ไปประชุมกับทีมงาน พัฒนาเมืองอัจฉริยะต้นแบบ (Smart
City Project)
ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob.cooparat@gmail.com
Pracob Cooparat
E-mail: pracob.cooparat@gmail.com
ภาพ การขนส่งด้วยระบบการขนส่งมวลชน (Mass Transit System) ที่คนเมืองจะใช้กันมากขึ้น แต่ต้องวางระบบเชื่อมโยงสู่ระบบการเดินส่วนอื่นๆ
ภาพ การเดินทางอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันในกทม. จะทำให้การจราจรมีแต่คับคั่งยิ่งขึ้น นอกจากต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตผู้คนใหม่
ภาพ รถจักรยานยนต์ในเมืองใหญ่ ดูเหมือนทำให้คนเดินทางได้ แต่ความจริงแล้วมันนำมาซึ่งความไม่ปลอดภัย และเพิ่มการคับคั่งบนท้องถนน
ภาพ ศูนย์การค้าในกรุงเทพฯ ที่ยังเป็นที่นิยมของคนที่เดินทางมาจับจ่าย ทั้งสำหรับคนไทยและคนต่างชาติ
ภาพ ทางเลียบทะเล แม่น้ำ คลอง จะเปลี่ยนเป็นทางสัญจรของผู้คนมากขึ้น เป็นทางเดินเพื่อการสัญจรเพื่อธุระ และเพื่อสันทนาการ
Keywords: พลังงานอัจฉริยะ, Smart energy, การสัญจรอัจฉริยะ, Smart mobility, ชุมชนอัจฉริยะ, Smart community, สิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ, Smart environment, เศรษฐกิจอัจฉริยะ, Smart economy, อาคารอัจฉริยะ, Smart building, การปกครอง/การบริหารอัจฉริยะ, Smart governance, นวกรรมอัจฉริยะ, Smart innovation
มีตัวแทนเขตพญาไทเป็นเจ้าภาพ
มีคนจากหน่วยงานการไฟฟ้านครหลวง การประปานครหลวง ปตท. และหน่วยงานในแนว CSR
– Corporate Social Responsibility และประชาชนจากชุมชนมาร่วมฟัง
ด้วยประชาชนจากชุมชนมาร่วมฟังยังไม่มาก ผมจึงขอเกริ่นเอาไว้เป็นเบื้องต้น
คณะทำงานคนรุ่นหนุ่มสาวเขาเสนอพัฒนาเมืองต้นแบบ
โดยมองที่เขตพญาไท ระหว่างพื้นที่ด้านตะวันออกจรดถนนพหลโยธิน- ตะวันตกจรดพระราม 6
เหนือจากคลองบางซื่อ-คลองสามเสน
ผมเข้าไปร่วมฟังในฐานะคนในพื้นที่
อยากมองเห็นเป้าหมายที่เป็นรูปธรรม ในช่วงเวลา 5, 10, และ 15
ปี อยากมองเห็นในพื้นที่ดังกล่าว
1.
สายไฟ/สายสัญญาณจะลงใต้ดินทั้งหมดในแบบร้อยท่อ
- ถนนต้องปรับปรุงในแบบรถจักรยาน
ยานพาหนะสำหรับคนพิการ/คนชราใช้ร่วมบนท้องถนนในซอยได้ ไม่มีฝาท่อที่จะเป็นปัญหาการสัญจรของรถจักรยาน
และยาน e-mobility สำหรับผู้พิการ
2.
ทางด้านข้าง (Foot
path) เป็นแบบเรียบเป็นผืนเดียวกันกับผิวถนน หรือสูงขึ้นมาไม่เกิน 10
ซม. รถจักรยานขี่ช้า (10 กม./ชั่วโมง) ร่วมใช้ได้
ยานพาหนะสำหรับผู้พิการ (E-mobility) คนสูงอายุและหรือคนพิการ
สามารถเดินทางไปได้ด้วยตนเองภายในชุมชน รถยนต์และยานพาหนะทุกชนิด ที่ใช้วิ่งในซอย
จะต้องวิ่งด้วยความเร็วไม่เกิน 15 กม./ชั่วโมง
แนวขวางถนนต้องไม่มี เพราะจะใช้กฎและกฎหมาย กับการมี Sanction จากชาวบ้านเพื่อความปลอดภัยของเด็กเล็กที่เป็นลูกหลานเขา
3.
ยานพาหนะสาธารณะแบบรถมอเตอร์ไซค์/สามล้อเครื่อง
ซึ่งก่อมลพิษทางอากาศ และสิ้นเปลืองน้ำมัน จะเปลี่ยนเป็นระบบ E-tuk
tuk ค่าใช้จ่ายถูกลงครึ่งหนึ่ง ด้วย Subsidy ค่าไฟฟ้า
ทางคณะผู้ริเริ่มจะจัดหารถ E-tuk tuk
มาทดสอบเป็นโครงการต้นแบบที่ประมาณ 25-30 คัน
พร้อมที่สถานีชาร์ตไฟ
4.
พื้นที่ขนาด 3
ตารางกิโลเมตร (เดาเอานะ) จะเปลี่ยนพื้นที่ตาบอดให้เป็นพื้นที่เปิด ให้มีการสัญจรที่ดีขึ้น
ความจำเป็นใช้รถยนต์ลดลงเหลือไม่เกินร้อยละ 25 มาตรฐานนี้เทียบเหมือนเมืองนิวยอร์ค
ที่ระบบการขนส่งสาธารณะทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คนจึงไม่อยากที่จะต้องมีรถยนต์ส่วนตัว รถ E-tuk tuk, รถจักรยานไฟฟ้า,
จักรยาน, และการเดิน จะเป็นทางเลือกในการสัญจรในชุมชน และกับชุมชนภายนอก
5.
ระบบบ้านเรือนที่จะปรับปรุง
หลักๆจะเป็น Low Rise Buildings ขนาดความสูง 8
ชั้น สูงไม่เกิน 23 เมตร เพื่อยอดตึกที่แบบเป็นแผ่น
อยู่ในระนาบเดียวกัน สามารถผลิตไฟฟ้าจาก Solar Panels ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
โดยไม่มีการบังต่อกัน ค่าคอนโดมิเนียมแบบใหม่จะถูกลง ต้นทุนน้อยลงร้อยละ 30
ด้วยไม่ต้องมีที่จอดรถ
ผมเป็นคนสูงอายุ หากผมเป็นคนระดับทั่วไป
สามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในชีวิตที่มากเกินไป
นั่นแหละ ความเป็นอัจฉริยะ (Intelligence) มารับใช้เรา
และคนแบบผมนี้จะกลายเป็นร้อยละ 30-40 ของประชาชนในเขตนี้
ผมจึงแจงมาเพื่อร่วมรับรู้ข้อมูลและแนวคิดเอาไว้เป็นเบื้องตน