Saturday, February 13, 2010

จีนเริ่มทดลองและสาธิตการใช้รถไฟฟ้าเป็นแท๊กซี่

จีนเริ่มทดลองและสาธิตการใช้รถไฟฟ้าเป็นแท๊กซี่

BYD e6 begins life as taxi and shocking rumors

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

ศึกษาและเรียบเรียงจาก "BYD e6 begins life as taxi and shocking rumors" ใน EV Perspective วันที่ 8 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2010

ภาพ BYD E6 รถยนต์ไฟฟ้าขนาด 5 ที่นั่ง

บริษัท BYD บริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่สำหรับโทรศัพท์มือถือและเครื่องคอมพิวเตอร์รายใหญ่ของจีนที่ได้หันสู่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ได้รับอนุญาตให้ขายรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทรุ่น BYD E6 ในประเทศจีนแล้ว และบริษัทได้เริ่มดำเนินการให้มีรถไฟฟ้าใช้เป็นบริการแท๊กซี่ในเมือง Shenzhen แม้จะยังเริ่มในจำนวนน้อยไม่กี่คัน แต่บริษัท Shenzhen Taxi Co.Ltd. ได้มีคำสั่งซื้อรถไฟฟ้าจากบริษัทจำนวน 100 คัน และบริษัท BYD Motors ก็ได้อาศัยการสนับสนุนรัฐบาลที่ทำให้ต้นทุนการผลิตรถที่คันละ USD 43,940 ในปัจจุบ้น ได้ลดลงมาในระดับที่ทำให้ขายได้ และได้ทดลองสาธิตการใช้งานรถไฟฟ้าในประเทศจีนอย่างจริงจัง

รถยนต์ไฟฟ้านั้นเป็นสิ่งที่มีอนาคตแน่ แต่ปัญหาที่ต้องให้เวลาเป็นเครื่องแก่ไข คือต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะแบตเตอรี่สำหรับรถไฟฟ้า (EV battery) นั้นยังมีราคาสูงอยู่ และยังมีขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก ซึ่งต้องใช้เวลาสักระยะในการพัฒนาแบตเตอรี่ให้มีสมรรถนะขึ้นไปอีก และในขณะเดียวกันเมื่อมีการผลิตเป็นจำนวนมาก ราคาก็จะลดลงไปตามลำดับตามกลไกของการแข่งขัน

ดังที่ได้เคยกล่าวแล้ว "คิดแบบไทย คิดแบบใหญ่ไปหาเล็ก" แต่ "คิดแบบเจ๊ก (จีน) คิดแบบเล็กไปหาใหญ่" คือถ้าจะทำอะไรให้ประสบความสำเร็จ แต่หากคิดการใหญ่ เต็มไปด้วยความฝัน แต่แล้วมันห่างไกลจากความเป็นจริงมากๆ ท้ายสุด มันก็เป็นเพียงความฝัน ไม่สามารถทำอะไรให้เสร็จได้อย่างจริงจัง กลายเป็นฝันลมๆแล้งๆ อย่างนี้เรียกว่าคิดแบบไทย แต่หากเราคิดทำอะไร คิดหวังว่าสักวันจะทำการใหญ่ แต่ก็ต้องเริ่มจากก้าวเล็กๆ นี่ก็เป็นเรื่องที่ใช้ยกขึ้นมาเพื่อเตือนสติคนไทยให้หัดคิดแล้วต้องลงมือทำกันบ้าง เรียกว่า ต้องเป็น Action oriented

แต่ในอีกด้านหนึ่ง คิดแบบเจ๊ก คิดจากเล็กไปหาใหญ่ ดังกรณีของจีน บริษัท BYD นั้นเริ่มมาจากบริษัทขนาดเล็ก แต่ก็ขยายมาจนใหญ่โต ในก้าวต่อมา เรื่องของรถยนต์ไฟฟ้า เขาได้พัฒนารถยนต์ต้นแบบมาแล้ว แต่เมื่อจะเริ่มต้นและต้องพิสูจน์คำครหาว่าจีนผลิตสินค้าได้ถูกจริงแต่ไม่มีคุณภาพ หรือถูกจริง แต่ไม่มีระบบบริการหลังการขาย การจะขายรถไฟฟ้าที่จะต้องมีเรื่องที่ต้องตามให้บริการ แต่หากการตลาดที่ยังพิสูจน์ข้อสงสัยในเรื่องคุณภาพและบริการไม่ได้ ก็ต้องหาทางพิสูจน์ และทางพิสูจน์ประการหนึ่งคือ ต้องการมีการทดลองในถนนจริงๆให้เห็น และเริ่มจากเมืองที่เป็นบ้านของตนเองก่อน

รถแท๊กซี่ไฟฟ้า (Electric taxi) ในเมือง Shenzhen จะเป็นก้าวแรกๆของบริษัท BYD แต่แน่นอนว่าต้องจับตาดูการก้าวไปข้างหน้าของบริษัทดังกล่าว แต่ก็ทำนายได้เลยว่า จีนจะเข้ามาเป็นคู่แข่งสำคัญในกิจการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ที่ใช้ไฟฟ้าเป็นหลัก เพราะเขาบอกแล้วว่า ในกิจการรถยนต์ทั่วไป เขายังตามเทคโนโลยีตะวันตกหรือของญี่ปุ่นไม่ได้ แต่เรื่องรถไฟฟ้าแล้ว เทคโนโลยีไม่ห่างกันนัก และเขาได้จับเรื่องแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูง และเป็นผู้ผลิตรายใหญ่อยู่แล้ว จีนจึงมีศักยภาพที่มองข้ามไม่ได้

ภาพ แผนที่ประเทศจีน Shenzhen อยู่ใกล้กับ Hong Kong

ภาพ แผนที่เมือง Shenzhen

สำหรับข้อมูลพื้นฐาน - เมือง Shenzhen อยู่ในมลฑลกว้างตุ้ง (Guangdong) ของประเทศจีน อยู่ทางตอนเหนือขึ้นไปของเขต Hong Kong เป็นเขตเปิดเสรีทางเศรษฐกิจ มีประชากร 8,615,500 คน จัดอยู่ในเขตเมืองประมาณ 4,000,000 คน ส่วนที่เหลืออยู่ในเขตชานเมือง คนที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้ส่วนใหญ่เป็นพวกเชื้อสาย Han อันเป็นประชากรส่วนใหญ่ของจีน เป็นเขตที่ตั้งแต่สมัยปฏิรูปของจีนในยุค Deng Xiaoping ได้จัดให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ

No comments:

Post a Comment