"ประพันธ์" เชื่อ 24 พ.ย.จุดเปลี่ยนประเทศ แนะ "มาร์ค"
ประกาศจุดยืนเคลียร์ข้อหาตีกิน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
18 พฤศจิกายน 2556 23:41 น.
Keywords: Keywords: การเมือง, politics, การปกครอง, governance, กฎหมายนิรโทษกรรม, Amnesty
bill, ทักษิณ ชินวัตร, Thaksin Shinawatra, ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร,
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, ประชาธิปัตย์, พรรคเพื่อไทย, คอรัปชั่น, Corruption,
ปฏิรูปประเทศไทย,
-------------------------------------------------------
Facebook: https://www.facebook.com/prapanth.koonmee
Facebook: https://www.facebook.com/prapanth.koonmee
ภาพ ประพันธ์ คูณมี
ประพันธ์ คูณมี เกิดเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2497 ที่จังหวัดอุบลราชธานี
มีชื่อเล่นที่เรียกกันในหมู่เพื่อน ๆ ว่า "ผอม" เมื่อเหตุการณ์ 14 ตุลา เป็นหนึ่งในนักศึกษาที่เข้าร่วมในเหตุการณ์
โดยทำงานร่วมกับสหพันธ์นักศึกษาเสรี และหลังเหตุการณ์ 6 ตุลา
ได้หลบหนีเข้าป่า ร่วมงานกับ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.)
มีชื่อจัดตั้งว่า "สหายสงคราม" มีเขตงานเป็นของตนเองโดยไม่เกี่ยวข้องกับพรรคคอมมิวนิสต์ฯ
ในนาม "เขตงาน 196 ภูเขียว, ชัยภูมิ"
เมื่อออกจากป่า ประพันธ์ได้กลับมาเรียนต่อจนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี
จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และระดับ ปริญญาโท สาขาบริหารธุรกิจ จาก
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และจบเนติบัณฑิตไทย รุ่นที่ 37
โดยเป็นลูกศิษย์ของ นายพิศิษฏ์ เทศะบำรุง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา
และได้ร่วมกันก่อตั้งสำนักทนายความขึ้นในชื่อ "สำนักงานพิศิษฏ์ ประพันธ์
และเพื่อน"
ประพันธ์
คูณมีเป็นนักการเมืองที่มีคุณภาพอีกคนหนึ่ง ที่มีความรู้ความสามารถ
และมีความกล้าในการนำเสนอ ทำให้คนทั่วไปได้เข้าใจประเด็นการเมืองที่เกี่ยวกับกฎหมายได้อย่างง่ายๆ
-----------------------------------------------------------
ประพันธุ์ คูณมี:
ประพันธุ์ คูณมี:
คำพิพากษาคดีที่ทักษิณและตระกูลชินวัตรก่อโทษกรรมกระทำความผิดอันชั่วร้ายและอุกฉกรรจ์
ต่อประเทศและประชาชนไทย ระหว่างปี พ.ศ 2544-2556
เป็นระยะเวลาประมาณ 12 ปี
นับแต่ทักษิณ
ชินวัตรและโคตรเหง้าตระกูลชินวัตรกับเครือญาติของเขาได้ขึ้นครองอำนาจปกครองประเทศไทยต่อเนื่องกันมาถึงปัจจุบัน
ได้ปรากฏข้อเท็จจริงที่รับฟังได้เป็นที่ยุติโดยปราศจากข้อสงสัยว่า
ทักษิณและตระกูลชินวัตรกับเครือญาติของเขา
ได้บังอาจร่วมกันกระทำการโดยก่อโทษกรรมและกระทำความผิดที่ชั่วช้าสามานย์อันอุกฉกรรจ์
ต่อประเทศชาติและประชาชนไทย จนเกินกว่าที่จะให้อภัยได้
