ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org
ขยายความจากบทความเรื่อง “EV battery comparison proves superiority of NiMH” เผยแพร่เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2010 (February 11th, 2010)
Keywords: EV, PHEV, battery, electric car, รถยนต์ไฟฟ้า
ภาพ NiMH Battery Comparison Chart
ในปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้าหลายค่ายต่างหันไปใช้เทคโนโลยีที่ใช้ Lithium เป็นวัสดุหลักในการผลิตแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นวัสดุที่ใช้ในการผลิตแบตเตอรี่สำหรับโทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์กระเป๋าหิ้ว รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้วัสดุนี้เป็นหลักในเทคโนโลยีแบตเตอรี่ของเขา คือ Tesla Motors, Nissan Motors ในรถยนต์ Nissan Leaf, และอื่นๆ
แต่ขณะเดียวกันก็มีผู้ให้ความเห็นแย้งว่าแบตเตอรี่ที่ใช้ Nickel เป็นวัสดุหลักนั้น จะมีประสิทธิภาพและคุณสมบัติโดยรวมที่ดีกว่า Lithium และอื่นๆ ทั้งในด้านอายุการใช้งาน และอื่นๆ อย่างไรก็ตาม หากติดตามดูแล้ว ยังมีเทคโนโลยีแบตเตอรี่ใหม่ๆ ที่ค้นหาวัสดุอื่นๆที่จะเหมาะมาทำเป็นแบตเตอรี่อีก ยังไม่หยุดเพียงเท่านี้
สำหรับผู้เชี่ยวชาญแล้ว เขามองไปที่ระบบแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถวิ่งได้ระดับ 200 ไมล์ หรือประมาณ 320 กิโลเมตรขึ้นไป แต่นั้นก็จะต้องใช้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่และหนักมาก เกินความเหมาะสมสำหรับรถยนต์ทั่วๆไป แต่ขณะเดียวกัน หากแบตเตอรี่ต้องมีน้ำหนักมากถึง 1500 ปอนด์ (LB) หรือ 682 กิโลกรัม ก็จะทำให้มี่น้ำหนักมากเกินไป และราคาค่าใช้จ่ายก็จะสูงตามไปด้วย
สำหรับคนทั่วไปอย่างผมและท่านผู้อ่านที่ไม่ใช่เป็นนักประดิษฐ์ ก็คงจะต้องรอดูต่อไป แต่ผมเห็นว่าจะมีพัฒนาการด้านแบตเตอรี่ที่จะต้องแข่งขันกันอย่างรุนแรง เพราะทุกคนรู้ว่า รถยนต์ไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่สำคัญสำหรับยานพาหนะในอนาคต และเทคโนโลยีด้านแบตเตอรี่ (EV Battery) ที่ต้องก้าวหน้าจะเป็นตัวตัดสิน สหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของ Barrack Obama ไม่ยอมแพ้และปล่อยเทคโนโลยีนี้ไปแก่ประเทศอื่นๆ อย่างญิ่ปุ่น เกาหลี หรือจีน ทั้งนี้ได้จัดงบประมาณสนับสนุนระดับ USD 2,400 ล้าน หรือเป็นเงินไทยประมาณ 79,200 ล้านบาท สนับสนุนทั้งระบบผลิต และระบบวิจัยและพัฒนา ทำให้มหาวิทยาลัยที่อ่อนด้อยไปแถบรัฐมิชิแกน และ Midwest ที่เคยตกต่ำ มีคนตกงานมากมาย ก็หวังว่าจะฟื้นฟูเมืองที่เคยรุ่งเรืองอย่าง Detroit, Michigan ให้กลับฟื้นมาอีกครั้งหนึ่ง
ประเทศญี่ปุ่นมีบริษัทด้านเครื่องใช้ไฟฟ้า และมีเทคโนโลยีแบตเตอรี่ก้าวหน้าอยู่แล้วอย่าง Panasonic, Toshiba และอื่นๆ ก็คงจะต้องเข้าแข่งขันอย่างไม่ยอมปล่อยไปเช่นกัน ส่วนบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota เขาคงจะเดินไปอย่างรอบคอบ เทคโนโลยีของใครก้าวหน้ากว่า เขาคงจะสรวมใช้ได้ในทันที โดยไม่ติดยึดว่าจะเป็นเทคโนโลยีจากค่ายไหน แต่ขณะนี้ เขาคงจะเดินไปในแนวทางรถยนต์ไฟฟ้าลูกประสม (Hybrid cars) ที่มี Toyota Prius เป็นต้วนำ ราคาแบตเตอรี่ถูกลง มีคุณภาพ ทนทาน น้ำหนักเบาลงมาเพียงพอเมื่อใด ก็จะขยับไปเป็นรถยนต์ไฟฟ้าลูกประสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEVs หรือ Plug-in Hybrid Electric Vehicles) และต้องพยายามกู้ชื่อจากการที่ต้องเรียกรถยนต์กลับมาตรวจสอบปรับปรุงทั่วโลกถึงกว่า 8 ล้านคัน
หากใครมีความรู้เรื่องแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV Battery) ให้ช่วยกันมานำเสนอก็จะดีมากครับ ผมอ่านตารางแล้ว ยังไม่เข้าใจดีนัก และคงควรจะมีคนมีความรู้ด้านวัสดุศาสตร์ (Material Sciences) มาช่วยให้ข้อมูลสำหรับนักเรียนนักศึกษาที่จะได้ศึกษา ติดตาม และอาจมีส่วนร่วมในการวิจัยกันเองในประเทศไทยกันบ้าง
ReplyDelete