หากต้องการรู้อนาคตของทักษิณ-ยิ่งลักษณ์
ต้องลองอ่านเรื่องของเบนอาลี (Ben Ali)
Keywords: การเมือง, politics, การปกครอง, governance, ประชาธิปไตย,
Democracy, เผด็จการรัฐสภา, ระบอบทักษิณ,
Taksinocracy, คณาธิปไตย, Oligarchy, ทักษิณ
ชินวัตร, Thaksin Shinawatra, ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร, พรรคเพื่อไทย, คอรัปชั่น, Corruption, ปฏิรูปประเทศไทย, Thailand Reform, เบนอาลี,
Ben Ali, ตูนิเซีย, Tunisia
ภาพ เผด็จการ อดีตผู้นำแห่งตูนิเซีย เบนอาลี (Ben Ali)
มีคนถามผมบ่อยว่าแล้วอนาคตประเทศไทยต่อไปนี้จะเป็นอย่างไร
อนาคตของยิ่งลักษณ์-ทักษิณจะจบลงอย่างไร ผมไม่ได้เป็นหมอดูหรือนักทำนาย
แต่บอกได้ว่า ประชาชน หรือมวลมหาประชาชนจะเป็นฝ่ายชนะในที่สุด
หากนั้นเป็นประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศที่ยืนอยู่บนหลักการและความถูกต้อง
ต้องการปฏิรูปประเทศไทยสู่ความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ส่วนเผด็จการรัฐสภา
ระบอบทักษิณ การคอรัปชั่น การเล่นพรรคเล่นพวกในระบบราชการ และการครอบงำสื่อสารมวลชน
ในที่สุดก็จะต้องล่มสลายไป
เผด็จการหรือทรราชย์
ไม่เคยมีใครจบชีวิตลงด้วยดี ลองดูชีวิตของจอมเผด็จการ เบนอาลี (Ben Ali) แห่งตูนิเซียไว้เป็นตัวอย่าง
ซิเน เอล อาบิดีน เบนอาลี (Zine El
Abidine Ben Ali) เกิดเมื่อวันที่
3 กันยายน ค.ศ. 1936 เป็นนักการเมืองชาวตูนิเซีย
เป็นประธานาธิบดีของตูนิเซียคนที่สองในช่วงปี ค.ศ. 1987 และถูกโค่นล้มไปในช่วงอาหรับสปริง
(Arab Spring) ในปี ค.ศ. 2011
เบนอาลีได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศตูนิเซียในเดือนตุลาคม
ค.ศ. 1987 และเขาได้ครองอำนาจด้วยวิธีการยึดอำนาจโดยไม่เสียเลือดเนื้อจากประธานาธิบดีฮาบิบ
บูร์กีบา (Habib Bourguiba)
ซึ่งถูกประกาศว่าไร้สมรรถภาพ ไม่สามารถปกครองประเทศต่อไปได้
ต่อมาเบนอาลีได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น
แต่ละครั้งได้รับคะแนนกว่าร้อยละ 90 และครั้งล่าสุดเขาได้รับเลือกตั้งในวันที่
25 ตุลาคม ค.ศ. 2009 แต่การเมืองแบบตูนิเซียก็เป็นที่รู้กันว่า
เป็นระบอบเผด็จการ โดยมีระบบรัฐสภาและการเลือกตั้งเป็นการบังหน้า
สื่อสารมวลชนในตูนิเซียไม่เคยมีเสรีภาพในการนำเสนอ
กลไกตำรวจและทหารถูกครอบครองเหมือนเป็นสมบัติส่วนตัว เช่นเดียวกับระบบการเมืองการเลือกตั้งในประเทศอียิปต์
ในช่วงของประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค (Hosni Mubarak)ที่ครองอำนาจในช่วง
ค.ศ. 1981 ถึง 2011 นานถึง 30 ปี และถูกขับออกจากอำนาจไปในระยะเวลาไม่ห่างกันนัก อำนาจของเบนอาลีกับมูบารัคคล้ายกัน
ดูเหมือนแน่นหนาถาวร มีฐานสนับสนุนที่ถูกวางเอาไว้อย่างลงตัวในด้านผลประโยชน์
ฝ่ายตรงข้ามแทบไม่มีโอกาสการต่อสู้เลย แต่ในที่สุด เมื่อเวลามาถึงอำนาจเผด็จการแบบนี้
จะด้วยเป็นเผด็จการรัฐบาลทหาร หรือเผด็จการทางรัฐสภา
แต่ในที่สุดก็จะพังไปอย่างรวดเร็วคล้ายปราสาททรายที่ชายหาด
เมื่อน้ำทะเลและคลื่นมาถึง มันก็จะพังทลายไปอย่างรวดเร็ว
ในวันที่ 14 มกราคม
ค.ศ. 2011 หลังจากการประท้วงโดยมหาชนต่อระบบการปกครองของเขาเป็นเวลาหลายเดือน
ในที่สุด เบนอาลีก็ต้องสละอำนาจ แล้วลี้ภัยอยู่ในประเทศซาอุดิอาเรเบีย (Saudi Arabia) พร้อมกับภรรยา คือ นางไลลา
เบนอาลี (Leïla Ben Ali) และบุตรธิดาอีก 3 คน ฝ่ายรัฐบาลใหม่ของตูนิเซียได้ขอให้ตำรวจสากลดำเนินการจับกุมเบนอาลีในโทษฐานการฟอกเงิน
(Money laundering) และการค้ายาเสพติด (Drugs trafficking) ในวันที่ 20
มิถุนายน ค.ศ. 2011 ศาลของตูนิเซียได้ตัดสินคดีลับหลังให้เบนอาลีต้องถูกจำคุกตลอดชีวิต
และภรรยาถูกจำคุก 35 ปี ด้วยข้อหาการขโมย การมีเงินและเพชรพลอยที่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย
และในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2012 ศาลตูนิเซียได้ตัดสินโทษเบนอาลีอีกครั้งในข้อหาทางการเมือง ให้จำคุกเบนอาลีตลอดชีวิตฐานใช้ความรุนแรงและเข่นฆ่าประชาชน
และอีกโทษจำคุกตลอดชีวิตโดยศาลทหารในเดือนเมษายน ค.ศ. 2013 ในฐานใช้ความรุนแรงต่อประชาชนผู้ประท้วงที่เมืองสแฟกซ์
(Sfax) ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต
No comments:
Post a Comment