โรงเรียนขนาดเล็ก :
สิ่งชำรุดทางประวัติศาสตร์
๑๒๑ ปีเศษ
ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ
ได้ทรงตั้งกระทรวงศึกษาธิการ(กระทรวงธรรมการ)มา
เปลวเทียนที่ส่องสว่างปกคลุมพื้นที่ชนบทไทยที่มี "ครู"
คือปูชนียบุคคลผู้นำทางการศึกษากับภาคประชาชนตามชนบทมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันจัดให้มีสถานศึกษาในรูปแบบต่างๆ
เช่น
ประชาอุปถัมภ์, ประชาอุทิศ,
ประชานุเคราะห์,ประชารักษ์,ราษฎร์บำรุง...เป็นต้น และยังมีชื่อบุคคล
หรือตระกูลที่บริจาคที่ดินสร้างโรงเรียนในชื่อแตกต่างกันไป
โรงเรียนจึงเป็น "มรดก"
ที่เป็นสมบัติสืบทอดสู่บุตรหลานรุ่นแล้วรุ่นเล่า ทุกท้องถิ่นทั่วไทยจึงมีคำว่า
"บวร : บ้าน วัด โรงเรียน" ที่เป็นสถาบันที่สง่างามที่สุดในชนบท
พลันที่นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา ได้เอ่ย
"การยุบโรงเรียนขนาดเล็ก" (ข้อมูลปัจจุบัน นร.น้อยกว่า ๑๒๐ คน มี ๑๔,๘๑๖ โรง / นร.น้อยกว่า ๖๐ คน มี ๕,๙๖๒ โรง)
ยังไม่สิ้นเสียงแถลง กระแสการต่อต้านดังอึกกะทึกครึกโครม...
ผมนั่งคุยแท็กซี่ (เสื้อแดงบ้านอยู่ร้อยเอ็ด)
ในกทม. คุยกับผู้ปกครองที่รักพรรคเพื่อไทย แลกเปลี่ยนทัศนะกับครูและองค์กรการศึกษา
........
กระแสการต่อต้านการยุบโรงเรียนขนาดเล็ก......เป็นห่วงโซ่คล้องเหนี่ยวกันเหนียวแน่น
ที่ขยายผลคัดค้านต่อต้านเปิดเผยอย่างรวดเร็วและถึงสติปัญญาคนรากหญ้าทุกหย่อมหญ้า..เพราะอยู่ในช่วงที่ผู้ปกครองกำลังกุลีกุจอหาเงิน
ขายทอง จำนองที่ มีรถเข้าไฟแนนซ์ เพื่อบุตรหลานของตนเองจะได้เข้าเรียนในปีการศึกษา
๒๕๕๖ อย่างมีความสุข
แม้กระทรวงศึกษาธิการจะมีผลงาน
"ชิ้นโบว์ดำ" ไม่ว่าจะเป็นการออกข้อสอบ O-NET, ผลการสอบ
O=NET, ปลูกฝังประชานิยมแนวใหม่ให้นักเรียนเช่นเปลี่ยนทรงผมใหม่
ลดการบ้าน การแต่งกายนักเรียนนักศึกษา,การลอกผลงานทางวิชาการของครู
และการทุจริตการสอบบรรจุ "ครูผู้ช่วย" จะถูกฝังกลบไประยะหนึ่งก็ตาม
มิน่าหล่ะที่อดีต "เสมา ๑" ศ.ดร.สุชาติ
ธาดาธำรงเวช ได้เคยออกมาระบุว่า "รัฐบาลยิ่งลักษณ์จะอยู่ไม่ถึงสิ้นปี ๒๕๕๕
พรรคเพื่อไทยจึงได้ปรับออก ให้นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา ซึ่งเป็นอดีตคนใกล้ชิด
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง มาทำหน้าที่ใน "วังจันทรเกษม" แทน
และได้แสดงบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.ที่รวยเกือบ ๓ พันล้าน
"ประหยัดงบประมาณ"
เป็นประเด็นที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการออกมาแถลง
โดยที่นโยบายประชานิยมที่รัฐบาลถลุงภาษีประชาชน เช่น
- รถยนต์คันแรก รัฐขาดรายได้ ๙ หมื่นล้านบาท
- ลดภาษีบ้านหลังแรก รัฐขาดรายได้ ๒ หมื่นล้านบาท
- แจกเสื้อแดงที่ได้รับผลกระทบจากการชุมชนุม รายละเกือบ ๘ ล้านบาท
