ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
Pracob@sb4af.org
ศึกษาและเรียบเรียงจาก Wikipedia, the free encyclopedia
| ||||||
Motto: Royal: Alt for Norge | ||||||
Anthem: Ja, vi elsker dette landet
| ||||||
Location of Norway (dark green) on the European continent (dark grey) — [Legend] | ||||||
เมืองหลวง | ||||||
ภาษาทางการ | ||||||
คำเรียกประชาชน | ||||||
รัฐบาล | Crowned republic Unitary parliamentary democracy and constitutional monarchy | |||||
- | กษัตริย์ | |||||
- | นายกรัฐมนตรี | |||||
- | ประธานาธิบดี | |||||
- | ประธานศาลสูง | |||||
- | รัฐบาลพรรคร่วมในปัจจุบัน | |||||
Establishment | ||||||
- | การรวมเป็นประเทศ | ค.ศ. 872 | ||||
- | การเกิดรัฐธรรมนูญ | 17 May 1814 | ||||
- | การรวมกับสวีเดน | 7 June 1905 | ||||
- | การเป็นอิสระจากการยึดครองของเยอรมัน | 8 May 1945 | ||||
พื้นที่ Area | ||||||
- | รวม Total | 385,252 km2 (61st1) | ||||
- | พื้นน้ำที่อยู่ในแผ่นดิน | 7.03 | ||||
ประชากร | ||||||
- | 2011 estimate | 4,973,700 (116th) | ||||
- | 2001 census | 4,503,436 | ||||
- | ความหนาแน่นประชากร | 12.5/km2 (211th) | ||||
2010 estimate | ||||||
- | รวม | $255.285 billion[1] | ||||
- | รายได้ต่อคน | $52,012[1] | ||||
GDP (nominal) | 2010 estimate | |||||
- | รวม | $414.462 billion[1] | ||||
- | รายได้ต่อคน | $84,443[1] | ||||
Gini (2000) | 25.8 (low) (5th) | |||||
ดรรชนีย์มวลรวมความสุข | ||||||
- | Summer (DST) | |||||
dd.mm.yyyy | ||||||
สภาพการขับรถ | ทางด้านขวาของถนน | |||||
.no2 | ||||||
1 | Includes Svalbard and Jan Mayen. (Without these two areas, the area of Norway is 323,802 km2, placing it 67th in the world.[3]) | |||||
2 | Two more TLDs have been assigned, but to date not used: .sj for Svalbard and Jan Mayen; .bv for Bouvet Island. | |||||
3 | This percentage is for the mainland and also includes glaciers[4] |
ประเทศนอร์เวย์ (Norway) อ่านออกเสียงในภาษานอร์เวย์ได้หลายคำ ดังนี้ (i/ˈnɔrweɪ/; Norwegian: Norge (Bokmål) or Noreg (Nynorsk) โดยทางการเรียกว่า “ราชอาณาจักรนอร์เวย์ (Kingdom of Norway) เป็นประเทศในกลุ่มนอร์ดิก (Nordic) เป็นรัฐเดี่ยว (Unitary) มีกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ (Constitutional monarchy) ในลักษณะเดียวกับสหราชอาณาจักร และประเทศไทย นอร์เวย์เป็นประเทศทางส่วนตะวันตกของกลุ่มแหลมสแกนดิเนเวีย (Scandinavian Peninsula) เช่นเดียวกับเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะอาร์คติก (Arctic archipelago) ของเกาะสวาลบาร์ด (Svalbard) และบูเวท (Bouvet Island)
นอร์เวย์มีพื้นที่ 385,252 ตารางกิโลเมตร มีประชากร 4.9 ล้านคน ขนาดใกล้เคียงกับประเทศสิงคโปร์ มีความหนาแน่นของประชากร (Population Density) น้อยที่สุดเป็นอันดับสองของยุโรป
