Saturday, December 31, 2011

ลักษณะการตั้งถิ่นฐานของชาวเยอรมัน

ลักษณะการตั้งถิ่นฐานของชาวเยอรมัน

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

ศึกษาและเรียบเรียงจาก Wikipedia, the free encyclopedia

Keywords: เยอรมนี, เยอรมัน, German, Germany, สิ่งแวดล้อ, การตั้งถิ่นฐาน

ความนำ

มีอะไรหลายอย่างที่เราควรได้เรียนรู้จากประเทศในยุโรป ดังกรณีของประเทศเยอรมนี (Germany) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสามารถด้านอุตสาหกรรม การออกแบบที่เขาเน้นทั้งการทำงานได้ดี (Function) ควบคู่ไปกับความสวยงาม (Form) มีความคงทน ไม่ล้าสมัยเร็ว ในด้านสิ่งแวดล้อม เยอรมันจัดได้ว่าเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม คุณภาพชีวิตของคน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นชีวิตคนในเมือง ชานเมือง หรือในชนบท เขาจะต้องให้ความสำคัญต่อการออกแบบการตั้งถิ่นฐานอย่างรอบคอบ

ผู้เขียนและเรียบเรียงบทความนี้ประทับใจในการไปเที่ยวเยอรมันหลายครั้ง เห็นว่าเราควรได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องการตั้งถิ่นฐานของเขา ทำอย่างไรเขาจึงได้มีการรักษาสิ่งแวดล้อมให้ปลอดมลพิษ การทำให้สิ่งแวดล้อมเหล่านี้ส่งผลต่อสุขภาพอนามัยของคน หวังว่าเราคงจะได้เรียนรู้เพิ่มเติมจากประเทศของเขา

ข้อมูลประเทศเยอรมนีอย่างย่อ
(Country Profile)

เมืองหลวงของประเทศเยอรมนี (Capital) และจัดเป็นเมืองใหญ่สุด ((largest city) คือเมือง Berlin มีตำแหน่งที่สามารถเรียกดูในระบบ GPS คือ 52°31′N 13°23′E / 52.517°N 13.383°E / 52.517; 13.383

ภาษากลางหรือภาษาทางการของประเทศเยอรมันนี (Official languages) คือภาษาเยอรมัน (German[1] )

ในด้านชนเผ่าต่างๆ (Ethnic groups) ในประเทศเยอรมันนี้ 91.5% เป็นเชื่อสายเยอรมัน (German), 2.4% เป็นเตอรกี (Turkish), ส่วน 6.1% เป็นมาจากชนเผ่าอื่นๆ (other[1]) โดยรวม ประเทศยังประกอบด้วยคนผิวขาวเป็นส่วนใหญ่

ประชาชนของประเทศเยอรมัน คือ ชาวเยอรมัน มีชื่อเรียกในภาษาอังกฤษ (Demonym) คือ German

ประเทศมีการปกครอง (Government) เป็นแบบสาธารณรัฐ หรือสหพันธรัฐ ( Federal) คือในหนี่งประเทศประกอบไปด้วยหลายๆรัฐ โดยมีการปกครองในแบบรัฐสภาของรัฐบาลกลาง (Parliamentary republic)

มีประธานาธิบดีเป็นประมุข ( President) ในปัจจุบันมีชี่อว่า Horst Köhler (CDU) -

มีผู้นำฝ่ายบริหาร เรียกว่า Chancellor ในปัจจุบันเป็นสตรี มีชื่อว่า Angela Merkel (CDU)

ในด้านรูปแบบการปกครอง (Formation) ในช่วงแรกในราวปี ค.ศ. 962 เป็นส่วนหนึ่งของคริสตจักรโรมัน (Holy Roman Empire) .ในระยะต่อมา ซึ่งเริ่มวันที่ 18 มกราคม ค.ศ. 1871 เป็นอาณาจักรเยอรมัน (German Empire)

ภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อแพ้สงครามต่อกองทัพพันธมิตร เริ่มในวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 1949 เป็นยุคที่เรียกว่า สหพันธรัฐเยอรมัน (Federal Republic)

เมื่อโซเวียตล่มสลาย ในวันที่ 3 ตุลาคม ค.ศ. 1990ได้มีการวมชาติเยอรมัน 2 ฝ่าย คือตะวันตกที่เป็นฝ่ายเสรีนิยม และตะวันออกที่เป็นส่วนหนึ่งภายใต้การปกครองคอมมิวนิสต์ ให้กลายเป็นหนึ่ง (Reunification)

ต่อมา ในวันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 1957ได้เข้าร่วมกับสหภาพยุโรป (EU accession)

ในด้านพื้นที่ของประเทศ (Area) มีทั้งหมด (Total) 357,021 ตารางกิโลเมตร (km) จัดว่าใหญ่เป็นอันดับที่ 63rd ของโลก หรือคิดเป็นเท่ากับ 137,847 ตารางไมล์ (sq mi) เป็นพื้นน้ำ (Water ร้อยละ 2.416

มีประชากร (Population) สำรวจ ณ วันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 2008 82,060,000[2] คน จัดว่าเป็นประเทศใหญ่อันดับที่ 14th มีความหนาแน่นของประชากรที่ (Density) 230 คนต่อตารางกิโลเมตร (จัดเป็นประเทศมีประชากรหนาแน่นอันดับที่ 36 ของโลก

มีรายได้ประชาชาติ ( GDP - PPP) ประมาณการในปี ค.ศ. 2008 ที่มวลรวม (Total US $2.910 trillion[3] จัดเป็นเศรษฐกิจใหญ๋เป็นอันดับที่ 5 ของโลก มีรายได้เฉลี่ยต่อหัวที่ (Per capita) US$35,442[3] จัดเป็นอันดับที่ 21

(nominal) 2008 estimate - Total $3,667 trillion[3] (4th) - Per capita $44,660[3] (19th) Gini (2000) 28.3 (low) HDI (2006) 0.940[4] (high) (23rd)

ในด้านอัตราแลกเปลี่ยน (Currency) ได้เปลี่ยนจากค่าเงินมาร์ก เป็นยูโร ( Euro - ) (EUR)

ในด้านเวลา (Time zone) เป็นแบบยุโรปส่วนกลาง CETเทียบที่ UTC+1 ในช่วงฤดูร้อน มีการปรับเวลาฤดูร้อน เรียกว่า Summer (DST) ทำให้มีเวลาเร็วขึ้น 1 ชั่วโมง เป็น CEST (UTC+2)

ในมาตรฐานการตั้งชื่อในอินเตอร์เน็ต (Internet TLD) เป็น .de, ในมาตรฐานการใช้โทรศัพท์ (Calling code) ใช้เลขเรียกหน้าสำหรับประเทศว่า 49

สิ่งแวดล้อม

ประเทศเยอรมนีได้ชื่อว่ามีจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมสูง คนเยอรมันมีความกังวลเรื่องโลกร้อน (global warming) รัฐบาลเองก็ยึดมั่นในข้อตกลง Kyoto protocol และอื่นๆในการส่งเสริมความหลากหลายด้านชีวภาพ (biodiversity) การลดการเผาไหม้ (low emission standards) การนำของทิ้งกลับมาใช้ใหม่ การใช้พลังงานที่สามารถนำกลับมาทดแทนได้ (renewable energy) และการสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable development) ในระดับโลก

ภาพ นกอินทรีย์ อันเป็นสัญลักษณ์ของเยอรมนี
The eagle is a protected bird of prey and the national heraldic animal