ดังปรากฏความผิดและการกระทำโดยสรุปดังต่อไปนี้
1. ทักษิณกับพวกและสมุนบริวาร
มีเจตนาชั่วมาแต่ต้น โดยร่วมกันจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาพรรคหนึ่ง
เพื่อเป็นเครื่องมือและตัวแทนของตนเองในฐานะนายทุนผูกขาดหรือกลุ่มทุนสามานย์
โดยรวบรวมนักการเมืองชั่ว คนโกง ผู้มีอิทธิพล และข้าราชการเลว นักวิชาการขายตัว
สื่อมวลชนที่ทรยศต่อวิชาชีพเพื่อเข้ายึดกุมอำนาจรัฐ โดยอาศัยช่องโหว่ของรัฐธรรมนูญ
2540 ประกอบกับความล้มเหลวและไร้ประสิทธิภาพ
ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต) ที่เป็นเพียงเสือกระดาษหรือที่ระบายน้ำเสียจากวงการตุลาการ ทำให้การเลือกตั้งเป็นเพียงพิธีกรรม
ชุบตัวคนชั่วที่มีอำนาจเงินซื้อเสียงก็ชนะเข้าสู่อำนาจรัฐได้
และเมื่อทักษิณติดกับดักรัฐธรรมนูญ ต้องคดีซุกหุ้นภาค 1 เขาก็ติดสินบนศาลรัฐธรรมนูญ ให้หักดิบกฎหมายช่วยทักษิณให้รอดพ้นคดีซุกหุ้น ทั้งๆที่กระทำผิดกฎหมายไม่มีคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้
เขากระทำการวิ่งเต้นคดีหลบเลี่ยงกฎหมาย
โดยความช่วยเหลือจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ทรยศบางคน เมื่อใช้กลโกงชนะเลือกตั้ง
รอดพ้นคดีซุกหุ้นได้จัดตั้งรัฐบาลแล้ว
ทักษิณก็กระชับรวบอำนาจโดยซื้อพรรคการเมืองอื่นๆ อาทิ พรรคเสรีธรรม
และพรรคความหวังใหม่เข้าควบรวมพรรคกับพรรคการเมืองของเขา จนกลาย
เป็นเผด็จการเสียงข้างมาก
ทำลายการตรวจสอบใดๆของสภาฯโดยสิ้นเชิงตลอดระยะเวลาที่เขาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ทักษิณจึงเป็นนายทุนผูกขาดตัวแทนทุนนิยมสามานย์คนแรกที่เข้ามาเล่นการเมืองและได้กุมอำนาจเป็นนายกรัฐมนตรี
โดยอยู่เหนืออำนาจการตรวจสอบใดๆ
2. เมื่อยึดอำนาจรัฐและกุมอำนาจการปกครองประเทศได้แล้ว
ทักษิณกับพวกก็ได้สถาปนาอำนาจการเมืองที่เรียกว่า"ระบอบทักษิณ"
ขึ้นในประเทศไทยด้วยการกระชับอำนาจของตนให้เข้มแข็ง
โดยรวบอำนาจแบบเบ็ดเสร็จไว้ในมือคนเดียว
ทุกคนต้องอยู่ใต้อำนาจการสั่งการของเขาเพียงผู้เดียว
ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
ถูกเปลี่ยนแปลงเป็นระบอบประชาธิปไตยที่มีทักษิณเป็นประมุข
ที่ใครจะแตะต้องวิพากษ์วิจารณ์ล่วงละเมิดมิได้ หากใครกระทำก็จะมี สส
ขี้ข้าทั้งหลายออกมาปกป้องตอบโต้แว้งกัดเสมอ ระบอบประชาธิปไตยของไทย
จึงกลายเป็นระบอบทักษิณ ของทักษิณ โดยทักษิณและเพื่อทักษิณ
กับตระกูลชินวัตรเท่านั้น ทักษิณเป็นคนเดียวที่มีอำนาจใช้อำนาจอธิปไตยของประชาชน ดุจดังประมุขสูงสุดของประเทศ
3. "ระบอบทักษิณ"
ได้ใช้เงินและอำนาจเป็นเครื่องมือแห่งอำนาจ ใช้สื่อและนักวิชาการเป็นสมุน ใช้
สส.สว.เป็นขี้ข้า
ใช้ข้าราชการและกลไกรัฐกับมวลชนและกองกำลังอันธพาลเล่นงานฝ่ายคัดค้านที่ไม่เห็นด้วยหรือไม่ยอมรับใช้เขา"ระบอบทักษิณ"
จึงเป็นระบอบการเมืองแห่งความชั่วร้ายที่เข้าครอบงำรัฐสภา แทรกแซงศาล องค์กรอิสระต่างๆ