- โครงการจำนำข้าวใช้งบประมาณ ๕.๙ แสนล้านบาท
- กู้ลงทุนรถไฟฟ้าความเร็วสูง ๒ ล้านล้านบาท
- ลดภาษีบ้านหลังแรก รัฐขาดรายได้ ๒ หมื่นล้านบาท
- แจกเสื้อแดงที่ได้รับผลกระทบจากการชุมชนุม รายละเกือบ ๘ ล้านบาท
- โครงการจำนำข้าวใช้งบประมาณ ๕.๙ แสนล้านบาท
- กู้ลงทุนรถไฟฟ้าความเร็วสูง ๒ ล้านล้านบาท
นี่เป็นเพียงตัวอย่าง "ประชานิยม"
แต่การศึกษาไทยในงบประมาณ ปี ๒๕๕๖
มีจำนวนเงินเพียง ๔๖๐,๔๑๑,๖๔๘,๘๐๐.๐๐ บาท ถึงเด็กจริงๆไม่เท่าไหร่
แค่เงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางศึกษาก็อ่วมอรทัย
รัฐบาลยังค้างจ่ายเงินครูที่ได้รับการเลื่อนและแต่งตั้งให้มีวิทยฐานะที่สูงขึ้น
ครูกลุ่มนี้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างยิ่ง
แล้วทำไม ? รัฐบาลไม่ใช้โรงเรียนขนาดเล็กจัดระบบการศึกษาทางเลือกที่หลากหลาย
กระจายอำนาจให้ครู และสิทธิชุมชนอย่างแท้จริง
รัฐบาลกลางไม่ต้องไปกำกับควบคุมดูแลเหมือนปัจจุบัน
และรัฐต้องตอบโจทย์ของรัฐธรรมนูญไทยให้ชัดเจน.....
"จัดการศึกษาทั่วถึง
มีคุณภาพและไม่คิดค่าใช้จ่าย"..
เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา
เปิดโอกาสทางการศึกษา และไม่เป็นการพรากเด็กจากชุมชนสู่เมือง
และปกป้องความล่มสลายของชุมชน
หากเสนาบดีมีชุดความคิดเท่านี้ชนบทไทยคงเหลือไว้แต่เพียง บว...(บ้าน : วัด )
เท่านั้นอย่างแน่นอน..
"โรงเรียนขนาดเล็ก" ไม่ใช่ "เศษขยะทางการศึกษา"
หรือซากปรักหักพังทางการศึกษาไทย เพราะคนจน ก็คือ "คนจนโลโซ"
ที่ไม่เหมือนลูกมหาเศรษฐีไฮโซที่เฮโลไปเรียนในโรงเรียนระดับอินเตอร์ ค่าเทอม ๔-๘
แสนบาทต่อเทอม .หรือผู้ปกครองและประชานชนชาวไทยจะนิ่งดูดายปล่อยไปตามยถากรรมให้โรงเรียนขนาดเล็กเป็น
"สิ่งชำรุดทางประวัติศาสตร์" ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร.
@ วัชรินทร์ สอนพูด ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖ @
ภาพ เมื่อเราพูดถึงเด็กนักเรียน มันรวมถึงนักเรียนที่มีความหลากหลาย และรวมถึงนักเรียนที่อยู่บนภูเขา ที่เขามีสิทธิได้รับการศึกษา ควบคู่กับการพัฒนาชุมชนด้วย (ประกอบ คุปรัตน์ - บรรณาธิการ)
ภาพ ชุมชนที่แวดล้อมโรงเรียนมีความต่างกัน เป็นอันมากอยู่ในที่ราบ แต่ก็มีโรงเรียนในชุมชนขนาดเล็ก ที่สวยงาม และชุมชนเหล่านี้ก็จะมีผลต่อการดูแลสภาพแวดล้อมในธรรมชาติอย่างมาก
(ประกอบ คุปรัตน์ - บรรณาธิการ)
(ประกอบ คุปรัตน์ - บรรณาธิการ)
ภาพ เมื่อพูดถึงการปิดโรงเรียนขนาดเล็ก มันไม่ใช่เพียงการปิดโรงเรียน แต่ผลกระทบคือการต้องย้ายเด็กนักเรียนไปยังโรงเรียนที่ใหญ่กว่า ที่อาจอยู่ห่างชุมชนของเขา และต้องกระทำเช่นนี้ทุกวัน เช้า และเย็น ทั้งไปและกลับ แล้วใครจะรับผิดชอบ
No comments:
Post a Comment