Sunday, May 15, 2011

คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของทหาร 7 ประการ

คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของทหาร 7 ประการ
Traits for the Military

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

Keywords: การทหาร, military, คุณสมบัติ

เมื่อเราคิดถึงคุณลักษณะทหารในแต่ละคนว่ามีลักษณะเป็นอย่างไรบ้างจึงจะเหมาะแก่การทำหน้าที่ทหาร โดยทั่วไปมักไปผูกกับความเป็นชาย (Masculinity) ดังในภาษาไทยเรียกว่า “ชายขาติทหาร” แต่ก็นับว่าไม่ถูกนัก เพราะปัจจุบันมีสตรีที่เข้าทำหน้าทีทหาร และก็ต้องมีคุณสมบัติความเป็นทหารอย่างเดียวกัน แม้ภาพลักษณ์ของทหารคือคนที่เป็นชายล่ำสัน แข็งแรง บึกบึน อดทน แม้มีส่วนถูกอยู่มาก แต่ก็ไม่ทั้งหมด แต่มีคุณลักษณะทหารที่ แม้จะต่างกันในแต่ละประเทศ แต่โดยรวมๆ แล้วได้ฝึกให้มีลักษณะที่เป็นกลางๆเหมือนกัน

คุณลักษณะของทหารในกองทัพบก (Army Values) ทหารต้องมีทักษะอันจำเป็นในการทำหน้าที่ทางการทหาร ไม่ว่าจะได้รับมอบหมายให้ไปทำอะไร ทหารมีหลักยึดมั่นคือ LDRSHIP: ใกล้กับคำว่า Leadership หรือความเป็นผู้นำ จำง่ายๆ

Loyalty

Loyalty, = ความสวามิภักดิ์ ความภักดี ความจงรักภักดี และความซื่อสัตย์ ต่อบุคคลหรือหน่วยงาน เริ่มตั้งแต่หน่วยงานย่อยของตนเอง จนระดับที่ใหญ่ขึ้น จนถึงระดับกองทัพ

ในสมัยก่อน ความจงรักภักดีนั้นมีต่อบุคคล เหมือนมีเจ้านายเป็นกษัตริย์ หากสิ้นบุญของเจ้านายไปแล้ว ก็จะไม่ขอไปรับใช้ให้กับใครอีก แต่ในปัจจุบัน ข้าราชการทหารต้องมีความภักดีต่อหน่วย ต่อกองทัพ และต่อประเทศชาติ

ในประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้บัญชาการทหารทุกเหล่ทัพสูงสุดคือประธานาธิบดี (President of the United States) ซึ่งก็คือผู้ที่ได้รับเลือกตั้งจากประชาชนให้เป็นผู้นำทางการบริหารประเทศ

Duty

Duty = หน้าที่ คือสิ่งที่ได้รับมอบหมาย เริ่มตั้งแต่หน้าที่แรกดังที่กล่าวว่าชายทุกคนมีหน้าที่ต้องรับใช้ชาติ โดยเมื่อถึงวัยที่กำหนด หากถูกคัดเลือกให้ทำหน้าที่ทหาร หรือที่เรียกว่าทหารเกณฑ์ ก็ต้องเข้ารับหน้าที่อย่างไม่มีบิดพริ้ว และเมื่อเป็นทหารประจำการ เมื่อได้รับมอบหมายให้ไปปฏิบัติหน้าที่ใดๆ ก็ต้องไปทำหน้าที่นั้นๆตามที่ได้รับมอบหมาย ยกเว้นในกรณีที่ให้เลือกที่จะอาสา ซึ่งหมายถึงจะไม่ไปทำหน้าที่ก็ได้

ในสหรัฐอเมริกาในช่วงสงครามเวียตนาม มีเยาวชนคนหนุ่มสาวเป็นอันมากไม่เห็นด้วยกับสงครามที่ไปรับในแดนไกลที่ไม่เกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ เขามีสิทธิประท้วง แสดงความไม่เห็นด้วย แต่เมื่อต้องถูกเกณฑ์ไปรบในสงครามแล้ว ได้รับการฝึกเป็นทหารประจำการและส่งไปรบในสมรภูมิแล้ว หน้าที่ของเขาคือทำการรับ แม้เขาจะมีความคิดเห็นส่วนตัวเป็นอย่างไรก็ตาม การหนีทัพ หรือไม่ทำตามผู้บังคับบัญชาอาจมีโทษรุนแรงถึงประหารชีวิตได้

Respect

Respect = ความเคารพ ซึ่งในทางการทหารคือการเคารพตามลำดับชั้นยศและสายบังคับบัญชา ทหารไม่สามารถแสดงความไม่เคารพ กระด้างกระเดื่องต่อผู้บังคับบัญชา