เพื่อทำให้ไร้ประสิทธิภาพ
ไม่สามารถควบคุมตรวจสอบการกระทำความผิดและความชั่วร้ายที่เขาได้ก่อกรรมทำเข็ญไว้กับชาติบ้านเมืองและ
พฤติกรรมทุจริตคดโกงของพวกเขาได้ ทักษิณกับพวกจึงเหิมเกริมในอำนาจ
ฉ้อฉลและปล้นประเทศตามอำเภอใจ ตลอดระยะเวลาที่เขาอยู่ในอำนาจ ต่อเนื่องมาถึงรัฐบาลปัจจุบันที่อยู่ภายใต้การบงการชักใยของเขา
4. ทักษิณกับพวก
สมคบกันหลอกลวงและมอมเมาประชาชน
ด้วยสารพัดนโยบายประชานิยมที่อ้างประโยชน์ประชาชนบังหน้าแต่ฉากหลังก็เพื่อโกงและปล้นเงินภาษี
ก่อหนี้ให้ประเทศและประชาชนแบกรับชั่วลูกหลาน ไม่ว่าโครงการหวยบนดิน กองทุนหมู่บ้าน
รถยนต์คันแรก การจำนำข้าว เงินกู้ 3.5แสนล้าน และ 2.2ล้านล้านบาท ฯลฯ ล้วนแต่เป็นหลักฐานแห่งความชั่วร้ายและการฉ้อฉล
ที่ชัดแจ้งปราศจากข้อสงสัย ก่อความเสียหายแก่ประเทศชาติ
ที่กำลังนำไปสู่การล่มสลายทางเศรษฐกิจของชาติ
ทั้งเป็นการใช้เงินภาษีประชาชนเพื่อการซื้อเสียง
รักษาอำนาจชั่วของตนโดยไม่ละอายอีกด้วย
5. "ระบอบทักษิณ"
ทำทุกวิธีที่ผิดกฏหมาย ใช้อำนาจรัฐและอันธพาล ซื้อ กกต จ้างพรรคเล็กลงเลือกตั้ง
ปลอมเอกสารตัดต่อข้อมูล โกงเลือกตั้งใช้เงินซื้อเสียง
ทำทุกรูปแบบเพื่อให้ชนะการเลือกตั้งเพื่อเข้าสู่อำนาจรัฐ ดังปรากฏข้อเท็จจริงที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำพิพากษาเพิกถอนการเลือกตั้งให้เป็นโมฆะ
และให้ยุบพรรคการเมืองของเขาถึงสองครั้งคือพรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชน
เป็นหลักฐานชี้ชัดให้เห็นว่า
พวกเขาใช้การเลือกตั้งเป็นเพียงพิธีกรรมตบตาประชาชนว่าตนเป็นประชาธิปไตย
แท้จริง"ระบอบทักษิณ"
ก็คือระบอบประชาธิปไตยจอมปลอมหรือระบอบประชาธิปไตยเสื้อคลุมระบอบเผด็จการของนายทุนสามานย์เจ้าของพรรคการเมือง
ที่ประชาชนมีเพียงหน้าที่ไปหย่อนบัตรเลือกตั้งเท่านั้น หาได้มีสิทธิในระบอบประชาธิปไตยโดยแท้จริงแต่อย่างใดไม่
6. ความผิดอุกฉกรรจ์ที่ร้ายแรงที่สุดที่ทักษิณและพวกสมุนบริวารกับเครือญาติของเขา
ที่ได้ก่อกรรมกับประเทศชาติและประชาชนคือ การทุจริต โกงชาติ ปล้นแผ่นดิน
เขาไม่ได้ทุจริตโกงกินโดยลำพังเพียงผู้เดียว
แต่เขาได้ขนโคตรตระกูลและเครือญาติของเขาทั้ง ชินวัตร ดามาพงศ์ และ วงศ์สวัสดิ์
เข้ามาเสวยสุขและปล้นสะดมภ์ โกงกินประเทศ ทุจริต
และแสวงหาประโยชน์อันมิชอบ สร้างความร่ำรวยจนผิดปกติ
สร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติจำนวนมหาศาลนับล้านล้านบาท
ข้อเท็จจริงปรากฏตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดียึดทรัพย์4.6หมื่นล้านบาท และคดีที่ดินรัชดา
ซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ถูกดำเนินคดีและติดตามได้
ซึ่งยังมีเงินและทรัพย์สินที่ประเทศไทยถูกโกงไปอีกหลายแสนล้าน ที่ยังติดตามไม่ได้
และมีอีกหลายคดีที่ยังค้างการพิจารณาอยู่ที่ศาลกับ ปปช
