Friday, April 20, 2012

21 เมษายน ปีที่ 753 ก่อนคริสตกาล นับเป็นวันก่อตั้งกรุงโรม


21 เมษายน ปีที่ 753 ก่อนคริสตกาล นับเป็นวันก่อตั้งกรุงโรม

ประำกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

ศึกษาและเรียบเรียงจาก “Apr 21, 753 B.C.: Rome founded”, history.com

วันนี้ในอดีต 21 เมษายน 753 ปีก่อนคริสตกาล เชื่อเป็นวันก่อตั้งเมืองโรม โดย Romulus และ Remus สองพี่น้องแฝดกำพร้าที่เลี้ยงดูโดยแม่หมาป่า

ตามตำนาน โรมิวลุส (Romulus) และ รีมุส (Remus) คู่แฝดของเขาเป็นผู้ก่อตั้งกรุงโรม ณ บริเวณที่เขาได้รับการเลี้ยงดูให้รอดชีวิตในช่วงเยาว์วัยโดยแม่หมาป่า โดยความเป็นจริง เรื่องเล่าเกี่ยวกับเขาทั้งสองเป็นเรื่องเล่าโดยปราชญ์ในสมัย 4 ศตวรรษก่อนคริสตกาล แต่วันถือเป็นวันก่อตั้งอย่างเป็นทางการกำหนดโดยปราชญ์ชาวโรมันชื่อมาร์คัส เทอเรนทิอุส วาร์โร (Marcus Terentius Varro) ในช่วงหนึ่งศตวรรษก่อนคริสตกาล

ตามตำนาน โรมิวลุสและรีมุส เป็นบุตรของเรีย ซิลเวีย (Rhea Silvia) ธิดาของกษัตริย์นูมิเตอร์ (Numitor) แห่งอัลบา ลองกา (Alba Longa) ซึ่งอาณาจักร อัลบา ลองกานี้ เป็นเมืองในตำนานในแถบเทือกเขาอัลบัน (Alban) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงโรมปัจจุบัน ก่อนกำเนิดของคู่แฝด กษัตริย์นูมิเตอร์ ได้ถูกขับออกจากบัลลังโดยน้องชายชื่ออามูลิอุส (Amulius) แล้วบังคับใช้พระธิดาเรีย เป็นสาวพรหมจรรย์ โดยเธอจะไม่สามารถให้บุตรหรือธิดาเป็นผู้ที่จะมาอ้างสิทธิในบัลลังก์ของเขา แต่กระนั้นก็ตาม เรียได้เกิดตั้งครรภ์กับเทพเจ้าแห่งสงคราม (Mars) อามูลิอุส สั่งให้คนนำทารกทั้งสองไปทิ้งน้ำที่แม่น้ำไทเบอร์ (Tiber) แต่ทารกทั้งสองก็รอดชีวิตมาได้ และถูกสายน้ำพามาติดชายฝั่งในบริเวณเชิงเขาพาลาไทน์ (Palatine) อันเป็นที่ๆทารกทั้งสองได้รับการเลี้ยงดูให้นมดูดโดยแม่หมาป่า จนกระทั่งคนเลี้ยงแกะชื่อฟาอุสตูลุส (Faustulus) ผ่านมาพบ

ชายเลี้ยงแกะฟาอุสตูลุส และภรรยาได้เลี้ยงดูทารกทั้งสอง จนเติบใหญ่ท่ามกลางคนผู้เลี้ยงแกะ และเด็กทั้งสองคนได้กลายเป็นหัวหน้าของบรรดาเด็กๆในวัยเดียวกัน หลังจากแฝดทั้งสองได้รู้ประวัติความเป็นมาของตนเอง จึงได้โจมตีเมืองอัลบา ลองกา แล้วสังหารอามูลิอุสเจ้าเล่ห์ และสถาปนาปู่ของเขากลับมาครองราชย์

แฝดทั้งสองได้ก่อตั้งเมืองขึ้นมา ณ บริเวณที่เขาได้รอดชีวิตมาในช่วงเยาว์วัย ต่อมาทั้งสองได้มีเรื่องทะเลาะกันเองเล็กๆน้อยๆ รีมูสถูกพี่ของเขาสังหาร โรมิวลุสได้เป็นผู้ครองเมืองที่ก่อตั้งขึ้นนั้น แล้วเรียกเมืองนี้ว่า โรม” (Rome) ตามชื่อของเขา

เพื่อทำให้เมืองมีประชากรเพิ่มขึ้น โรมิวลุสได้ให้เมืองเป็นที่หลบหนีแก่นักโทษ (Fugitives) และบุคคลผู้ลี้ภัยจากที่ต่างๆ เมื่อเมืองโรมขาดสตรีที่จะแพร่ขยายประชากร โรมิวลุสจึงได้ออกอุบายเชื้อเชิญชาวเมืองซาบิเนส (Sabines) เพื่อนบ้านมางานเลี้ยงที่จัดขึ้น แล้วก็กักตัวบรรดาสตรีเอาไว้ จึงได้เกิดสงครามระหว่างเมืองซาบิเนสกับเมืองโรม แต่สตรีชาวซาบิเนสได้เข้าห้ามปรามชายชาวซาบิเนสที่จะเข้ายึดเมือง จึงทำให้เกิดข้อตกลงสันติภาพร่วมกัน และชาวเมืองทั้งสองร่วมกันเป็นหนึ่งและปกครองโดยโรมิวลุสและไททุส ทาทิอุส (Titus Tatius) กษัตริย์ของเมืองซาบิเนส แต่กษัตริย์ทาทิอุสได้เสียชีวิตก่อนวัยอันควร ซึ่งอาจเป็นการกระทำของโรมิวลุส จึงทำให้โรมมีผู้ปกครองเพียงคนเดียว คือ โรมิวลุส

หลังการปกครองที่ราบรื่นและรุ่งเรืองของโรม โรมิวลุสได้เสียชีวิต ชาวโรมเป็นอันมากเชื่อว่าเขาเปลี่ยนสถานะกลายเป็นเทพเจ้า และชาวเมืองก็บูชาเขาเป็นเทพชื่อ “คิวเออรินุส” (Quirinus) หลังจากโรมิวลุส โรมได้มีกษัตริย์ปกครองต่อมาอีก 6 พระองค์ 3 พระองค์หลังเชื่อว่าเป็นจุดกำเนิดของชาวอิทรัสคัน (Etruscans) อันเป็นวัฒนธรรมยุคใหม่ของโรม ในราว 509 ปีก่อนคริสตกาล (B.C.) โรมในกลายเป็นระบบสาธารณรัฐ (Republic)

No comments:

Post a Comment