การแสดงความเคารพในแบบทหาร ทหารจะแสดงความเคารพนายทหารในระดับสูงขึ้นไปกว่าตนตามลำดับ ไม่ได้ทำความเคารพตามอายุ เช่น จ่าคนหนึ่งอาจมีอายุ 50 ปี แต่นายร้อยเอกคนหนึ่งอายุ 30 ปี จ่าก็ต้องแสดงความเคารพนายทหารคนนั้น แม้เขาจะอายุมากกว่า หรือมีสถานะส่วนตัวเป็นบิดาด้วยก็ตาม

การเคารพชั้นยศตามลำดับนี้ รวมไปถึงการเคารพทหารตามชั้นยศข้ามหน่วยงาน ซึ่งหมายถึงทหารต่างหน่วยงานกัน หรือต่างกองทัพกัน ก็ต้องแสดงความเคารพกันตามลำดับชั้นที่เปรียบเทียบได้ ที่เขาต้องให้มีการเคารพกันนั้น เพราะบางครั้งทหารในยามนอกราชการไปเที่ยว หรือดื่มสุรา ทำให้เกิดกระทบกระทั่งกันระหว่างทหารต่างหน่วยงาน การมีความเคารพแม้ข้ามหน่วยงานนี้ ก็เป็นการทำให้ทหารยังคงอยู่ร่วมกันได้ เป็นการหลีกเลี่ยงการทะเลาะวิวาท หรือการกระด้างกระเดื่องเมื่อต้องทำงานร่วมกัน

Selfless Service

Selfless Service = การทำหน้าที่อย่างไม่คิดถึงตนเอง การทำหน้าที่อย่างเสียสละ

หน้าที่ของทหารไม่ใช่เข้ามาทำหน้าที่โดยหวังอยู่สบาย หน้าที่ของทหารคือการต้องไปทำหน้าที่ อยู่และปฏิบัติหน้าที่ๆปราศจากความสะดวกสบายได้ ต้องเสียสละ เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย แต่ก็ต้องทำหน้าที่อย่างไม่มีบ่น เสียกำลังใจ หรือเสียขวัญ ในอาชีพการเป็นทหารจึงต้องผ่านการฝึกหนัก ต้องให้เหนื่อย หิว อดนอน ทนหนาว ทนร้อน ทนเครียด และในสถานการณ์รบ การต้องทำหน้าที่อย่างไม่เห็นแก่ชีวิตของตนเอง

ชาวสปาร์ตัน (Spartan) ในยุกกรีกโบราณนับเป็นตัวอย่างของการใช้ชีวิตอย่างอุทิศตนให้กับการทหาร ดังตัวอย่าง

เด็กชายชาวสปาร์ตันทุกคน ตั้งแต่อายุ 7 ขวบก็ต้องรับการฝึกเป็นทหารแล้ว โดยต้องเข้าร่วมใน Agoge ที่ทำให้เด็กต้องฝึกวินัยและความแข็งแกร่งทางร่างกาย โดยเน้นความสำคัญของรัฐ Sparta เด็กชายต้องอาศัยอยู่เป็นชุมชน ต้องกินอาหารอย่างอดอยาก ต้องฝึกทักษะแม้การขโมยอาหารเพื่อยังชีพ เมื่ออายุได้ 20 ปี ชายหนุ่มทุกคนต้องเข้าเป็นทหารประจำการ และเป็นทหารจนอายุ 30 ปี หลังจากนั้นยังต้องเป็นทหารกองหนุนไปจนอายุได้ 60 ปี

และด้วยลักษณะดังกล่าว จึงทำให้ Sparta เป็นรัฐนักรบที่เกรียงไกร แม้มีประชากรไม่มากนัก

ในการเป็นทหารแม้ในปัจจุบัน ก็ยังต้องเป็นทหารที่ต้องเสียสละ นอนกลางดินกินกลางทรายได้ ทหาร จึงไม่สามารถทำตนเป็นคนเลือกกิน เลือกอยู่ได้ ทหารจะเป็นคนเจ้าสำอางค์ หรือเหยียบขึ้ไก่ไม่ฝ่อไม่ได้

Honor

Honor = เกียรติ หมายถึงการรักษาเกียรติของตนเอง หน่วยงาน กองทัพ ไม่ทำให้เกิดความเสื่อมเสียเกียรติไปด้วย

การเป็นทหารต้องรักษาเกียรติ แต่กรอบของการรักษาเกียรตินั้นอาจมีความแตกต่างกันไปตามสถานการณ์แล้วแต่กลุ่มคน แต่ที่มักจะตรงกันคือ ไม่ทำในสิ่งต่อไปนี้ คือ เมาเหล้าทั้งๆที่อยู่ในเครื่องแบบ แต่งกายไม่เรียบร้อย พูดจาไม่สุภาพ วางอำนาจต่อผู้คนโดยไร้สาเหตุ

