สุเรษฐ บัวชาติ เพื่อนเทพศิรินทร์ 04-06 ผู้จากไป
ผมขอเขียนคำระลึกถึงเพื่อน สุเรษฐ บัวชาติ
ซึ่งเพื่อนๆที่โรงเรียนวัดเทพศิรินทร์มีชื่อเล่นเรียกเขาว่า “แร้ง” หรือ “อีแร้ง”
รายละเอียดนายสุเรษฐ บัวชาติ
ภาพ สุเรษฐ บัวชาติ คนนั่งใส่เสื้อเหลืองทางขวาสุด ถ่ายภาพร่วมกับเพื่อนเทพศิรินทร์รุ่น 04-06
ภาพ สุเรษฐ บัวชาติ ถ่ายภาพล่าสุดที่ได้พบกับเพื่อนๆ
สุเรษฐ บัวชาติ, นาย เกิดวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2489
บิดาชื่อ นาย สิริ บัวชาติ มารดาชื่อ นางสอาด บัวชาติ
วันที่ทราบได้สูญหายไปจากบ้าน คือ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
วันที่ทราบว่าเสียชีวิตคือวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2560 อันมีสาเหตุเบื้องต้นจากการจมน้ำ
และน่าจะเป็นผลจากการที่เขาเป็นโรคสมองเสื่อม
และพลัดเดินออกจากบ้านที่พักที่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ที่เขาอาศัยกับน้องสาว
คือ คุณภาดี (แขก) บัวชาติ
วันที่ตั้งสวด วันอังคารที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2560
ณ หน่วยรักษาศพ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
เวลา 13.00 น.
เคลื่อนศพไปเผา ณ สุสานช้างเผือก อ. เมือง จ เชียงใหม่ เวลา 14.00 น
คำอาลัย แด่เพื่อน สุเรษฐ บัวชาติ
สุเรษฐ์ บัวชาติ มีชื่อเล่นว่า
"อีแร้ง" หรือแร้ง เพราะเขารูปร่างสูงสัก 172 ซม. ผอม จัดอยู่ในประเภท
สูงยาว เวลาเล่นฟุตบอลท่าทางวิ่งของเขาเหมือนนกตัวใหญ่ๆออกตัวบินขึ้น
เพื่อนๆเลยตั้งชื่อเขาว่าอีแร้ง สุเรษฐ์มีเพื่อนสนิทตั้งแต่ชั้นมูลที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน
คือ ธงชัย (ต๋อง) อัจฉริยานนท์ มาเข้าเรียนที่โรงเรียนวัดเทพศิรินทร์เข้าชั้นมัธยมศึกษาปีที่
1 สมัยรัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ใช้ระบบการศึกษา 7-3-2
คือประถมศึกษาและเป็นภาคบังคับ 7 ปี มัธยมศึกษาตอนต้น 3 ปี มัธยมศึกษาตอนปลาย 2 ปี
สุเรษฐมีผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ปานกลางค่อนข้างดีในวิชาทั่วไป
แต่ในด้านภาษาอังกฤษและฝรั่งเศสในระยะหลัง ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีทีเดียว
สุเรษฐ์เป็นคนสนุกสนาน เวลาเรียนก็ตั้งใจเรียนดี
เวลาได้พักเล่นฟุตบอลก็สนุกที่จะเล่นเหมือนเพื่อนๆทั้งหลาย
สุเรษฐ บัวชาติ ประกอบ คุปรัตน์ (ผม)
และพงษ์ศานต์ พันธุลาภ (รศ.ดร. พงษ์ศานต์ พันธุลาภ, อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง)
ทั้งสามคนเคยร่วมกันไปเรียนพิเศษภาษาฝรั่งเศสที่สมาคมฝรั่งเศส ถนนสาธร สุเรษฐเป็นคนชักชวนหลัก
และเป็นคนที่มีพื้นเรียนได้ดีด้านภาษา นี่ถือว่าเป็นส่วนรักดี สุเรษฐ
ได้ไปเรียนที่คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ผม ประกอบ คุปรัตน์
เข้าเรียนที่ครุศาสตร์ จุฬาฯ ส่วนพงศ์ศานต์ พันธุลาภ ไปเรียนรัฐศาสตร์ที่เชียงใหม่
แล้วกลับมาสอบใหม่ เข้าจุฬาฯ
ในอีกด้านหนึ่งผมกับสุเรษฐ
เคยร่วมกันหนีเรียนไปดูมวยไทยที่สนามมวยราชดำเนิน จำได้ว่าไปดูคู่อดุลย์ ศรีโสธร
ต่อยกับอภิเดช ศิษย์หิรัญ กลับมาได้รับเกียรติจากอาจารย์ใหญ่
เชิญไปรับการเฆี่ยนคนละ 6 ที แต่ก็ดีที่เป็นการเตือนสติ ผมและสุเรษฐกลับมาตั้งใจเรียน
สอบผ่านระบบสอบกลางที่เข้มงวด แลสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้
เมื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ สุเรษฐได้เข้าเรียนคณะโบราณคดี