นอร์เวย์มีชายแดนด้านตะวันออกติดกับประเทศสวีเดน (Sweden) ทางทิศเหนือสุดติดกับประเทศฟินแลนด์ (Finland) ทางตอนใต้ติดกับประเทศรัสเซีย (Russia) ทางตะวันออกติดกับช่องแคบสแคเกอร์แรค (Skagerrak Strait) โดยเลยข้ามไปเป็นประเทศเดนมาร์ก (Denmark) นอร์เวียมีเมืองหลวง (Capital city) ชื่อออสโลว์ (Oslo) นอร์เวย์มีชายฝั่งยาวเหยียดติดกับมหาสมุทรแอตแลนติก (Atlantic Ocean) และทะเลแบเรนท์ (Barents Sea) จัดเป็นบ้านของฟยอร์ด (Fjords) อันหมายถึงช่องทะเลสงบที่อยู่ระหว่างเขาสูงที่เกิดจากภูเขาน้ำแข็งเคลื่อนตัวผ่านและกัดกร่อน
ภาพ ชนเผ่านักรบ Viking ที่ใช้เรือเป็นพาหนะ นำพลบุกรบและปล้นในยุโรปตอนเหนือ
เป็นเวลาสองศตวรรษที่พวกไวกิ้ง (Viking) อันเป็นพวกชาวป่าเขา รบเก่งถนัดท่องไปด้วยเรือในทะเล อันเป็นต้นกำเนิดของกลุ่มสแกนดิเนเวีย ได้บุกไปทั่วยุโรป ได้รับวัฒนธรรมส่วนหนึ่งกลับมา ในปี ค.ศ. 994 กษัตริย์ King Olav Tryggvason ได้รับคริสต์ศาสนามาเป็นศาสนาประจำชาติ ต่อมาได้เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นและจบลงในช่วงศตวรรษที่ 13 ดินแดนของนอร์เวย์ได้ขยายไปยังเกาะอังกฤษ (British Isles) และไอซ์แลนด์ (Iceland) และกรีนแลนด์ (Greenland) ด้วยยุทธการโจมตีจากทางทะเล
ภาพ เรือโบราณของพวก Viking ที่ใช้ในการเดินทางเพื่อไปสู้รบยังดินแดนริมทะเลในสมัยโบราณ
อาณาเขตอำนาจของนอร์เวย์ขยายกว้างที่สุดในปี ค.ศ. 1265 แต่การแข่งขันจากกลุ่มแฮนซีติก (Hanseatic League) และไข้กาฬโรคที่ระบาดไปทั่วโลกที่เรียกในครั้งนั้นว่า “ความตายสีดำ” (Black Death) ที่ได้ทำให้ประเทศอ่อนแอลง ในปี ค.ศ. 1397 ได้รวมกับเดนมาร์คนับเป็นเวลา 4 ศตวรรษ ในปี ค.ศ. 1814 ชาวนอร์เวย์ได้ต่อต้านการยึดรวมของสวีเดน และจากการเจรจาได้รับให้มีรัฐธรรมนูญใหม่ (New constitution) หลังจากนั้นสวีเดนได้บุกยึดนอร์เวย์ แต่ได้ตกลงในภายหล้งที่ปล่อยให้นอร์เวย์มีรัฐธรรมนูญของตนเอง แต่เข้าร่วมเป็นสหพันธ์ (Union) ภายใต้กษัตริย์ของสวีเดน ซึ่งในช่วงดังกล่าวทำให้เกิดกระแสชาตินิยม (Rising nationalism) ตลอดช่วงศตวรรษที่ 19 จนนำไปสู่ประชามติในปี ค.ศ. 1905 (1905 referendum) ทำให้ประเทศนอร์เวย์เป็นประเทศอิสระ (Norway independence)
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง นอร์เวย์คงความเป็นประเทศไม่ฝักไฝ่ฝ่ายใด แต่ก็สูญเสียกองเรือไปเป็นจำนวนมาก และแม้ว่าจะประกาศเป็นกลาง แต่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง นอร์เวย์ก็ถูกยึดครองโดยเยอรมันในยุคไรน์ที่สาม (Third Reich) เป็นเวลา 5 ปี ความเป็นกลางของนอร์เวย์ได้ยุติลงเมื่อนอร์เวย์ได้เข้าร่วมกับสนธิสัญญา NATO ร่วมป้องกันประเทศกลุ่มแอตแลนติกเหนือ ซึ่งสหรัฐหนุนหลัง เพื่อสร้างดุลอำนาจป้องกันการรุกรานจากสหภาพโซเวียต
ในช่วงปี ค.ศ. 1960s เมื่อมีการสำรวจแหล่งน้ำมันและแก๊สในทะเล นอร์เวย์ก็ประสบโชคจากทรัพยากรน้ำมัน ในการลงประชามติในปีค.ศ. 1972 และปี ค.ศ. 1994 นอร์เวย์ปฏิเสธที่จะร่วมกับสหภาพยุโรป (European Union - EU) ด้วยประเด็นความเป็นห่วงในเรื่องการอพยพของชนกลุ่มน้อยและการประสมประสานของประชากรต่างเผ่าพันธุ์ (immigration and integration of ethnic minorities) เพราะนอร์เวย์ซึ่งมีลักษณะเหมือนกับประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวีย ที่มีระบบรัฐสวัสดิการสูง มีประชากรสูงวัยมากขึ้นที่จะต้องดูแลอยู่แล้ว และยังต้องคงความสามารถในการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจ (economic competitiveness) กับประชาคมโลกโดยรวม
