คำอาลัยน้าอ้วน จากหลานหมู หมี และแมว
เมื่อแม่นิ่ม กุณฑล (คุปรัตน์) ศิริอักษร พี่สาวคนโตออกเรือนและมีลูกปีละคนติดๆกันคือ
หมู (สิทธิพร ศิริอักษร) หมี (อุดมศักดิ์
ศิริอักษร) และแมว (กุณฑลา ศิริอักษร) ทั้งสามจึงเป็นหลานรุ่นแรกของบ้านรัตนเวช
และมีอายุห่างจากน้าๆไม่มากมายนัก
ช่วงแรกที่มาอยู่กับคุณตาคุณยายและน้าๆ
ที่บ้านรัตนเวช ซอยนายเลิศ ถนนเพลินจิต น้าอ้วนเป็นหนุ่มนิสิตมหาวิทยาลัยแล้ว
ดังนั้น น้าอ้วนเห็นพวกเราตั้งแต่วัยเด็ก จนโตและล่วงเลยวัยกลางคน
เท่ากับที่พวกเราได้เห็นน้าอ้วนจากวัยหนุ่ม กลางคนและล่วงเข้าสู่บั้นปลายชีวิต
น้าอ้วนทำหน้าที่แทนพ่อแม่
เป็นผู้ปกครองของพวกเราในช่วงเรียนชั้นประถม แม้จนจบมหาวิทยาลัย
น้าอ้วนใจดีและรักหลานๆทุกคน
ช่วงที่คุณตาคุณยายและน้าๆรวมถึงพวกเรายังอาศัยรวมกันที่ร้านรัตนเวช
ถนนเพชรบุรีตัดใหม่
น้าอ้วนมักจะสรรหาสูตรอาหารมาทำให้ทุกคนได้รับประทานกัน
ที่จำได้แม่นคือ ไข่หวาน และไอศกรีมไข่แข็ง ฯลฯ และบ่อยครั้งที่น้าอ้วนออกไปข้างนอกก็จะแวะซื้อก๋วยเตี๋ยวเจ้าอร่อยกลับมา
แม้บางครั้งจะดึกไปนิด หลานๆก็ยังสะลึมสะลือลุกขึ้นมาทานก๋วยเตี๋ยวแห้งใส่ห่อของน้าอ้วน
เมื่อใดที่มีหนังหรือการ์ตูนสำหรับเด็กของดิสนีย์มาฉายที่โรงหนังฮอลลิวู้ด
หรือหนังดังๆอย่างKing Solomon’s mines หรือหนังไทยดังๆอย่างมนต์รักลูกทุ่งที่โคลีเซียม
น้าอ้วนจะบอกล่วงหน้าให้พวกเรานอนกลางวัน เพื่อจะได้ไม่ง่วงตอนดูหนังรอบค่ำ
เมื่อน้าอ้วนแต่งงานกับน้านุช (อรนุช สุรเสียงสังข์) พวกเรามีน้าสะใภ้มาร่วมอาศัยใต้ชายคาเดียวกัน
แต่พอน้าเล็ก น้าแดงแต่งงาน น้าเล็ก น้าแดงก็ย้ายออกไป
พวกเราจึงมีช่วงเวลากับน้าอ้วนมากกว่าน้าคนอื่นๆ
น้าอ้วนทำงานประจำที่ร้านรัตนเวชเต็มเวลา ทั้งซื้อ
ขายและผลิตยาของร้านรัตนเวชภายใต้ตราพระอภัยมณีขี่ปลา
ขณะเดียวกันก็ยังเป็นลูกที่ดีของคุณตาคุณยายไม่ขาดตกบกพร่อง
เมื่อคุณยายเป็นโรคหัวใจ
น้าอ้วนก็อุ้มคุณยายขึ้นชั้น 3 ทุกคืน
ถึงจะมีภาระหน้าที่มากมายแต่น้าอ้วนก็ดูแลพวกเราอย่างใกล้ชิด
คอยตรวจดูและดมแขนเสื้อหลานหมีทุกวันจนนิสัยชอบใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำลายหายไปได้
