องที่ท้าทายและมีความสำคัญต่อประเทศเกาหลีใต้ ที่ต้องเผชิญปัญหาความชะงักงันทางเศรษฐกิจ ที่อัตราการเติบโตลดต่ำลงมาในระดับร้อยละ 2 หลังจากที่เติบโตต่อเนื่องมาในระดับร้อยละ 5 และเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ต้องได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจในยุโรปและอเมริกาเหนือ ในทางการเมืองภายในประเทศ เธอต้องทำตามสัญญา ที่จะทำให้คนในชาติมีความสุข คนระดับล่างมีรายได้ที่ดียิ่งขึ้น ยึดหลักสิทธิมนุษยชน การสร้างความโปร่งใสในการปกครอง ปฏิรูปกิจการเอกชนขนาดใหญ่ที่มีลักษณะผูกขาดในประเทศ เพื่อจะแข่งขันกับต่างประเทศ ให้ได้อยู่ในสถานะที่เปิดเสรีมากขึ้น