รายชื่อเมืองที่มีขนาดประชากรเกิน 100,000 คน

List of cities in Germany with more than 100,000 inhabitants

เมืองที่มีคนพักอาศัยเกิน 100,000 คน ขึ้นไป มี 82 แห่ง

เมืองที่มีประชากรเกิน 1 ล้านคนมี 4 แห่ง อันได้แก่ เบอร์ลิน (Berlin) 3,395,189, แฮมเบอร์ก (Hamburg) 1,743,627, มิวนิค หรือมุนเช่น (Munich / München) 1,259,677 และ โคโลน (Cologne / Köln) 983,347

มีเมืองขนาด 500,000 คนจนถึงเกือบล้านคน อีกประมาณ 10-11 แห่ง

กล่าวได้ว่า ประชาชนชาวเยอรมันอาศัยอยู่ในเขตเมือง (Urban Areas) เป็นส่วนใหญ่ แต่เป็นการอยู่อาศัยในเมืองใหญ่ที่มีการกระจุกตัวแบบกระจายตัวเองออกไป ไม่มีเมืองใดที่เป็นเมืองใหญ่ระดับโลก (Global cities) นอกจาก เบอร์ลิน ที่มีประชากรกว่า 3.3 ล้านคน

เมื่อเทียบกับมหานครนิวยอร์ค (New York City) ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีความหนาแน่นของประชากร (Population Density) 27,440 คนต่อตารางไมล์ หริอ 10,606 คนต่อตารางกิดลเมตร (km2) แต่เมืองเบอร์ลิน ที่จัดว่ามีประชากรมากที่สุดของประเทศเยอรมัน มีความหนาแน่นของประชากรที่ 3,807 คนต่อตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นความหนาแน่นของประชากรที่ใกล้เคียงกับกรุงเทพมหานคร (Bangkok) ซึ่งมีประชากรที่ 4,051 คนต่อตารางกิโลเมตร (km2)

ในการเปรียบเทียบ กรุงเทพฯมีประชากรรวมกว่า 6 ล้านคน และเมื่อรวมประชากรในเขตเมืองโดยรอบ หรือเรียกว่า Metropolitan จะมีรวม 12 ล้านคน ซึ่งอยู่รวมกันอย่างหนาแน่นในเขตปากแม่น้ำเจ้าพระยา แต่สำหรับประเทศเยอรมนี ประชาชนมีการตั้งถิ่นฐานแบบกระจ่ายตัวเองตามเมืองต่างๆมากมายทั่วประเทศ

Position of cities in Germany

This is a list of cities in Germany with more than 100,000 inhabitants.

