Saturday, March 19, 2011

อานุภาพของกล้องถ่ายรุนแรงกว่าปลายกระบอกปืน


อานุภาพของกล้องถ่ายรุนแรงกว่าปลายกระบอกปืน

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

โม หรือโมฮัมเหม็ด แนบบูส (Mohammed "Mo" Nabbous) เกิดเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1983 เสียชีวิตวันที่ 19 มีนาคม ค.ศ. 2011 เป็นนักจัดการสื่อสารที่เรียกว่า Blogger ชาวลิเบีย เป็นนักหนังสือพิมพ์เอกชน พำนักอยู่ที่เมืองเบงกาซี (Benghazi) ประเทศลิเบีย (Libya) ในช่วงการลุกฮือของประชาชนในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2011 ในประเทศลิเบีย เขาได้ก่อตั้งโทรทัศน์อิสระ ชื่อ Libya Alhurra TV นับเป็นโทรทัศน์เอกชนแห่งแรกที่เกิดขึ้นในเขตปกครองภายใต้การควบคุมของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลกัดดาฟี ที่เรียกว่า National Transitional Council.[1]

โม หรือโมฮัมเหม็ด แนบบูส (Mohammed "Mo" Nabbous)

ผมไม่กลัวตาย แต่กลัวที่จะแพ้ในการต่อสู้ครั้งนี้
"I am not afraid to die, I am afraid to lose the battle." Martyr of the 2011 Libyan Uprising

ชีวิตภูมิหลัง
Background

Live on Libya Alhurra TV in Benghazi on 19 Feb 2011

โมเป็นคนที่ Andy Carvin นักยุทธศาสตร์ด้านสื่อสังคม (NPR social media strategist) ให้ฉายาเขาว่า เป็นหน้าของนักหนังสือพิมพ์ภาคประชาชนแห่งลิเบีย เขาเป็นคนที่สื่อต่างชาติอาศัยรับข้อมูลต่างๆจากภายในลิเบียที่สื่อต่างๆถูกควบคุมโดยภาครัฐบาลภายใต้การนำของกัดดาฟี โมได้จัดตั้งโทรทัศน์ผ่านอินเตอร์เน็ต เป็นการสื่อไปทั่วโลก คือ Libya Alhurra TV, ที่เผยแพร่ไปทั่วโลกผ่าน Livestream.com

เมื่อกัดดาฟีปิดการสื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ตในช่วงการลุกฮือเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2011 โมได้ใช้การเชื่อมต่อการสื่อสารของเขาผ่านดาวเทียมที่ไม่ถูกกฎหมาย เผยแพร่ข่าวสารจากภายในเมือง Benghazi ไปทั่วโลก ถือเป็นเสียงเสรีของชาวลิเบียที่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ Clemens Höges จากสื่อ Der Spiegel กล่าวว่า โมคือคนที่อาจสำคัญที่สุดในการปฏิวัติในลิเบีย หากเขาไม่เสียชีวิตเสียก่อน

โมเสียชีวิตแล้ว โดยเชื่อว่าเขาถูกฝ่ายกองกำลังสวามิภักดิ์ต่อกัดดาฟีในเมืองเบงกาซีในขณะที่รายงานข่าวว่า การแถลงยุติการสู้รบของกัดดาฟี ตามประกาศเขตห้ามบินเหนือลิเบียตามมติสภาความมั่นคงของสหประชาชาติ (United Nations Security Council Resolution 1973) นั้นเป็นการหลอกลวง เพราะหลังจากประกาศ ฝ่ายกัดดาฟียิ่งระดมการถล่มเมืองเบงกาซีอย่างหนัก

โมเสียชีวิตด้วยวัยเพียง 28 ปี

No comments:

Post a Comment