เกียรติหมายถึงการไม่ไปทำงานในที่ๆทหารเขาเห็นว่าไม่มีเกียรติอันเหมาะสม เช่น เป็นนายทหารเงินเดือนไม่พอ ก็ไปขับรถแทกซี่รับจ้าง หรือไปเฝ้าบาร์ เฝ้าผับ อย่างนี้ไม่ถือว่าเป็นการรักษาเกียรติ แต่ในอีกลักษณะหนึ่ง ดังนายทหารไทยที่รายได้ก็ยังน้อย มีบางคนมีบ้านที่ภรรยาทำงาน ทำร้านอาหาร ค้าขายเล็กๆน้อยๆ เพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัว ดังนี้ก็ถือว่าไม่เสียเกียรติ หากงานที่ทำเป็นงานสุจริต แต่ทั้งคู่สามีภรรยากินและใช้เงินเกินกว่าที่หาได้ หากเป็นหนี้เป็นสิน มีคนตามทวงหนี้เช้าเย็น ต้องหลบเจ้าหนี้ ดังนี้ถือว่าเป็นการเสียเกียรติมากกว่า

ในสมัยก่อนในตะวันตก การรักษาเกียรติทำให้มีพฤติกรรมว่าเมื่อได้รับการหยาม หรือคำท้าดวล อาจะดวลดาบ ปืน ก็ต้องรับคำท้า มิฉะนั้นก็ไม่เป็นการรักษาเกียรติ เป็นคนขลาด ไร้ศักดิศรี และในปรากฏการณ์ดวลกันด้วยอาวุธนี้ไม่ถือเป็นผิดกฏหมาย เป็นการต่อสู้ป้องกันตัวและปกป้องเกียรติยศ

Integrity

Integrity = ศักดิ์ศรี ความสมบูรณ์ บูรณภาพ ความชื่อสัตย์ ความมั่นคง Integrity มีความหมายกว้างยากที่จะมีคำอธิบายได้ตรงเพียงคำเดียวในภาษาไทย มันหมายถึง “ความคงเส้นคงวา” ในหลายๆด้าน รวมถึงการกระทำ ค่านิยม วิธีการ การวัด หลักการ ความคาดหวัง และผลของการกระทำ ในทางจริยธรรม Integrity หมายถึงความซื่อสัตย์ พูดความจริง เที่ยงตรง Integrity เป็นความหมายที่ตรงกันข้ามกับคำว่า hypocrisy หรือการพูดจากลับกรอก พูดอย่างหนึ่ง แต่ทำอีกอย่างหนึ่ง

การมี Integrity นั้น หมายถึงเป็นคนมีคุณลักษณะไว้ใจได้ มั่นคง เมื่อเป็นนายทหาร สั่งให้ลูกน้องต้องเดินหน้าไปในที่เสี่ยง ลูกน้องจะเชื่อฟัง ก็เพราะเจ้านายเป็นคนเชื่อถือได้ว่าได้ออกคำสั่งไปอย่างมีเหตุผล ได้คิดดีทบทวนดีแล้ว และเจ้านายก็เป็นผู้มีความกล้าหาญเช่นเดียวกับลูกน้อง

Personal Courage

Personal Courage = ความกล้าหาญ มีความหมายที่ตรงตัวมาก ทางทหาร เมื่อได้รับมอบหมายให้ทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยง แต่ก็ขันอาสาทำ และทำอย่างสุดความสามารถ แม้จะเสี่ยงชีวิต นับเป็นความกล้าหาญที่มีเฉพาะเป็นบุคคล ความกล้าหาญเช่นนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย

ในยามสงคราม คนที่ไปเป็นทหารและไปรบทั่วไปก็จะได้รับเหรียญในระดับหนึ่ง แต่มีอีกประเภทหนึ่งที่ทหารจะได้ ก็ต่อเมื่อได้เข้าไปทำหน้าที่เสี่ยงตาย รบชนะข้าศึกในสถานะที่ยากจะทำได้สำหรับคนธรรมดาทั่วไป ดังเช่น ทหารที่รบเป็นหน่วยหน้า ต้องเสี่ยงเข้าไปยึดสถานที่ๆยังมีการระดมยิงจากฝ่ายตรงกันข้าม เสี่ยงต่อการถูกลอบยิง กองทหารที่แม้ต้องถอยหนี แต่จะมีส่วนหนึ่งที่ต้องคอยต่อสู้ถ่วงเวลาให้ฝ่ายของตนถอยหนีได้อย่างปลอดภัย แล้วจึงค่อยถอยตามไป ทหารในลักษณะนี้ต้องมีความกล้าหาญเฉพาะตัวสูง (Personal Courage)

สรุปรวมคุณลักษณะของทหาร

คุณลักษณะทหาร 7 ประการ คือ LDRSHIP นี้ เป็นคุณลักษณะที่มีความสำคัญ แม้ปลดประจำการจากการเป็นทหาร และมาทำงานเป็นพลเรือนในองค์การต่างๆ ก็จะเป็นคุณสมบัติสำคัญที่จะทำให้ทำงานได้อย่างดี แข็งขัน บากบั่น และสามารถเป็นผู้นำในหน่วยงานนั้นๆ แม้จะไม่ใช่ในสถานการณ์สู้รบก็ตาม

-------------------------------

No comments:

Post a Comment