เวลารับหลานแมวซึ่งเป็นนักเรียนประจำตอนเย็นวันศุกร์ที่รร.เซ็นต์โยเซฟคอนเวนต์ที่สีลม
ก็จะพาหลานๆแวะสวนลุมพินี ออกอุบายให้วิ่งแข่งกัน เพราะน้าอ้วนเห็นว่าพวกเราควรออกกำลังกายกันบ้าง
แม้วันหยุดที่น้าอ้วนควรจะได้ใช้เวลาเช่นหนุ่มโสดทั่วไป
ก็กลับพาหลานๆทั้งสามไปขึ้นภูเขาทอง โดยมีอุบายให้นับจำนวนขั้นบันไดไปด้วย
เมื่อนึกย้อนกลับไป ถ้าไม่ใช่เพราะน้าอ้วน พวกเราก็คงไม่มีโอกาสได้ขึ้นภูเขาทองในชั่วชีวิตนี้เป็นแน่เทียว
น้าอ้วนเป็นตัวอย่างในหลายๆเรื่องของความดีงามและถูกต้อง
ความซื่อสัตย์สุจริต น้าอ้วนไม่ได้พร่ำสอน แต่เป็นผู้แสดงออกในโลกจริงๆ
ในคราวหนึ่งที่น้านุชซึ่งทำงานอยู่ที่สภาพัฒน์ฯได้ให้ดินสอหลานยืมและ
เอ่ยปากว่าไม่ต้องคืนเพราะที่ทำงานยังมีดินสออีกหลายแท่ง แต่น้าอ้วนชี้ให้พวกเราเห็นว่า
ดินสอแท่งนั้นเป็นสมบัติของหลวง หากเอามาเป็นของส่วนตน แม้เพียงแท่งเดียว
ก็เป็นการเบียดบัง คอรัปชั่นแล้ว
น้าอ้วนไม่เคยฟุ่มเฟือย ไม่ยอมเที่ยวต่างประเทศ แต่ก็ไม่เคยตำหนิใครที่ใช้ชีวิตแตกต่าง
น้าอ้วนมีความจำเหตุการณ์สถานที่
เรื่องราวต่างๆในอดีตได้เป็นเลิศ และสามารถเล่าได้อย่างละเอียด
สนุกสนาน พวกเราตั้งใจฟังและได้ข้อมูล
ความรู้มากมายหลายแง่มุม
บางอย่างเชื่อว่าแม้ google ก็ยังไม่เจอ น้าอ้วนจะสามารถไล่เรียง จดจำลำดับญาติได้แม่นยำถูกต้อง สามารถโยงใยญาติเรียงขึ้นไปได้หลายสาย
น่าเสียดายที่พวกเราไม่ได้สนใจจดจำและบันทึกไว้
ที่ร้านรัตนเวชนั้น
มีคนอาศัยอยู่มากในบางช่วงอาจสูงถึง 13-14 คน แต่มีผู้หญิงแค่คุณยาย
น้านุชและหลานแมว นอกนั้นจะเป็นผู้ชายทั้งสิ้น แต่พวกเราก็ไม่เคยได้ยินสรรพนามคำไม่สุภาพ
หรือคำด่าทอหยาบคายแต่อย่างใด นั่นคงเป็นสิ่งที่ทุกคนได้รับการบ่มเพาะมา และน้าอ้วนก็เป็นพี่ใหญ่ที่แสดงตัวอย่างให้น้องๆเห็น
เรื่องราวความผูกพันน้าอ้วนกับพวกเรายังมีอีกมากมายสุดจะกล่าวได้ครบถ้วน
ทุกเรื่องจะยังคงไว้ในความทรงจำตลอดไปแม้ว่าน้าอ้วนจะไม่อยู่แล้ว แต่น้าอ้วนก็ยังคงเป็นน้าคนโตที่พวกเรารักและเคารพ
เป็นพ่อพระของพวกเราเสมอไม่เปลี่ยนแปลง
จากหลานๆ
กุณฑลา ศิริอักษร (แมว) ในนาม
หลานหมู หมี และแมว
15 กรกฎาคม พ.ศ. 2559
หลานหมู หมี และแมว
15 กรกฎาคม พ.ศ. 2559
No comments:
Post a Comment