Wednesday, August 31, 2011

กฎข้อที่ 14 ทำตนเป็นมิตร แต่ใช้สายลับ

กฎข้อที่ 14 ทำตนเป็นมิตร แต่ใช้สายลับ

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail:
Pracob@sb4af.org

ศึกษาและเรียบเรียงจาก “กฎการใช้อำนาจ 48 ข้อThe 48 Laws of Power”, 1998 โดย Robert Greene and Joost Elffers.

Keywords: power48, Administration, การบริหาร, management, การจัดการ, power, อำนาจ

“Pose as a Friend, Work as a Spy.” แปลเป็นไทยได้ว่า “ทำตนเป็นมิตร แต่ใช้สายลับ

มีสุภาษิตจีนบทหนึ่งของซุนวูกล่าวว่า “รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง”

ในประวัติของสงครามและการเมือง ไม่มีมิตรที่เชื่อถือได้ตลอดเวลา และไม่มีศัตรูที่จะเป็นศัตรูไปตลอดกาล ประเทศที่เคยรบกัน สักวันก็ต้องทำดีต่อกัน และในส่วนนี้กิจกรรมสายลับจึงยังคงมีอยู่ สายลับหรือ Spy ในภาษาอังกฤษ และในอีกด้านหนึ่งเขาเรียกว่า Intelligence หรือการสืบความลับจากฝ่ายตรงกันข้าม ซึ่งการสืบราชการลับนั้นมีให้เห็นกันทั้งภาคการเมืองระหว่างประเทศ เขามีสถานฑูตกัน แต่ขณะเดียวกันก็มีการสอดไส้ มีการส่งสายลับไปประจำการ หรืออย่างน้อยก็มีงานจัดทำข้อมูลสถานภาพของประเทศนั้นๆ ส่งกลับมายังประเทศของตน

ในสงครามโลกครั้งที่สอง สหรัฐอเมริกาและอังกฤษเป็นพันธมิตรกับรัสเซียซึ่งมีการปกครองในแบบคอมมิวนิสต์ แต่เพื่อจะมีกำลังร่วมกันที่จะรบกับเยอรมัน อิตาลี และญี่ปุ่น แต่หลังสงคราม เมื่อรบชนะแล้ว สหรัฐเองก็ต้องกลับมาทำสงครามเย็นกับสหภาพโซเวียตอยู่เป็นเวลานาน จนกระทั่งปี ค.ศ. 1989 สหภาพโซเวียตจึงล่มสลาย ในช่วงเวลาความตึงเครียดนั้น แม้จะไม่มีการรบกันโดยตรงระหว่างสหรัฐกับสหภาพโซเวียต แต่ทั้งสองฝ่ายต่างต้องแสวงหาข้อมูล มีการสืบราชการลับของกันและกันอยู่ตลอดเวลา

ประเทศมหาอำนาจ แม้จะทำตัวเป็นมิตรกับหลายๆ ประเทศ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่วายเว้นที่จะต้องมีหน่วยสืบราชการทั้งลับและไม่ลับประจำอยู่ในประเทศนั้นๆ

ในทางธุรกิจก็มีการสืบความลับฝ่ายตรงกันข้ามเหมือนกัน (Corporate Intelligence) บางอย่างรุนแรงผิดกฎหมาย แต่บางอย่างที่มีสิทธิกระทำได้และอยู่ในกรอบจริยธรรมทางธุรกิจ กล่าวโดยง่ายคือ เมื่อเราทำธุรกิจ ก็ต้องหาทางรู้ให้ได้ว่าฝ่ายคู่แข่งขันนั้นเขาคิดและมีแผนจะทำอะไร หากจะอยู่ในวงการแฟชั่น ก็จะต้องรู้ว่าแนวโน้ม หรือ Trends ของการแต่งกายในฤดูข้างหน้านั้น จะออกมาในรูปใด พวกที่เป็น Trend Setters หลักๆ เขาคิดกันอย่างไร

No comments:

Post a Comment