แม้จะถูกจับได้ไล่ทันจนมีคำพิพากษาลงโทษแล้ว พวกเขาก็หาได้หลาบจำหรือเกรงกลัวต่อการกระทำความผิด
หาได้สำนึกในการกระทำชั่วต่ออาญาแผ่นดินแต่อย่างใด รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ทักษิณ
และตระกูลชินวัตรกับเครือญาติของเขา ยังบริหารประเทศโดยการทุจริต โกงชาติ
ปล้นแผ่นดินต่อไป โดยทุกๆโครงการที่มีผลประโยชน์ คนในตระกูลชินวัตรกับเครือญาติ
จะเดินเก็บเงินและเรียกเอาผลประโยชน์ไม่ต่ำกว่า40%ขึ้นไปในทุกๆโครงการ
จนประเทศชาติกำลังจมดิ่งสู่ความล่มสลาย
ทักษิณและรัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่เพียงแต่ไม่ป้องกันและหยุดการโกงกิน คอรัปชั่น
พวกเขากลับส่งเสริมให้นักการเมืองขี้ข้าและข้าราชการ แข่งขันกันสร้างผลงานโกงชาติ
ออกกฎหมายมาล้างผิดคนโกง และทำลายกลไกการตรวจสอบทุกองค์กร
อันเป็นการกระทำความผิดและสร้างความชั่วร้ายที่สุด
ที่ไม่เคยมีผู้นำประเทศคนใดกล้ากระทำต่อแผ่นดินและประเทศของตน
พฤติกรรมดังกล่าวจึงมีลักษณะอันสมควรที่ถูกประชาชนประนามว่า"พวกโคตรโกงและโกงกันทั้งโคตร"
เป็นการกระทำความผิดที่ต้องถูกลงโทษอย่างสาสม
7. ทักษิณและสมุน รวมถึงรัฐบาลยิ่งลักษณ์
ได้บริหารประเทศโดยลุแก่อำนาจ ไม่ฟังเสียงประชาชนเจ้าของประเทศ
พวกเขาละเมิดหลักการในระบอบประชาธิปไตย ด้วยการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของประชาชน
ปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นหรือการใช้สิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญใช้อำนาจคุกคามปิดปากสื่อที่เป็นอิสระไม่ยอมสวามิภักดิ์รับใช้อำนาจชั่วของเขา
ขณะเดียวกันก็ใช้เงินซื้อสื่อที่ทรยศขายวิญญาณไว้คอยรับใช้เชลียร์
จ้างนักวิชาการขายตัวไว้มอมเมาประชาชนและบิดเบือนความจริง
ที่ชั่วช้่าสามานย์ที่สุดก็คือ การกระทำที่พวกเขาได้สมคบคิดกันก่อสงครามสังหารเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ไม่น้อยกว่า 2,500 ศพ ภายใต้ข้ออ้างว่าเพื่อปราบปรามยาเสพติด
ตั้งศาลเตี้ยสังหารประชาชนโดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรมสังหารปราบปรามประชาชนในกรณีกรือเซะ
ตากใบเสียชีวิตหลายร้อยคน จนนำไปสู่สงครามแบ่งแยกดินแดนภาคใต้
ทำลายความสงบสุขและชีวิตเพื่อนร่วมชาติ ตำรวจ ทหาร ร่วมหลายหมื่นชีวิต
จนแผ่นดินไทยไร้ความสงบสุข
ล้วนแต่เกิดจากการบริหารประเทศที่ผิดพลาดล้มเหลวของรัฐบาลทักษิณ-ยิ่งลักษณ์
ทั้งสิ้น
8. นอกจากคุกคามทำร้ายสุจริตชน จำกัดสิทธิเสรีภาพประชาชนแล้ว อีกด้านหนึ่งทักษิณยังมีความโหดร้ายอำมหิตต่อประชาชนและประเทศชาติ
อย่างผิดมนุษย์ โดยเขาได้ใช้เงินที่โกงและทุจริตไปจากประชาชนและประเทศชาติ
มาทำร้ายประชาชนและชาติไทย อย่างชั่วช้าเลวทราม โดยเขาได้จ้างพวกแกนนำเสื้อแดง
อดีตนักกิจกรรมเดือนตุลาฯ จัดตั้งกองกำลังติดอาวุธ ปลุกระดมยุยงและจัดตั้งมวลชนที่ขาดความรู้และความเข้าใจต่อธาตุแท้ความทุจริตคดโกงของเขา