นอร์เวย์มีระบบการปกครองแบบรัฐเดียว (unitary) เป็นประชาธิปไตยแบบมีรัฐสภา (parliamentary democracy) และมีกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ (Constitutional monarchy) โดยในปัจจุบันมีกษัตริย์ฮารลัลด์ที่ 5 (King Harald V) เป็นประมุขแห่งรัฐ (Head of state) มีนายเจนส์ สโตลเตนเบิร์ก (Jens Stoltenberg) เป็นนายกรัฐมนตรี (Prime minister)
ภาพ เมือง Oslo เมืองหลวงของนอร์เวย์
นอร์เวย์มีการปกครองแบบรัฐเดียว (unitary state) โดยแบ่งการปกครองออกเป็นสองลักษณะ กล่าวคือ มีการปกครองแบบตามเขตพื้นที่เรียกว่า Counties คล้ายอำเภอ เรียกในภาษาของเขาว่า fylker และมีการปกครองในเขตประชากรหนาแน่น หรือปกครองเมือง เรียกว่า kommuner ส่วนชาว “ซามิ” (Sámi people) มีการปกครองของตนเองที่ได้รับอิทธิพลจากประเพณีในท้องที่ โดยอาศัยสภา เรียกว่า Sámi Parliament และมีบทบัญญัติ Finnmark Act รองรับ
แม้นอร์เวย์ปฏิเสธการเข้าร่วมสหภาพยุโรป European Union membership ในการมีประชามติถึงสองครั้ง แต่ก็คงความใกล้ชิดกับสหภาพยุโรปและกับประเทศสมาชิก เช่นเดียวกับมีสัมพันธ์อ้นดีกับสหรัฐอเมริกา นอร์เวย์ยังคงเป็นประเทศที่ให้การสนับสนุนสหประชาชาติ (United Nations) มากที่สุดประเทศหนึ่ง และเป็นประเทศที่ส่งกำลังสนับสนุนตามมติสหประชาชาติ ทั้งใน Afghanistan, Kosovo, Sudan และใน Libya นอร์เวย์เป็นประเทศสนับสนุนผู้ก่อตั้งองค์กร United Nations, NATO, the Council of Europe และสภาแห่งนอร์ดิก (Nordic Council) เป็นสมาชิกของเขตเศรษฐกิจยุโรป (European Economic Area) องค์การค้าโลก (WTO), OECD และเป็นส่วนหนึ่งของเขตเชงเกน (Schengen Area)
นอร์เวย์เป็นประเทศมีคนน้อย แต่มีทรัพยากรธรรมชาติมาก ดังเช่น ปิโตรเลียม (petroleum), แก๊สธรรมชาติ (natural gas), แร่ธาตุ (minerals), ไม้ (lumber), อาหารทะเล (seafood), สัตว์น้ำจืด (fresh water), และมีพลังจากน้ำเพื่อทำไฟฟ้า (hydropower). รายได้ต่อคนของชาวนอร์เวย์ (per-capita) จัดว่าสูงที่สุดในโลกเมื่อคิดเป็นต่อคนในด้าน น้ำมัน (oil) ก๊าซธรรมชาติ (natural gas) ในส่วนนอกเหนือจากประเทศตะวันออกกลาง (Middle East) โดยมีรายได้จากปิโตรเลียมเป็นร้อยละ 25 ของรายได้ประชาชาติ
ด้วยเหตุดังกล่าวนอร์เวย์จึงสามารถยึดถือแนวทางรัฐสวัสดิการแบบกลุ่มนอร์ดิก (Nordic welfare model) มีสวัสดิการสุขภาพดีถ้วนหน้า (Universal health care) ให้การสนับสนุนการอุดมศึกษา (Higher education) ระบบประกันสังคม (Social security system) ในช่วงปีค.ศ. 2001 ถึง ปี ค.ศ. 2007 และอีกครั้งในช่วงปี ค.ศ. 2009 ถึงปี ค.ศ. 2010 นอร์เวย์มีระดับดรรชนีย์พัฒนาการมนุษย์ (Human Development Index – HDI) สูงที่สุดในโลก
No comments:
Post a Comment