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดูแล้วลูกๆหลานเข้าใจว่าเหมือนอินเดียนา โจนส์ (Indiana
Jones) ดูเท่ห์ดี แต่ความจริง กิจกรรมเรียนนี้
ส่วนที่เป็นนอกหลักสูตร คือการดื่มเหล้า ธงชัย (ต๋อง) สอบเข้าคณะเทคนิคการแพทย์
มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศิริราช ได้มีโอกาสพบปะกับสุเรษฐบ่อยกว่าเพื่อนคนอื่นๆ
นิสัยดื่มเหล้าเพราะชอบ กลายเป็นดื่มมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนต๋อง
หากดื่มก็จะยังสามารถควบคุมตัวเองได้ แต่อย่างไรก็ตาม บุคคลที่กล่าวถึงทั้ง 4 คน
เรียนจบมหาวิทยาลัยทุกคน ต่างไปมีอาชีพการงาน และวิถีชีวิตที่แยกย้ายกันออกไป
สุเรษฐรับราชการในสายโบราณคดี ประกอบ และพงษ์ศานต์ หลังจบการศึกษาระดับปริญญาตรี
ได้ไปศึกษาต่อต่างประเทศ และกลับมาเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ธงชัย (ต๋อง)
ไปฝึกงานและทำงานในสายวิชาชีพที่มหาวิทยาลัยอลาบามา (University of
Alabama, Birmingham, Alabama, USA) และได้สัญชาติเป็นอเมริกัน
เมื่อเกษียณจากงานแล้ว ก็ได้ไปๆมาๆ กลับมาอยู่บ้านในกรุงเทพฯปีละหลายเดือน ต๋องเป็นคนที่ได้มีการติดต่อกับสุเรษฐอย่างต่อเนื่องที่สุด
เพราะกลับมาเมืองไทยครั้งใด ก็นัดพบกับสุเรษฐ ได้รับประทานอาหารและพูดคุยกัน
สุเรษฐ์ได้ย้ายไปอยู่กับน้องสาว คือ คุณภาดี (แขก)
บัวชาติกับบุตรสาวของสุเรษฐ์ ส่วนบุตรชาย 1 คนไปอยู่สหรัฐอเมริกา สุเรษฐในวัย 71 ปีได้หายไปจากบ้านที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ.
2560 คาดว่าเพราะสมองส่วนความจำเสื่อม ทางบ้านบอกว่าแม้เดินผ่านบ้านก็จำบ้านไม่ได้
ในที่สุด ในวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2560 ทางคุณภาดีได้แจ้งว่าได้พบศพสุเรษฐแล้ว
เขาจมน้ำในคลองไม่ไกลจากบ้านนัก
มีเรื่องที่จะต้องขอบคุณ คือ ในช่วงหลัง 13
กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 วิชิต ยุกตะทัต
เพื่อนศิษย์เก่าเทพศิรินทร์ด้วยกัน ไม่นาน โทรมาบอกผมว่าเขาได้ชมทีวีรอบดึกราวตีหนึ่งครึ่ง
ประกาศคนหายโดยมูลนิธิกระจกเงา คือสุเรษฐ บัวชาติ เพื่อนของเราเอง
และทำให้รู้ว่าเขาหายไปจากบ้านพักในอำเภอเมืองเชียงใหม่
ผมจึงได้โทรถึงเพื่อนร่วมรุ่นอีกคนที่อยู่ที่เชียงใหม่ คือ ศิริพงษ์ (โล้น) บูรณะศิริ
ให้ช่วยติดตามข่าวคราวของเขาที่เชียงใหม่ และศิริพงษ์เอง
ก็ได้ทำหน้าที่ประสานงานกับคุณภาดี (แขก) น้องสาวสุเรษฐ
ในกิจกรรมอันเกี่ยวกับงานศพของสุเรษฐ ที่ได้มีขึ้นในวันที่ 7 มีนาคม
ผมในฐานะเพื่อนนักเรียนโรงเรียนวัดเทพศิรินทร์ในรุ่นที่เรียนร่วมกันมา
5 ปี ในสถานศึกษาแห่งนี้ ขอแสดงความเสียใจและอาลัยต่อการจากไปของเพื่อสุเรษฐ
บัวชาติ จากคนที่พูดถึงเขา
มีเป็นอันมากจะพูดถึงการที่เขาติดเหล้าอย่างถอนตัวไม่ขึ้น จนเป็นโรคสมองเสื่อม และทำให้มีผลกระทบอย่างมากต่อชีวิตและครอบครัวของเขา
หากมีสิ่งใดที่เพื่อนได้ก่อความไม่สบายใจแก่ผู้ใด ก็ขออโหสิกรรมให้กับเขา ส่วนเรา
เพื่อนๆนักเรียนเทพศิรินทร์ที่เรียนและเล่นด้วยกันมา จะระลึกถึงเขา
วันที่เราเคยสนุกด้วยกัน เล่นฟุตบอลทั้งลูกเล็กลูกใหญ่
ได้ไปเที่ยวทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดด้วยกัน ได้หนีเรียนไปด้วยกัน สนุกสนานและเฮฮาร่วมกัน
แล้วก็กลับมาเรียนหนังสือด้วยกัน
ด้วยรักและอาลัย
ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
ในนามเพื่อนเทพศิรินทร์ 04-06
7 มีนาคม พ.ศ. 2560
ในนามเพื่อนเทพศิรินทร์ 04-06
7 มีนาคม พ.ศ. 2560
No comments:
Post a Comment