รถยนต์เพื่อการเดินทางไปทำงาน (Commuter Cars) ในสหรัฐอเมริกา

รถยนต์เพื่อการเดินทางไปทำงาน (Commuter Cars) ในสหรัฐอเมริกา

ประกอบ คุปรัตน์Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

ศึกษาและเรียบเรียงจาก “The Most Affordable Fuel-Efficient New Cars” โดย Jim Motavalli of The Daily Green และ “10 Stellar Commuter Cars” โดย Evan Griffey of MSN Autos

Keywords: Commuting, การเดินทาง, Energy, พลังงาน, environment, สิ่งแวดล้อม

รถยนต์ประเภท Commuter Cars คือรถยนต์ที่ผู้ใช้ได้ใช้รถเพื่อการเดินทางไปทำงานไปและกลับสู่บ้านเป็นหลัก เป็นการเดินทางที่ไม่ไกลในแต่ละวัน เช่น ไป-กลับไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อวัน และธรรมชาติของการเดินทางไปทำงานนั้น มักจะขับรถไปคนเดียว จึงมักไม่จำเป็นต้องใช้รถใหญ่

ภาพ Toyota Yaris แบบ Hatchback 5 ประตู

จากประชากรของสหรัฐ 300 ล้านคน คนอเมริกัน 128 ล้านคน จากสถิติของสำนักสถิติอเมริกัน ในการเดินทางไปทำงานแต่ละวันนั้น ร้อยละ 81 เดินทางด้วยรถยนต์ ร้อยละ 76 ขับรถไปเอง ร้อยละ 11 ใช้รถร่วมกัน (Carpool) อาจจะกับเพื่อนบ้าน ในชุมชนเดียวกัน หรือคนในเส้นทางร่วมกัน แต่ละวันใช้เวลาในการเดินทางเที่ยวละ 25.5 นาที หรือวันละ 1 ชั่วโมง แต่มีคนจำนวนถึง 3.5 ล้านคนที่เดินทางไปทำงานเที่ยวเดียวกว่า 90 นาที 

ด้วยเหตุของการที่รถติดขัดบนท้องถนน ซึ่งมีผลต่อความสุขและคุณภาพชีวิตโดยรวม และการหาทางต้องลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานเชื้อเพลิง และรักษาสิ่งแวดล้อมไปด้วยในตัว ดังนั้นคนอเมริกันต้องคิดถึงรถยนต์ที่เหมาะแก่การเดินทางช่วงสั้นๆในการไปทำงาน เรียกว่า Commuter cars

รถยนต์เพื่อการเดินทางไปทำงานในแต่ละวันนั้น จึงควรมีลักษณะ ขนาดไม่ใหญ่ หรือกล่าวว่าเล็กที่สุดแล้วยังนั่งได้อย่างพอสบาย ซึ่งในที่นี้ต้องคิดถึงผู้ชายสูง 180-190 ซม. น้ำหนักตัวประมาณ 80-100 กิโลกรัม ซึ่งมีให้เห็นโดยทั่วไป ส่วนราคาต้องไม่แพง รถยนต์ใช้แล้วไม่จุกจิก เชื่อถือได้ (Reliability) ซึ่งเขาจะมองไปที่ราคาประมาณ USD15,000 เทียบเป็นเงินไทยประมาณ 450,000 บาท ราคาในอเมริกานี้จะมีภาษีต่ำกว่าในประเทศไทย ซึ่งในราคาขนาดนี้ จะใช้รถยนต์ไฟฟ้า (Electric cars) หรือรถยนต์ไฟฟ้าลูกประสม (Hybrid electric cars) ก็ยังจะหาได้ยาก หรือยังเป็นไปไม่ได้ ส่วนการประหยัดน้ำมันก็จะเป็นการต้องเลือกเอารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน แต่เครื่องไม่ใหญ่นัก ซึ่งส่วนใหญ่มีเครื่องยนต์ระหว่าง 1,400-1,800 ซีซี จะใช้น้ำมันอยู่ที่ประมาณ 30-35 ไมล์/แกลลอน หรือประมาณ 14-15 กิโลเมตร/ลิตร

รถยนต์ลักษณะและขนาดที่เขาใช้เพื่อการเดินทางไปทำงานในแต่ละวันนี้ แท้จริง คือขนาดรถยนต์ที่ใช้เป็นหลักของครอบครัวคนชั้นกลางในประเทศไทย ซึ่งจะยังใช้รถยนต์ 1 คันต่อ 1 ครอบครัว แต่ในอเมริกานั้น เขามีวัฒนธรรมการใช้รถยนต์มากกว่าไทย คือหากอายุ 18 ปีขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย ก็มักจะมีรถยนต์ใช้กันแล้ว ดังนั้น บ้านๆหนึ่งมีสมาชิกพ่อแม่ และลูก 2 คนโดยเฉลี่ย ก็จะมีการใช้รถกัน 3-4 คัน หากอยู่ในเมืองใหญ่ที่มีระบบการขนส่งมวลชนที่ดี ก็จะมีการใช้รถสาธารณะกันมากขึ้น และใช้รถยนต์ส่วนตัวกันน้อยลง

ดังนั้นรถยนต์ประเภทขับไปทำงาน จึงจะมีขนาดเป็นรถคันเล็กของเขา นั่งได้สองคนเป็นส่วนใหญ่ หากจะนั่ง 4 คนก็ได้ แต่จะอึดอัดสักเล็กน้อย แต่พอนั่งกันได้ ซึ่งอาจเป็นแบบ 2 ประตู 4 ประตูที่เรียกว่า Sedan แบบ 5 ประตู หรือ Hatchback รถในลักษณะดังกล่าวได้แก่ Toyota Yaris, Honda Jazz หรือ Fit, Fiat 500 ซึ่งด้วยความร่วมมือกับ Chrysler จะมีราคาเดียวกันกับรถราคาถูกทั่วไป แต่ในประเทศไทยจะมีราคาเป็นรถหรูขนาดเล็ก เพราะต้องนำเข้าจากยุโรป

อีกส่วนหนึ่งคือรถที่เขาใช้ร่วมกัน ทำหน้าที่เป็น Commuter cars นั่งได้ 5-7 คน รถระดับนี้จะไม่เป็นรถที่มีความเร็วสูง แต่นั่งสบายสำหรับคนหลายๆคน

แนวทางนี้ก็ถือว่าอเมริกันได้เปลี่ยนวิถีชีวิตไปมากแล้ว เพราะปกติแต่เดิม เขาจะใช้รถยนต์คันใหญ่ แบบ Sedan ขนาดเครื่องยนต์ตั้งแต่ 3,000 ซีซี ดังรถยนต์ที่ขายดีที่สุด คือ Toyota Camry หรือ Honda Accord และมีขนาดใหญ่ขึ้นไปจนถึง 4,500 ซีซี ขับไปทำงาน ซึ่งจะกินน้ำมันมากและไม่เหมาะกับยุคที่ราคาน้ำมันมีแต่จะสูงขึ้นทุกวัน

ภาพ Smart Fortwo ขนาดนั่งได้เพียงสองคนจริงๆ แต่ประหยัดน้ำมัน เหมาะสำหรับวิ่งในเมือง เขามีแผนที่จะใช้โครงสร้างรถรุ่นนี้ทำเป็นรถยนต์ไฟฟ้า (Electric car)

ภาพ Honda Jazz หรือ Fit, Hatchback 5 ประตู ในบางประเทศ เป็นรถขนาดเล็กที่นั่งได้สบายทั้งด้านหน้า และหลัง