Sunday, December 19, 2010

ประธานาธิบดีคาสโตรเตือนการปฏิวัติคิวบาจะประสบวิกฤติ

ประธานาธิบดีคาสโตรเตือนการปฏิวัติคิวบาจะประสบวิกฤติ

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

เก็บข่าวจากBBC News เรื่อง “President Raul Castro warned, "Cuba revolution is at stake if economic reforms are not adopted.”

คิวบาจัดเป็นประเทศจำนวนน้อยมากที่ยังมีการปกครองในแบบคอมมิวนิสต์ แต่เมื่อสหภาพโซเวียตล่มสลาย และคิวบาต้องยืนได้ตามลำพัง โดยไม่สามาราถพึ่งพาประเทศลูกพี่ได้เหมือนเดิม เมื่อเร็วๆนี้ คิวบาได้ประกาศดังต่อไปนี้

แนวโน้มคิวบาแก้วิกฤติ โดยลดคนทำงานภาครัฐ ลดค่าใช้จ่ายสวัสดิการ และกระตุ้นให้เกิดธุรกิจขนาดย่อย

คิวบาจะตัดคนทำงานภาครัฐ 1 ล้านตำแหน่งหรือร้อยละ 20 ของคนทำงานภาครัฐ 5.1 ล้านคน เริ่มในมีนาคม 2011

บทเรียนเศรษฐศาสตร์การเมืองของคิวบาอย่างสั้นๆ

ในทางการเมืองคิวบามีฟิเดล คาสโตร (Fidel Castro) ที่นำประเทศปฏิวัติ และครองอำนาจอย่างต่อเนื่องอยู่ถึง 50 ปี และในปีค.ศ. 2008 ได้มีการถ่ายโอนอำนาจสู่น้องชาย คือ Raul Castro ซึ่งได้ครองอำนาจในปีค.ศ. 2008 แต่ยังยึดแนวทางสังคมนิยมในการบริหารการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศ

ในทางเศรษฐกิจ สหรัฐอเมริกาได้ใช้นโยบายไม่ค้าขาย หรือที่เรียกว่า Embargo กับคิวบา เริ่มตั้งแต่ปีค.ศ. 1961 และหลังจากนั้นโซเวียตได้กลายเป็นประเทศคู่ค้าสนับสนุนให้คิวบายังดำรงสถานะทางเศรษฐกิจและสังคมอยู่ได้ตลอดมา แต่เมื่อสหภาพโซเวียต (USSR) ล่มสลายในราวปีค.ศ. 1989 เงินช่วยเหลือจากโซเวียตหมดไป คิวบาจึงต้องหาทางออกด้วยการเปิดเสรีทางเศรษฐกิจมากขึ้น โดยมีหลายแนวทาง

ในขณะเดียวกัน ทางการเมือง นานาชาติ สหรัฐ กลุ่มสหภาพยุโรปได้กดดันให้คิวบาเปลี่ยนไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ในปัจจุบันคิวบาได้รับการวิพากษ์มากในด้านสิทธิมนุษยชน ส่วนพันธมิตรอย่างเหนียวแน่นของคิวบาคือเวเนซูเอล่า (Venezuela) ภายใต้การนำของ Hugo Chavez

ความจำเป็นในการปฏิรูปเศรษฐกิจดูได้จากความเคลื่อนไหวดังนี้

- เมษายน ค.ศ. 2010 คิวบาได้เปลี่ยนสถานะของร้านตัดผมทำผมหลายร้อยร้าน ซึ่งดำเนินการโดยรัฐ ให้กลายเป็นสถานเสริมความงาม ดำเนินการโดยลูกจ้างเอง

- สิงหาคม 2010 ประธานาธิบดี Raul Castro ได้กล่าวว่า บทบาทของรัฐจะต้องลดลงในหลายๆส่วน โดยคนทำงานที่อยู่ในภาครัฐเดิม จะได้รับอนุญาตที่จะจัดตั้งหน่วยธุรกิจของตนเอง

- กันยายน 2010 คิวบาได้ประกาศแผนขั้นเฉียบขาดที่จะต้องปลดคนงานจำนวนมากจากหน่วยงานที่รัฐเคยเป็นเจ้าของ ทั้งนี้เพื่อฟื้นฟูก่อนที่เศรษฐกิจจะวินาศไปมากกว่านี้

No comments:

Post a Comment