ให้เป็นเครื่องมือก่อเหตุจลาจล ก่อสงครามกลางเมือง ล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน
เผาประเทศไทย เผาทำลายทรัพย์สินของทางราชการและเอกชน คุกคามสิทธิเสรีภาพประชาชน
ยิงอาวุธร้ายแรงใส่วัดพระแก้วและระเบิดสถานที่สำคัญ ฆ่าทหารและเจ้าพนักงาน
จนประเทศตกอยู่ในมิคคสัญญี ก่อกรรมทำเข็ญกับประเทศชาติ สร้างรอยแผลและความแตกแยกในสังคมคร้ังใหญ่
เขายุยงให้ประชาชนเป็นศัตรูและเข่นฆ่ากัน หลอกประชาชนมาเจ็บและตาย
เพื่อผลประโยชน์และอำนาจของตนอย่างไร้ความเมตตา โดยไม่มีคุณธรรมและศีลธรรมที่คนไทยพึงมีต่อกัน
9. เมื่อหลอกคนเสื้อแดงให้ก่อจลาจลจนเกิดบาดเจ็บ
ล้มตายเสียชีวิตเพราะการบ่งการของตน ทักษิณไม่เคยแสดงความรับผิดชอบใดๆ
ตระกูลชินวัตรไม่รับผิดชอบเหลียวแลมวลชนเหล่านั้นแต่อย่างใด
ครั้นประชาชนเหล่านั้นแสดงความไม่พอใจ พวกเขาก็มาปล้นเอาเงินภาษีประชาชน
ไปจ่ายให้แก่มวลชนเหล่านั้น ทั้งๆที่คนเหล่านั้นกระทำผิดกฎหมายอาญาร้ายแรงต่อแผ่นดิน
ทักษิณและรัฐบาลยิ่งลักษณ์ กลับอ้างแบบหน้าด้านๆว่าต้องเยียวยาคนเหล่านั้น
ทั้งๆที่เป็นความรับผิดชอบของพวกเขา เป็นความผิดที่ทักษิณกับพวกและสมุนบริวารก่อขึ้น
และเป็นผู้รับประโยชน์
ไม่เพียงเท่านั้นพวกเขายังพยายามที่จะออกกฎหมายล้างผิดให้คนเผา คนปล้น คนฆ่า
และก่อการร้าย สร้างความจลาจลกับบ้านเมือง รวมถึงตัวเขาและพวกที่เป็นผู้วางแผนบงการอีกด้วย
อันเป็นการทำลายหลักนิติธรรม ระบบนิติรัฐ และกระบวนยุติธรรมของประเทศจนสิ้น
ทำให้ประเทศไทยตกอยู่ในสภาพไร้ขื่อแปอย่างเลวร้ายและอัปยศที่สุด
10. "ระบอบทักษิณ"
นอกจากไม่เป็นประชาธิปไตย ทำลายสังคม ทำร้ายประชาชน และทุจริตโกงชาติ
ปล้นแผ่นดินแล้ว ยังมีพฤติกรรมและการกระทำอันแสดงให้เห็นว่าพวกเขา
"ขายชาติ" อีกด้วย ทักษิณกับพวกไม่เคยส่งเสริมให้ประชาชนรักชาติ
มีแต่ทำลายความเป็นชาติไทย เปิดประเทศหาประโยชน์กับกลุ่มทุนข้ามชาติ
ทักษิณทำตนเป็นนายหน้าและหาประโยชน์ไปทั่วโลก
โดยมีรัฐบาลยิ่งลักษณ์เป็นเครื่องมือออกหน้าเปิดทางให้เขาหาประโยชน์กับทุกประเทศ
การกระทำที่เป็นหลักฐานการทรยศประชาชนและขายชาติที่แจ้งชัดที่สุดคือ
กรณีพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชา เรื่องปราสาทพระวิหาร และเรื่องเขตแดนทั้งทางบก
ทางทะเล ซึ่งมีแหล่งพลังงานน้ำมันและแก๊สจำนวนมหาศาล
ที่ตระกูลชินวัตรกำลังสมยอมกับฮุนเซน ปล้นเอาดินแดนไทยไปหาประโยชน์ร่วมกัน
คำพิพากษาศาลโลกเมื่อวันที่11 พ.ย 2556 คือหลักฐานและใบเสร็จที่สำคัญยิ่ง
หากประเทศไทยยอมปฏิบัติตามคำพิพากษาดังกล่าว ย่อมทำให้ไทยเสียดินแดนอย่างแน่นอน
การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ม.190 ก็เพื่อเปิดทางและใช้เป็นเครื่องมือเจรจาขายชาติขายแผ่นดิน
ที่ทักษิณกับสภาทาสขี้ข้าของเขาได้สมคบคิดกันวางแผนไว้ นี่คือความผิดอุกฉกรรจ์ที่ทักษิณต้องรับผิดชอบร่วมกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์
