คนฉลาดจะมีหูยาว แต่ลิ้นสั้น (2)
Keywords: proverbs, German, สุภาษิต,
เยอรมัน, Open-mindedness, การเปิดใจ,
การรับฟัง, ความเป็นผู้นำ, leadership,
การเมืองไทย, Thai politics
มีสุภาษิตเยอรมันบทหนึ่ง
ซึ่งแปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า “The wise person has long ears and a short
tongue.” ~ German proverb
ในภาษาไทยจะแปลได้ตรงตัวว่า “คนฉลาดจะมีหูยาว แต่ลิ้นสั้น” ~ สุภาษิตเยอรมัน
มีความหมายว่า “การจะเป็นคนฉลาดนั้น ต้องเปิดใจ รู้จักฟังคน
แต่ฟังแล้วไม่จำเป็นต้องพูดมาก ต้องยังไม่รับปากกับคนง่ายๆ
เพราะหากการพูดไปแล้วไปรับปาก เราก็ต้องยืนหยัดตามคำพูดนั้นๆ
ซึ่งเราอาจปฏิบัติไม่ได้ เพราะยังอาจมีอีกหลายเรื่องหลายตัวแปรที่เราต้องคำนึงถึง
ในการรับฟังคนนั้น
ก็ไม่ใช่เพียงรับฟังแต่คนเดียวในด้านเดียว อาจมีทัศนะอื่นๆ จากคนอื่นๆ
และมองในอีกหลายแง่มุม ดังนั้น คนทำหน้าที่บริหาร ยิ่งมีความรับผิดชอบมาก
การตัดสินใจสำคัญต้องมีผลกระทบกับผู้คนและองค์การออกไปอย่างกว้างขวาง
จึงต้องยึดหลักฟังให้มาก ฟังแล้วต้องกลับมาใช้ความคิด ตรวจสอบข้อมูล
หาความเป็นจริง แล้วแสวงหาทางเลือกในการแก้ปัญหา
ใช้โอกาสจากข้อมูลข้อเท็จจริงเหล่านั้น
แล้วจึงเลือกปฏิบัติในทางเลือกที่ได้คิดและเตรียมการณ์มาอย่างดีที่สุด
นักบริหารที่ดี ผู้นำที่มีประสบการณ์จึงไม่ด่วนได้ใจเร็ว ต้องให้มีเวลาในการศึกษา
การฟังเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะนำไปสู่การรับปากอะไรง่ายๆ
จนกว่าจะมั่นใจในการตัดสินใจนั้นๆแล้ว
ดังนั้น จึงพึงตระหนักดังสุภาษิตเยอรมันว่า “คนฉลาดจะมีหูยาว แต่ลิ้นสั้น”
ภาพ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์
กรณีตัวอย่างสุภาษิตนี้ได้แก่ พลเอกเปรม
ติณสูลานนท์
บุคลิกส่วนตัวพลเอกเปรม
ติณสูลานนท์ เป็นคนพูดน้อย ในขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย
จะให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนน้อยมาก จนถูกหนังสือพิมพ์ในขณะนั้นเรียกขานว่า เตมีย์ใบ้ และได้รับอีกฉายาหนึ่งว่า นักฆ่าแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยาจากเหตุการณ์กบฏเมษาฮาวายและกบฏ 9 กันยา จุดแข็งของพลเอกเปรมไม่ได้อยู่ที่การพูด
แต่อยู่ที่การฟัง และการเลือกที่ปรึกษาที่มีความสามารถ และเมื่อถึงเวลาอันจำเป็น
และเมื่อได้รับข้อมูล ความคิดเห็น และทางเลือกในการดำเนินการแล้ว ก็จะตัดสินใจในสิ่งที่ยุ่งยากได้เสมอ
แม้จะช้าไปบ้าง
และด้วยความเป็นซื่อสัตย์
เป็นคนฟังคน และกล้าตัดสินใจหลักๆ และทำได้อย่างถูกต้องนำความเจิญก้าวหน้ามาสู่บ้านเมือง
หลังพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2531
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ
ให้พลเอกเปรม เป็นองคมนตรี ในวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2531
จากนั้นในวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2531 ได้รับโปรดเกล้าฯ ยกย่องให้เป็นรัฐบุรุษ และในวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2541 มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ
ให้เป็นประธานองคมนตรี
No comments:
Post a Comment