รายชื่อตามตารางเมืองในเยอรมนีที่มีประชากรมากกว่า 100,000 คน

รายชื่อเมืองตามลำดับประชากร

Rank ↓

Name ↓

Pop. 2005 ↓

Area (km²) ↓

Pop. per km² ↓

1

Berlin

3,395,189

891.82

3,807

2

Hamburg

1,743,627

755.24

2,309

3

Munich / München

1,259,677

310.46

4,057

4

Cologne / Köln

983,347

405.15

2,427

5

Frankfurt am Main

651,899

248.31

2,625

6

Stuttgart

592,569

207.36

2,858

7

Dortmund

588,168

280.37

2,098

8

Essen

585,430

210.38

2,783

9

Düsseldorf

574,514

217.01

2,647

10

Bremen

546,852

326.55

1,675

11

Hanover / Hannover

515,729

204.01

2,377

12

Leipzig

502,651

297.60

1,689

13

Duisburg

501,564

232.81

2,154

14

Nuremberg / Nürnberg

499,237

186.37

2,679

15

Dresden

495,181

328.30

1,508

16

Bochum

385,626

145.43

2,652

17

Wuppertal

359,237

168.37

2,134

18

Bielefeld

326,925

257.83

1,268

19

Bonn

312,818

141.22

2,215

20

Mannheim

307,900

144.96

2,124

21

Karlsruhe

285,263

173.46

1,645

22

Wiesbaden

274,611

203.90

1,347

23

Münster

270,868

302.91

894

24

Gelsenkirchen

268,102

104.86

2,557

25

Augsburg

262,676

146.78

1,790

26

Mönchengladbach

261,444

170.44

1,534

27

Aix-la-Chapelle/Aachen

258,208

160.83

1,605

28

Chemnitz

246,587

220.85

1,117

29

Brunswick/Braunschweig

245,273

192.09

1,277

30

Krefeld

237,701

137.75

1,726

31

Halle

237,198

135.01

1,757

32

Kiel

234,433

118.40

1,980

33

Magdeburg

229,126

200.94

1,140

34

Oberhausen

218,898

77.04

2,841

35

Freiburg

215,966

153.06

1,411

36

Lübeck

211,825

214.13

989

37

Erfurt

202,844

269.11

754

38

Rostock

199,288

181.07

1,101

39

Hagen

196,934

160.36

1,228

40

Kassel

194,427

106.79

1,820

41

Mainz

194,372

97.75

1,988

42

Hamm

184,239

226.24

814

43

Saarbrücken

178,914

167.07

1,071

44

Herne

170,992

51.41

3,326

45

Mülheim

169,917

91.29

1,861

46

Osnabrück

163,814

119.80

1,367

47

Solingen

163,581

89.47

1,832

48

Ludwigshafen

163,343

77.67

2,103

49

Leverkusen

161,227

78.85

2,045

50

Oldenburg

158,565

102.96

1,540

51

Neuss

151,610

99.48

1,524

52

Potsdam

147,583

187.27

788

53

Paderborn

143,769

179.38

801

54

Heidelberg

142,993

108.83

1,314

55

Darmstadt

140,562

122.23

1,150

56

Würzburg

133,906

87.55

1,529

57

Regensburg

129,859

80.76

1,608

58

Göttingen

121,884

117.26

1,039

59

Recklinghausen

121,827

66.42

1,834

60

Heilbronn

121,613

99.88

1,218

61

Ingolstadt

121,314

133.35

910

62

Wolfsburg

121,199

204.01

594

63

Ulm

120,625

118.69

1,016

64

Offenbach

119,430

44.90

2,660

65

Bottrop

119,356

100.61

1,186

66

Pforzheim

119,021

98.03

1,214

67

Bremerhaven

116,615

77.68

1,501

68

Remscheid

115,864

74.60

1,553

69

Fürth

113,422

63.35

1,790

70

Reutlingen

112,252

87.06

1,289

71

Salzgitter

107,726

223.91

481

72

Moers

107,547

67.75

1,587

73

Koblenz

106,501

105.02

1,014

74

Siegen

106,293

114.67

927

75

Bergisch Gladbach

105,761

83.12

1,272

77

Gera

103,948

151.93

684

78

Trier

103,518*

117.14

884

79

Erlangen

103,197

76.85

1,343

80

Hildesheim

102,575

92.57

1,108

81

Jena

102,532

114.48

896

82

Witten

100,793

72.37

1,393

* 2006 Population

การอ้างอิง
References

This article incorporates information from the revision as of 2006-12-20 of the equivalent article on the German Wikipedia.

วรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง
Literature

  • Kaiserliches Statistisches Amt (Hrsg.): Statistisches Jahrbuch für das Deutsche Reich, 1880-1918 (German)
  • Statistisches Reichsamt (Hrsg.): Statistisches Jahrbuch für das Deutsche Reich, 1919-1941/42 (German)
  • Deutscher Städtetag (Hrsg.): Statistisches Jahrbuch Deutscher Gemeinden, 1890 ff. (German)
  • Statistisches Bundesamt (Hrsg.): Statistisches Jahrbuch für die Bundesrepublik Deutschland, 1952 ff. (German)
  • Staatliche Zentralverwaltung für Statistik (Hrsg.): Statistisches Jahrbuch der Deutschen Demokratischen Republik, 1955-1989 (German)

No comments:

Post a Comment