Saturday, July 11, 2015

กรณีศึกษา –นักศึกษาถูกคัดชื่อออก

กรณีศึกษา –นักศึกษาถูกคัดชื่อออก

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob.cooparat@gmail.com

Keywords: การอุดมศึกษา, higher education, การอาชีพ, vocation, การศึกษาต่อ, contiueing education, การแนะแนว, guidance and counseling

กรณีศึกษา


ภาพ การศึกษาในโลกของงานยุคใหม่

นักศึกษาคนหนึ่ง เรียนจบปกศ. (ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง) แล้วจึงโอนย้ายเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยเอกชนใกล้บ้านแห่งหนึ่ง มหาวิทยาลัยแนะนำให้เรียนสายวิชาหนึ่งที่ดูแล้วสูงเกินไป มีความเป็นนามธรรมเกินไปสำหรับปริญญาตรี เรียนไปได้ 1 ปี ปรากฏว่าได้คะแนนเฉลี่ย 1.1 และถูกคัดชื่อออก (Retired) พ่อแม่เขาทราบเรื่องมีปัญหาร้อนใจจึงขอคำปรึกษาจากผม

ผมได้พูดคุยกับทั้งผู้เรียนและกับพ่อแม่ ทราบว่า นักศึกษาใช้เวลา 1 ปีในการเรียน คิดค่าใช้จ่าย ค่าเล่าเรียน ค่าเดินทาง ค่าอาหารการกินและรายจ่ายพิเศษ รวมแล้วต้องจ่ายประมาณ 120,000-130,000 บาท/ปี พ่อแม่ขอคำปรึกษาจากผมว่าเขาควรทำอย่างไร

พ่อแม่อยู่ในวัย 40 ปีต้นๆ การศึกษาระดับ ประถมศึกษา 4 เขามีลูก 2 คน มีอาชีพประกอบการร้านอาหารขนาดเล็ก มีบ้าน มีรถบรรทุกเล็ก มีรายได้และเงินเก็บพอจะส่งเสียให้ลูกเรียนได้จนจบการศึกษา หากลูกเขาเรียนได้จนจบตามเวลาอันควร แต่หากเรียนไปอย่างไม่มีอนาคต เขาก็หมดแรงส่งเสียเหมือนกัน

คำตอบ

วิธีการคิดค่าคะแนนเฉลี่ย(Grade Point Average)  A= 4; B = 3; C = 2; D = 1; F หรือสอบตก = 0
ผลการเรียนได้คะแนนเฉลี่ยที่ 1.1 แสดงว่าได้คะแนนส่วนใหญ่ที่สอบไม่ผ่าน และได้เฉลี่ย D ซึ่งวิชาที่จะเทียบโอนได้ต้องได้ C ขึ้นไป ถ้าจะศึกษาต่อ ควรได้คะแนนที่ 1.8 ขึ้นไป ซึ่งมหาวิทยาลัยทั่วๆไป คิดคะแนนจบการศึกษาที่ 2.0-2.5

ในกรณีได้คะแนน 1.1 นั้นแสดงว่าไม่ควรเรียนต่อทันที อาจใช้การลาออก แล้วโอนย้ายหน่วยกิตสู่สถานศึกษาเดิม หรือสถานศึกษาใหม่ ซึ่งจะต้องเป็นวิชาที่ได้คะแนนเฉลี่ยตั้งแต่ C ขึ้นไป

แต่ทางเลือกที่ดี คือให้นักศึกษาเขาหยุดการศึกษา แล้วไปหางานทำตามอาชีพที่พอจะทำได้ ให้เขาเลือกหางานเองก็ได้ ให้เขาได้มีวุฒิภาวะเพิ่มขึ้น เรียนรู้พึ่งตนเองให้มากขึ้น รู้ค่าของเงินมากขึ้น ในทางวิชาการ อะไรที่ยังอ่อนอยู่และเป็นพื้นฐานของการศึกษาต่อ ก็ให้หาทางเรียนพิเศษหรือศึกษาด้วยตนเอง หรือฝึกฝน เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนศึกษาเล่าเรียนใหม่


เมื่อเขามีประสบการณ์การทำงาน การได้มีเวลาคิดใหม่ว่าอยากจะเรียนอะไร เพื่อไปทำงานอะไร เขาได้เห็นความสำคัญของการศึกษานั้นๆแล้ว จึงค่อยสมัครไปเรียนต่อ ซึ่งมีสถาบันอุดมศึกษาในแบบต่างๆให้เลือกเรียนมากมาย ซึ่งหากต้องการคำปรึกษา ก็ยินดีจะให้คำแนะนำให้

No comments:

Post a Comment