Wednesday, September 14, 2011

กฎข้อที่ 27 ทำตนให้คนเชื่อถืออย่างคลั่งไคล้

กฎข้อที่ 27 ทำตนให้คนเชื่อถืออย่างคลั่งไคล้

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail:
Pracob@sb4af.org

ศึกษาและเรียบเรียงจาก “กฎการใช้อำนาจ 48 ข้อThe 48 Laws of Power”, 1998 โดย Robert Greene and Joost Elffers.

Keywords: power48, Administration, การบริหาร, management, การจัดการ, power, อำนาจ

ความนำ

Play on People’s Need to Believe to Create a Cultlike Following
ทำงานกับฝูงชนต้องให้เชื่อดังคลั่งไคล้

คนและฝูงชนพร้อมที่จะเชื่อในบางอย่าง การสร้างความหวัง และศรัทธาที่คนจะเดินตาม การเปลี่ยนแปลงบางครั้งคือการทำให้คนมีความเชื่อในค่านิยมบางอย่าง เชื่อในทิศทางบางอย่าง และแม้บางครั้ง ความเชื่อเหล่านั้นเป็นไปอย่างคลั่งไคล้ โดยไม่ได้คำนึงถึงข้อเท็จจริง

การต่อสู้ของ Gandhi คือการนำความหวังใหม่มาสู่อินเดีย และการสร้างความเชื่อว่า การต่อสู้อย่างสันติวิธี การขัดขืนอย่างอารยะ จะนำมาซึ่งประโยชน์แห่งประเทศอินเดีย

Gandhi ได้ชื่อว่าใช้สื่อตะวันตกเป็นเครื่องมือเพื่อการต่อสู้กับอังกฤษ และใช้ความเชื่อแบบตะวันออกในการผูกพันและจูงใจคนได้อย่างดียิ่ง

ภาพ คานธี (Gandhi) ใช้การอดอาหารเพื่อประท้วงคนอินเดียที่ต่างศาสนาและความเชื่อให้หยุดการทำร้ายกัน คานธีอาจเป็นคนที่สื่ออย่างใช้หลักเหตุผล แต่ผู้ตามคานธีในยุคสมัยนั้น คือคนที่ไร้การศึกษา อันเป็นมหาขนกลุ่มใหญ่ของอินเดีย หลายสิ่งที่คานธีกระทำ จึงต้องเป็นการสื่อที่อ้างอิงศาสนาและความเชื่อของกลุ่มคนได้

ภาพ การรณรงค์การผลิตเกลือจากทะเลและปฏิเสธภาษีเกลือที่จัดเก็บโดยอังกฤษ เป็นสัญญลักษณ์ของการไม่ยอมรับอำนาจจากประเทศล่าอาณานิคมอย่างอังกฤษ

ภาพ เหมา เจอตุง อันเป็นภาพลักษณ์ที่ได้รับการยกย่องอย่างสูง

ผู้นำบางทีพูดอะไรไม่ต้องชัดเจน แต่สามารถทำให้คนมีความหวัง มีความฮึกเหิม เชื่อมั่น ฝูงชนในบางขณะไม่ต้องการฟังเหตุผลหรือความคิดที่ชัดเจน การทำให้คนเข้าร่วมมีพิธีกรรม

5 ขั้นตอนการได้มาซึ่งอำนาจความเชื่อ

กฎแห่งอำนาจข้อที่ 28 นี้ มีสมมุติฐานว่า มนุษย์เมื่ออยู่ในสภาพฝูงชนมักมีความต้องการที่จะเชื่อในบางสิ่งบางอย่างอย่างง่ายๆ คนที่รู้จักใช้อำนาจนี้จะมีอำนาจได้ด้วย 5 ขั้นตอน

1. ทำให้สรรพสิ่งหลวมๆ ง่ายๆ (Keep It Vague; Keep It Simple.) ใช้ภาษากำกวมไม่ชัดเจน แต่ใช้ภาษาง่ายๆ ยกตัวอย่างการพูดถึงความฝัน ลางสังหรณ์ หรือฟ้าดิน เหล่านี้เป็นคำที่คนทั่วไปฟังได้ง่าย แต่ก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้อย่างชัดเจน

ภาพ การรณรงค์สนับสนุนฮูโก ชาเวซ (Hug Chavez) ประธานาธิบดีของประเทศเวเนซูเอล่า ผู้นิยมแนวทางสังคมนิยม ต่อต้านสหรัฐอเมริกาในกลุ่มประเทศอเมริกาใต้

ภาพ การรณรงค์สนับสนุนนายพันกัดดาฟี (Gaddafi) อดีตผู้นำที่ครองอำนาจเบ็ดเสร็จในลิเบียมาเป็นเวลากว่า 42 ปี

