Saturday, October 8, 2011

เรื่องเล่า เรือของโนอาห์ (Noah's Ark)

เรื่องเล่า เรือของโนอาห์ (Noah's Ark)

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail:
Pracob@sb4af.org

ศึกษาและเรียบเรียงจาก Wikipedia, the free encyclopedia

Keywords: ตำนาน, Flood, น้ำท่วม, deluge, Noah, ark, เรือ

ภาพ โนอาห์และครอบครัวได้ร่วมกันสร้างเรือลำใหญ่ เพื่อไว้รักษาชีวิตผู้คนและสัตว์โลกให้รอดพ้นจากน้ำท่วมใหญ่

เพราะน้ำท่วมครั้งใหญ่ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2554 นี้ ทำให้ผมฟุ้งซ่านไปหาเรื่องอ่านเกี่ยวกับน้ำท่วมโลกในคัมภีร์ของชาวฮิบรู และเรื่องเรือของโนอาห์ที่ช่วยรักษาพันธุ์ของมนุษย์และสัตว์โลก โดยหวังว่าจะได้มีการตีความให้เราได้สติเกี่ยวกับ “น้ำท่วม” ในครั้งนี้ว่า เราควรจะเรียนรู้อะไรกันบ้างจากน้ำท่วม และเราควรเตรียมตัวอย่างไร เตือนสติให้มีความพร้อมอย่างไรต่อภัยพิบัติในลักษณะดังที่ได้เกิดขึ้นนี้

Noah’s Ark เป็นเรือของโนอาห์ เป็นเรือที่ปรากฏในหนังสือของพวกฮิบรูชื่อ Book of Genesis ในบทที่ 6-9 และในคัมภีร์ Quran (surahs Hud และ Al-Mu’minoon) ที่ได้บรรยายถึงการสร้างเรือของโนอาห์ตามคำสั่งของพระเจ้า เพื่อช่วยเขา ครอบครัว และสัตว์ในโลกจากน้ำท่วมครั้งใหญ่ของโลก

ตามคำบอกเล่าเกี่ยวกับเรือของโนอาห์ พระเจ้าเล็งเห็นความฉ้อฉลของมนุษย์ และได้เสียใจที่ได้สร้างโลกขึ้นมา เพื่อแก้ไขในสิ่งผิดที่ได้สร้างขึ้น พระองค์จึงได้ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่เพื่อล้างโลก และพระองค์ก็ได้เห็นว่าโนอาห์เป็นคนที่เหมาะสมแห่งยุคที่ควรจะเก็บรักษาไว้ จึงได้บอกวิธีการสร้างเรือเดินทะเลลำใหญ่ ซึ่งโนอาห์ก็ได้ปฏิบัติตามพระองค์ เมื่อสร้างเสร็จ โนอาห์ได้นำครอบครัวและสัตว์ทั้งหลายขึ้นไปบนเรือ แล้วพระเจ้าก็ส่งน้ำมาท่วมโลก น้ำได้ท่วมสูงขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งท่วมทุกยอดเขาสูง และทำลายสิ่งมีชีวิตทั้งมวลแล้ว ก็ลดระดับน้ำลง เรือของโนอาห์ได้ขึ้นไปลอยติดอยู่บนยอดเขา

เมื่อน้ำลดลง โนอาห์ ครอบครัวของเขา และบรรดาสัตว์ทั้งหลายก็ได้ออกจากเรือ และได้ใช้ชีวิตสืบพันธุ์ต่อมาในโลก พระเจ้าก็ได้ส่งสัญลักษณ์ “สายรุ้ง” (Rainbow) ขึ้นมาที่ขอบฟ้า เพื่อเป็นสัญญาแก่โนอาห์และสิ่งมีชีวิตทั้งมวลว่า พระองค์จะไม่ส่งน้ำมาท่วมโลกอีก

Covenant = นาม ข้อตกลง, สนธิสัญญา, บทบัญญัติ, ข้อกำหนด, ข้อสัญญา, กติกาสัญญา

ผมไม่มีความลึกซึ้งในเรื่องของความเชื่อในคัมภีร์ของศาสนาฮิบรู หรือในอิสลามเกี่ยวก้บน้ำท่วมโลกจริงๆ แต่หากใครมีความรู้และเข้าใจในการตีความ ก็ขอให้ช่วยเล่าให้ฟังด้วยจะขอบพระคุณอย่างสูง

No comments:

Post a Comment