โซ่จะไม่แข็งแรงไปกว่าข้ออ่อนที่สุด

โซ่จะไม่แข็งแรงไปกว่าข้ออ่อนที่สุด

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

Keywords: teamwork, management, การทำงานเป็นทีม

มีสุภาษิตในภาษาอังกฤษบทหนึ่งกล่าวว่า “A chain is no stronger than its weakest link.” ซึ่งแปลเป็นไทยได้ว่า การทำงานเป็นกลุ่มและทำเป็นทีมงานร่วมกันนั้น ขึ้นอยู่กับผลงานของคนที่อาจเป็นส่วนที่อ่อนแอที่สุด

การทำงานที่จะไปสู่จุดหมายนั้น เราออกแบบให้เป็นได้ 2 แนวทาง คือ

แบบอนุกรม (Serial) หรือแบบต่อเนื่องกัน คือคนทุกคนทำงานแบบส่วนเล็กๆของตน แล้วส่งงานต่อเนื่องกันไปยังคนต่อๆไป งานในแบบนี้มีข้อดีตรงที่แต่ละคนทำงานเฉพาะในส่วนย่อยที่สุดของตน ทำงานให้มีทักษะมากที่สุดในส่วนย่อย ซึ่งโดยหลักคิดว่า จะทำให้คนเรียนรู้งานได้เร็วขึ้น แต่ข้อเสียคือ หากคนใดคนหนึ่งมีจุดอ่อน ก็จะทำให้งานทั้งหมดได้รับผลจากส่วนที่เป็นจุดอ่อนนั้น ทีมงานในแบบนี้ จึงไม่ควรมีกำลังคนที่ใหญ่จนเกินไป เพราะการจะดูแลส่วนที่เป็นปัญหาก็จะกระทำได้ยาก

แบบคู่ขนาน (parallel) คือการที่มีทีมงานหลายทีมทำคู่ขนานกันไป เป็นอิสระต่อกัน เช่นต้องการทำงานขนาดใหญ่เป็นสองเท่า ก็สร้างทีมงานที่มีลักษณะเหมือนกันเป็นสองทีม ต่างทีมกันก็ต่างทำกันไป โดยไม่ต้องอาศัยอะไรร่วมกัน สร้างความเป็นทีมเฉพาะในส่วนย่อยแต่ละส่วน หากองค์การใหญ่ต้องการให้ได้งานมาก ก็ขยายคนทำงาน ให้มีมากทีมไปตามปริมาณงาน แต่กระนั้นในแต่ละทีมงานก็ยังจะมีปัญหาเรื่องคนทำงานที่อ่อนที่สุดจะกลายเป็นปัญหาของกลุ่มได้อยู่ดีในกลุ่มนั้นๆ

ดังนั้นก็จะต้องเป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารที่จะดูแลว่าแต่ละคนในแต่ละทีม ทำงานในหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด และมีระบบสำรองงาน เพื่อเมื่อมีปัญหาที่จุดใด สามารถหาคนมาทำงานทดแทนได้อย่างรู้งาน และทำงานต่อเนื่องไปได้โดยไม่เสียงาน ทีมใดที่มีปัญหา ก็จะมีทีมงานอื่นรับไปทำแทน หรือต้องเข้าไปแก้ปัญหาในทีมงานนั้นๆให้ดำเนินไปได้ตามปกติ

ด้วยเหตุนี้ ในการออกแบบทีมงานนั้น จึงต้องให้แต่ละทีมงานมีกำลังคนพอเหมาะ แต่ทำงานกันเป็นทีมได้อย่างรู้ใจ มีเวลาเรียนรู้งานร่วมกัน เมื่อมีปัญหาตรงจุดใด สามารถมาระดมกำลังเสริมให้แก่กันได้ นอกจากนี้ก็คือให้แต่ละทีมงานนั้น มีหัวหน้างาน (Team leader) หรือผู้นิเทศงาน (Supervisor) คอยดูแลอีกทีหนึ่ง

ในส่วนขององค์การที่มีขนาดใหญ่ขึ้นนั้น จึงต้องให้ความสำคัญกับการสรรหา การคัดเลือก และการพัฒนาคน เพราะคนนั้นไม่ว่าในองค์กรใด ก็จะมีคนเข้าใหม่ มีคนที่ต้องปรับย้ายไปสู่งานในส่วนอื่นๆ และคนที่ต้องออกไปจากองค์การ จึงต้องทำงานอย่างมีกำลังเสริม เรียนรู้งาน และมีเวลาทำงานกันอย่างเป็นทีมให้ได้มากที่สุด และเร็วที่สุด

ในหลักการบริหารงานนั้น จึงต้องระลึกว่า ไม่ว่าเราจะออกแบบงานให้เป็นอย่างใด ก็ต้องจำหลักว่า “โซ่จะไม่แข็งแรงไปกว่าข้ออ่อนที่สุด”