อย่างไม่อาจปฏิเสธความรับผิดได้
11. ความผิดและความเลวร้ายอีกประการหนึ่งที่ระบอบทักษิณได้กระทำกับประเทศชาติคือ
การทำลายความสงบสุขของสังคม ทำลายวัฒนธรรมที่ดีงามของชาติ
ทำลายความเชื่อความศรัทธาต่อหลักพุทธศาสนา ที่ชาวไทยเคารพยึดถือมาต่อเนื่องยาวนาน
พวกเขาได้สร้างวัฒนธรรมแห่งความชั่วร้ายขึ้นมาในสังคมไทย ด้วยการทำชั่วให้ได้ดี
ส่งเสริมคนเลวให้มีอำนาจปกครองบ้านเมือง สนับสนุนคนโกง ข้าราชการชั่วให้มีอำนาจ
ชุบเลี้ยงอันธพาลการเมืองไว้เป็นเครื่องมือคุกคามสุจริตชนและผู้รักชาติ
รักประชาธิปไตย แม้กระทั่งตุลาการผู้กระทำการในพระปรมาภิไธย ก็มิได้ยกเว้น
ในทางศาสนาพวกเขาก็สนับสนุนลัทธิศาสนานอกรีต
ไม่ยึดมั่นในหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
ตระกูลชินวัตรกระทำตนเป็นผู้นำและตัวอย่างแห่งความเลวที่สุดในทุกๆด้าน ทำให้สังคมสับสนระหว่างถูกผิด
ความดีความชั่ว ความซื่อสัตย์สุจริตกับการทุจริตคดโกง
พวกเขาสร้างแต่ค่านิยมแห่งความชั่วร้ายแก่สังคมและชนรุ่นหลัง ทำลายความเป็นไทย
ชาติไทยไปหมดสิ้น จนประเทศไทย
ความเป็นไทยถูกล้อเลียนในสังคมโลกโดยคำว่า"ไทย"เท่ากับโกหกตอแหลและคดโกง
เป็นที่เสื่อมเสียและอับอายไปทั่วโลก
12. ความผิดและความชั่วร้าย
ที่ประเทศและประชาชนไทยทั้งชาติ ไม่อาจยอมรับหรือให้อภัยต่อทักษิณและสมุนได้
ทั้งเป็นการบังอาจกระทำความผิดที่สมควรประหารชีวิตพวกมันทั้งโคตรก็คือ
การกระทำความผิดอันเป็นการจงใจที่มีเจตนาร้ายในการอาฆาตมาดร้าย
และหมิ่นพระบรมเดชานุภาพต่อองค์พระมหากษัตริย์ สมเด็จพระบรมราชินีนาถและรัชทายาท
ทักษิณส่งเสริมและสนับสนุนทั้งทางตรงและทางออ้ม
ต่อขบวนการโจมตีและล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ดังปรากฎข้อเท็จจริงจากหนังสือขบวนการล้มเจ้าและหลักฐานการพูด การสัมภาษณ์
และการกระทำของทักษิณกับสมุนบริวารในสื่อต่างๆทั้งในและต่างประเทศ
และที่ปรากฏต่อสังคมอย่างชัดแจ้ง โดยพวกเขาต้องการสถาปนาอำนาจรัฐไทยใหม่
ต้องการให้ทักษิณเป็นประธานาธิบดี ทำให้สถาบันกษัตริย์เป็นเพียงสัญญลักษณ์
หมดความหมายและความสำคัญ ข้อเท็จจริงนี้เป็นที่ปรากฎและรับรู้กันโดยทั่วไป
จนแม้แต่สื่อต่างชาติยังเรียกประเทศไทยว่า"สาธารณรัฐทักษิณ"
เป็นประเทศที่ทักษิณมีอำนาจสูงสุดแต่เพียงผู้เดียว นางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรีก็เป็นเพียงหุ่นเชิดของทักษิณผู้เป็นพี่ชาย และผู้ทรงอำนาจสูงสุดคอยชักใยอยู่เบื้องหลังนั่นเอง
นอกจากโจมตีทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์
หรือกระทำทุกวิถีทางให้สถาบันอ่อนแอจนหมดความสำคัญแล้ว ศาลและกระบวนยุติธรรมทั้งหลายที่กระทำการในพระปรมาภิไทย
ทักษิณและสมุนของเขาก็ถือเป็นเป้าหมายในการทำลาย เพื่อให้ศาลเป็นเครื่องมือรับใช้
