ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org
Keywords: news, ข่าวเทคโนโลยี, Corsa ecoFlex, eurodiesel
เรียบเรียงจาก “Opel debuts 53-mpg Corsa ecoFLEX at Bologna Motor Show” นำเสนอโดย Autoblog Staff (RSS feed) เผยแพร่วันที่ 5 ธันวาคม 2010 เวลา 6:02PM Green
ที่งานแสดงรถยนต์นานาชาติที่เมือง Bologna ประเทศอิตาลี
บริษัทรถยนต์เยอรมันเชื้อสายอเมริกัน Opel Motors เปิดตัวรถยนต์ขนาดเล็ก Corsa ecoFlex ใช้เครื่องยนต์ดีเซลแบบ CDTI Turbodiesel คุยว่าสามารถใช้พลังงานได้ประหยัดเยี่ยมที่ระดับ 53 ไมล์ต่อแกลลอน (US) หรือ 22.3 กิโลเมตร/ลิตร และมีผลสร้าง CO2 emissions ต่ำที่ 95 กรัมต่อกิโลเมตร ให้พลังขับเคลื่อนได้ที่ 95 แรงม้า น้ำหนักเครื่องเบา ใช้ระบบประหยัดพลังงานแบบจอดแล้วเครื่องดับ (stop-start technology) มีระบบ 5 เกียร์เดินหน้า ทำให้ประหยัดพลังงานได้ดีมาก
ภาพ Corsa ecoFLEX รุ่น 2011
ในด้านอัตราเร่ง Corsa ecoFLEX ทำความเร็ว 100 กม.ภายใน 12.3 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 176 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เครื่องยนต์ให้พลังเพิ่มขึ้นร้อยละ 28 และประสิทธิภาพการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นจากเครื่องตัวเดิมร้อยละ 10
แต่อย่างไรก็ตามรถโฟล์คสวาเก้น VW Polo BlueMotion ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญในยุโรป มีประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีกว่าเล็กน้อย คือวิ่งได้ 25 กม./ลิตร และปล่อย CO2 ที่น้อยกว่าคือที่ 87 กรัม/กิโลเมตร
ภาพ VW Polo BlueMotion รุ่น 2011
ในยุโรป เราจะเห็นความพยายามในการใช้พลังงานน้ำมันที่จะมีอย่างจำกัด โดยการคิดค้นเครื่องยนต์แบบใหม่ และหันมาใช้น้ำมันดีเซลที่ผลิตและใช้ได้จากพืช 100 เปอร์เซ็นต์ แล้วเขาก็ไปหาทางคิดค้นอีกด้านหนึ่งทางวิทยาการชีวภาพ เพื่อหาทางปลูกพืชหรือสาหร่ายในน้ำจืดหรือทะเล เพื่อหาวิธีการผลิตน้ำมัน Biodiesel ที่มีต้นทุนต่ำและมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
ในอเมริกาเหนือ สหรัฐอเมริกาจะมองว่าน้ำมันดีเซลเป็นน้ำมันสกปรก สร้างมลพิษในอากาศ แม้ให้พลังงานต่อลิตรสูง แม้มีมวลที่หนาแน่นให้พลังงานมากว่าพวก Gasoline แต่เมื่อใช้กับเครื่องยนต์ที่จะใช้ในรถยนต์จะทำให้ออกตัวช้า ไม่เหมาะแก่รถยนต์ โดยเฉพาะพวกที่มีขนาดเล็ก
แต่ในยุโรป เขาได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ที่หลายคนเรียกว่า Eurodiesel ที่ขจัดปัญหาของเครื่องดีเซลแบบเดิมไปได้มาก คือ ทำให้สั่นไหวน้อยลง น้ำหนักเครื่องเบาลง ให้พลังงานได้มากขึ้น เพราะเขาใช้ระบบ Turbodiesel ทำให้เร่งเครื่องได้ดี รถออกตัวได้ดี ให้พลังขับเคลื่อนได้ดี โดยเฉพาะเมื่อวิ่งในระยะไกล แต่อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทยยังตื่นตัวในการใช้รถยนต์นั่งเครื่องดีเซลกันไม่มากนัก เครื่องส่วนใหญ่จึงใช้กับรถบรรทุกขนาด 1 ตัน ขนาดเครื่องยนต์ส่วนใหญ่จะเป็นขนาด 2.5 ลิตรขึ้นไป ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นบริษัทรถยนต์ที่มีฐานเทคโนโลยีจากญี่ปุ่น
เมื่อน้ำมันดีเซลกับเบนซิน หรือ Gasoline มีราคาใกล้เคียงกัน และน้ำมันดีเซลผลิตได้จากธรรมชาติร้อยเปอร์เซ็นต์ เครื่องยนต์ดีเซลจึงเป็นทางออกในการประหยัดและลดการใช้พลังงานจากปิโตรเลียมได้อย่างดีอีกทางเลือกหนึ่ง ซึ่งเราต้องติดตามเทคโนโลยีดังกล่าวในยุโรปต่อไป
No comments:
Post a Comment