ภาพ gaddafi ผู้นำของลิเบียเมื่อเขาแต่งกายในลักษณะชนเผ่าของลิเบีย

ภาพ การรณรงค์ของกลุ่มสนับสนุนกัดดาฟี ที่ใช้สีเขียวใบไม้เป็นสัญญลักษณ์

2. เน้นการมองเห็นด้วยสายตาและความรู้สึกมากกว่าเน้นปัญญา (Emphasize the Visual and the Sensual over the Intellectual.) ต้องเข้าใจว่าการสื่อสารกับคนต่างกลุ่มกันนั้นต้องการภาษาที่จะสื่อที่ต่างกัน ถ้าสื่อกับฝูงชน การอ่านบทกวี ร้องเพลงปลุกใจ การแสดงละครฯลฯ นับเป็นการสื่อสารที่ได้ผล ถ้าจะพูดกับอาจารย์มหาวิทยาลัยหรือปัญญาชน คนชั้นกลางที่มักขี้สงสัย ก็จะพูดแบบหนึ่ง อาจต้องใช้การวิจัย ผลการเก็บและพิสูจน์ด้วยข้อมูลข้อค้นพบ แต่หากจะพูดกับคนระดับล่าง คนที่เขามาเพื่อต้องการความเชื่อบางอย่าง เขาไม่ได้เข้ามาเพื่อจะพิสูจน์ แต่เข้ามาเพื่อให้เขามีความเชื่อที่จะยึดเหนี่ยวทางใจ

ภาพ การอดอาหารของคานธี นับเป็นสัญลักษณ์กดดันพวกของตนเอง เพื่อให้สงบ และลดการฆ่าฟันทำร้ายกันระหว่างคนต่างศาสนา

3. ยืมโครงสร้างแบบกลุ่มศาสนาในการสร้างฐานอำนาจ (Borrow the Forms of Organized Religion to Structure the Group.) สังคมที่ยิ่งใหญ่มักจะต้องดำรงอยู่ได้อย่างมีระเบียบวินัย จัดโครงสร้างของกลุ่มเป็นระบบลำดับชั้น แม้ดูเหมือนเจ้าขุนมูลนาย ไม่มีความเป็นประชาธิปไตย แต่มันทำให้เกิดระเบียบ โดยเฉพาะเมื่อต้องการจะเคลื่อนไหวคนจำนวนมากๆ จะต้องมีวิธีการสื่อสาร สั่งการ และดำเนินการอย่างมีระเบียบแบบแผน มิฉะนั้นจะเกิดความสับสน และทำให้เสียผลได้

4. หลบเลี่ยงแหล่งที่มาของรายได้ (Disguise Your Source of Income.) ใช้ชีวิตที่หรูหราได้ เป็นเครื่องบ่งบอกถึงความสำเร็จ แต่ไม่เปิดเผยวิธีการที่ได้มาของแหล่งเงินเหล่านั้น ลองสังเกตผู้นำทางศาสนาที่คนยากจนเชื่อกันมากๆนั้น บางทีเขามีชีวิตที่ดูหรูหรา สร้างโบสถ์สร้างวัดกันใหญ่โต หรือบางที่พรรคการเมืองที่มีนโยบายประชานิยม แต่คนนำพรรคอาจเป็นมหาเศรษฐีที่ก็ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา และจริงๆคนก็ไม่ได้ไปสนใจว่าเขาได้เงินทองเหล่านั้นมาอย่างไร

5. สร้างพลภาพแบบมี “พวกเรา” และ “พวกเขา” (Set Up an Us-Versus-Them Dynamic.) ทำให้คนที่ตามเรามีลักษณะเป็นกลุ่มภายในที่มองแยกตนและกลุ่มออกจากภายนอก ยกตัวอย่างในสมัยคอมมิวนิสต์จีนภายใต้เหมา เจอตุง จะใช้เครื่องแต่งกายสีน้ำเงินทึมๆ สะท้อนความเป็นชาวนาและชนชั้นกรรมาชีพ ประธานาธิบดีฮูโก ชาเวส (Hugo Chávez) ผู้นำของเวเนซูเอล่า ใช้สีแดงเป็นสัญลักษณ์ของพวกพ้องที่สนับสนุนเขา

สรุป

ในการเป็นผู้นำในระบบการเมือง การนำกลุ่มคนที่นอกเหนือจากอำนาจหน้าที่ปกติ บางครั้งการได้มาซึ่งอำนาจนั้น เป็นเรื่องที่ต้องสร้างความเชื่อถือและเชื่อมั่น ซึ่งเป็นอันมากไม่สามารถอธิบายได้ว่าสิ่งที่พูดหรือสิ่งที่ผู้นำนั้นมีเหตุผลหรือไม่ เพราะคนในช่วงเวลาบางขณะ เขาต้องการที่จะเชื่อ หรือหาสิ่งยึดเหนี่ยวบางประการ

ในทัศนะของผม เห็นว่าการใช้อำนาจความเชื่อโดยปราศจากคำอธิบายเช่นนี้ไม่พึงกระทำ แต่เราก็ควรรู้ว่ามีคนมีอำนาจมากมายที่เขาได้อำนาจเหล่านี้มา เป็นเครื่องเสริมที่ขึ้นสู่อำนาจ แม้อำนาจเหล่านั้นจะเป็นมาจากพวกพ่อมด หมอผี หรือความเชื่อในความของขลังแบบโบราณ ดังนั้น คนที่จะต้องอยู่ในสถานะใช้อำนาจ ก็พึงต้องทำความเข้าใจเอาไว้ แม้เราไม่ใช้ แต่คนที่เขาอาจเป็นศัตรูกับเรา เขาอาจหาทางใช้ทุกวิถีทางที่จะได้มาซึ่งอำนาจนั้นๆ

No comments:

Post a Comment