"ระบอบทักษิณ" รวมถึงกองทัพไทยซึ่งเป็นหลักค้ำจุนสถาบัน
พวกเขาก็เข้าซื้อและแทรกแซง กระทำทุกวิธีการเพื่ิอให้กองทัพแตกแยกและอ่อนแอ
หรือซื้อตัวผู้นำกองทัพให้เป็นพวกและสวามิภักดิ์ต่อพวกเขา
โดยเสนอแบ่งผลประโยชน์จำนวนมหาศาลจากการทุจริตคดโกงแก่นายทหารบางคน
ให้ยินยอมรับใช้เป็นสมุนและทรยศต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ชุบเลี้ยงมา
นี่คือความเลวที่ทักษิณกับพวกสมควรตาย
คืออาชญากรรมที่พวกเขาก่อไว้กับชาติบ้านเมือง อย่างมิอาจหาความเลวใดเทียบเท่าได้
13. ความเลวและความชั่วอันเป็นที่สุดของระบอบทักษิณคือ
การเป็นผู้กำหนดกฎและกติกาสูงสุดในการปกครองประเทศ
ที่เอื้ิอประโยชน์และเป็นผลดีกับพวกเขา
ในการสถาปนาระบอบอำนาจทางการเมืองและการรักษาอำนาจของพวกเขาไว้ให้ยาวนานที่สุด
ซึ่งทักษิณเคยประกาศว่าจะอยู่ในอำนาจทางการเมืองไม่น้อยกว่า20ปี ขณะนี้ก็ก้าวล่วงมาแล้วถึง12ปี
หากทุกอย่างไม่เปลี่ยนแปลง และไม่มีการลุกขึ้นสู้ของมวลมหาประชาชน
เพื่อขุดรากถอนโคนระบอบการเมืองแห่งความชั่วร้ายและสามานย์นี้แล้ว
"ระบอบทักษิณ"
ก็จะพัฒนาและยกระดับความชั่วร้ายก้าวไปสู่"ระบอบชินวัตร"
อันเป็นระบอบการเมืองแบบโคตรตระกูลที่มีการสืบทอดอำนาจในวงศ์ศาคณาญาติโดยไม่มีสิ้นสุดจนกว่าจะสิ้นโคตรตระกูล พวกเขาจึงมุ่งมั่นและกระเหี้ยนกระหือรือ ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับ พ.ศ.2550
นี้โดยทั้งฉบับ เมื่อถูกคัดค้านขัดขวางก็หาทางแก้ไขรายมาตรา
โดยเฉพาะมาตราสำคัญๆก่อน
จนกว่าจะครบทั้งฉบับโดยมิได้นำพาต่อเสียงท้วงติงคัดค้านของมหาชน
พวกเขาอ้างเสียงข้างมากของ สส.สว. ในสภาขี้ข้าของเขา กระทำการย่ำยีข่มขืน
ลักหลับประชาชน ตรากฎหมายอย่างไรก็ได้ตามอำเภอใจ เช่นเดียวกับกฎหมายนิรโทษโกง
ฉบับเหมาเข่งสุดซอยที่ถูกประชาชนทั้งหลายคัดค้านทั้งแผ่นดินในขณะนี้
พฤติกรรมและการกระทำอันเป็นความผิดต่อแผ่นดินที่ร้ายแรง
กับโทษกรรมทั้งหลายที่ทักษิณ ชินวัตรกับสมุนพร้อมเครือญาติของพวกเขาที่ได้ก่อกรรมทำเวรไว้กับประเทศชาติและประชาชน
ดังที่ไิด้พิเคราะห์และพิจารณามาดังกล่าวแลัวข้างต้น
ศาลประชาชนสูงสุดจึงมีความเห็นว่า ทักษิณ ชินวัตร และนางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
กับสมุนบริวาร กับบุคคลทั้งหลายในตระกูลชินวัตร ดามาพงศ์ วงศ์สวัสดิ์
ได้ร่วมกันกระทำความผิดต่อประเทศชาติและประชาชน
อันเป็นความผิดฐานกระทำการเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ ร่วมกันกระทำการทุจริต
ปล้นชาติ โกงแผ่นดิน หลีกเลี่ยงภาษี ร่ำรวยโดยผิดปกติ ทรยศต่อประเทศชาติและประชาชน
ขายชาติขายแผ่นดิน สร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน
สนับสนุนและใช้ให้ผู้อื่นหรือโดยร่วมกันกับผู้อื่นก่อการร้าย ก่อจลาจล
วางเพลิงเผาทำลายทรัพย์สินของทางราชการและเอกชน ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง
ทำลายความสงบสุขในสังคม ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์และ
ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
กระทำการอันเป็นกบถโดยสมคบกับต่างชาติ กระทำให้ประเทศสูญเสียดินแดนและเขตอธิปไตย
ข้ออ้างและข้อต่อสู้ของทักษิณกับพวกที่อ้างว่า ตนเองมาจากการเลือกตั้ง
เป็นตัวแทนประชาชนในระบอบประชาธิปไตย จึงไม่อาจรับฟังได้
เพราะระบอบประชาธิปไตยไม่ได้อนุญาตให้ใช้เสียงข้างมากเพื่อการกระทำความผิดดังกล่าว
หากแต่ต้องใช้อำนาจที่ได้รับมอบจากประชาชนเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน
ส่วนที่จำเลยแผ่นดินทั้งหลายอ้างว่าตนถูกกลั่นแกล้งใส่ร้าย
ก็หาเป็นความจริงแต่อย่างใดไม่
เพราะคงไม่มีใครหรือองค์กรใดบังคับขู่เข็ญกลั่นแกล้งใส่ร้ายให้จำเลยกับพวกโกงแผ่นดินและกระทำความชั่วมาได้ถึง
12 ปี
พฤติกรรมทั้งหลายเกิดจากสันดานและธาตุแท้อันชั่วร้ายของจำเลยกับพวกทั้งสิ้น
จำเลยกับพวกและโคตรตระกูลของจำเลย เป็นคนไทย
เกิดและเติบโตโดยได้รับการอบรมศึกษาจากสถาบันการศึกษาของรัฐด้วยเงินภาษีของประชาชน
ทั้งแผ่นดินไทยก็ได้ให้โอกาสแก่บรรพบุรุษของจำเลยและจำเลยทั้งหลายในการประกอบอาชีพสร้างความร่ำรวยนับแต่อดีตถึงปัจจุบัน
และภายใต้ร่มพระบารมีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย ได้ทรงพระกรุณาต่อจำเลยและโคตรตระกูลของจำเลยทั้งหลายด้วยดีมาโดยตลอด
ทักษิณและเครือญาติได้รับโปรดเกล้าแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีถึงสามคน
แต่จำเลยกับพวกและเครือญาติทั้งหลายก็หาได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแต่อย่างใดไม่
กลับกระทำเนรคุณต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
และบังอาจกระทำการที่เป็นการทรยศต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างชั่วช้า
คนเช่นนี้มีชีวิตอยู่ย่อมเป็นเสนียดจัญไรต่อแผ่นดิน
มีแต่จะทำความหายนะแก่ชาติบ้านเมืองอย่างหาที่สุดไม่ได้ ศาลประชาชนสูงสุดของประชาชนทั้งประเทศ
จึงมีคำพิพากษาเป็นเอกฉันท์ให้ลงโทษประหารชีวิตจำเลยทั้งหลายกับพวกทั้งโคตร
และยึดทรัพย์สินทั้งหมดของมันให้ตกเป็นของแผ่นดิน
ให้เพิกถอนสิทธิทางการเมืองโคตรเหง้าตระกูลชินวัตร ดามาพงศ์ วงศ์สวัสดิ์
ไปตลอดชีวิต และให้เนรเทศออกจากประเทศไทยไปทั้งสามโคตรตระกูล โดยไม่รอการลงอาญา.
หมายเหตุ
เขียนจากความฝันว่าบ้านเมืองได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
มวลมหาประชาชนได้สามัคคีกันลุกขึ้นมาโค่นล้มขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์
ยึดอำนาจปกครองมาเป็นของประชาชน
แล้วจัดตั้งศาลประชาชนมาชำระคดีความผิดและความชั่วร้ายของทักษิณและตระกูลชินวัตร
ดามาพงศ์ วงศ์สวัสดิ์
โดยแต่งตั้งผู้เขียนให้เป็นหนึ่งในคณะตุลาการพิจารณาพิพากษาคดี
No comments:
Post a Comment