รถยนต์ไฟฟ้าขนาดจิ๋วโคลิบริ (Innovative mobility colibri)
ศึกษาและเรียบเรียงจาก Wikipedia, the
free encyclopedia
Keywords: การขนส่ง, การคมนาคม, transportation,
รถยนต์ไฟฟ้า, EV, electric car, Innovative Mobility Colibri,
Renault Twizy, เยอรมนี, ยุโรป
รถยนต์ไฟฟ้าขนาดจิ๋วโคลิบริ (Colibri)
ภาพ Colibri
รถยนต์ไฟฟ้าขนาดจิ๋ว (Micro car) นั่งได้ 1
คนจาก เจน่า ประเทศเยอรมนี จากงานแสดงรถยนต์ที่เมืองเจนีวา (Geneva) ปี ค.ศ. 2013 ประตูเปิดแบบปีกนก
ชื่อเรียกอื่นๆ
Also called |
|
เริ่มการผลิต
Production |
ผลิตออกสู่ตลาดได้ในปี 2014
from 2014 |
24 kW (32 hp), 60 N·m (40 ft·lb) synchronous motor
|
|
ระบบสองเกียร์อัตโนมัติ
two gear automatic transmission |
|
6.5 kW•h lithium
iron phosphate battery
|
|
ระยะวิ่ง
Range |
110 กม. (68.75 mi)
|
ความยาว
Length |
2,750 มม. (108.3 in)
|
ความกว้าง
Width |
1,180 มม. (46.5 in)
|
ความสูง
Height |
1,300 มม. (51.2 in)
|
440 กก. (970 lb)
|
โคลิบริ (Colibri)
เป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดจิ๋ว นั่งได้ 1 คน
พัฒนาโดยบริษัท Innovative
Mobility Automobile ที่เมืองจีน่า
ในประเทศเยอรมนี (Jena, Germany)
แนวคิดรถยนต์Vehicle concept
Colibri พัฒนาขึ้นจากฐานความจริง 3 ประการ คือ (1) คนทั่วไปใช้ยานพาหนะทุกวันในการขับรถไปทำงาน
โดยเป็นรถยนต์ส่วนตัว (2) ในการขับรถแต่ละวันเป็นการเดินทางโดยมีคนโดยสารน้อยกว่า
2 คน และ (3) ใช้ในการเดินทางของแต่ละวันน้อยกว่า
55 กิโลเมตร ดังนั้น การพัฒนายานพาหนะที่นั่งได้หนึ่งคน สามารถวิ่งได้เกิน
100 กิโลเมตร และใช้พลังงานได้ประหยัดที่สุด
นั่นเป็นเหตุผลทางเศรษฐกิจที่ดี
Colibri ถูกออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบา ด้วยใช้วัสดุที่ทำตัวถังจากแร่แมกนีเซียม
(Magnesium) ทำให้รถมีขนาดเล็ก แต่ให้นั่งได้หนึ่งคนได้สบายๆ
Colibri ได้รับการพัฒนาด้วยความร่วมมือจาก 5
บริษัทในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยสนับการวิจัยและพัฒนา
(Research & Development) พร้อมเงินสนับสนุนการวิจัยจากกระทรวงศึกษาธิการและวิจัยของเยอรมนี
ในปี ค.ศ. 2012
ได้พัฒนารถยนต์ต้นแบบสำเร็จ และคาดว่าจะเข้าสู่สายการผลิตได้ในปี
ค.ศ. 2014
การเปิดตัวที่เจนีว่าในปี
ค.ศ. 2013
2013 World Premiere in Geneva
เมื่อ Colibri
ได้ผ่านช่วงการพัฒนาต้นแบบ
ก็ได้นำไปเปิดตัวที่งานแสดงรถยนต์นานาชาติเจนีวาครั้งที่ 83 ในปี
ค.ศ. 2013 ซึ่งนับได้ว่าเป็นช่วงสำคัญในประวัติศาสตร์
ตัวถังBody
Colibri ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยของยุโรป เมื่อมีการชนกัน
(Euro-NCAP crash test) นับเป็นยานพาหนะคันแรกที่ผ่านมาตรฐานรุ่น L7e
แม้จะเป็นรถที่มีน้ำหนักตัวเบา เพียง 440 กิโลกรัม
นับรวมน้ำหนักแบตเตอรี่แล้ว
Colibri ใช้แบตเตอรี่ขนาดไม่ใหญ่ มีพลังไฟฟ้า
6.5 kWhrs สามารถวิ่งได้ระยะทาง 110 กิโลเมตรด้วยการชาร์จไฟครั้งเดียว และนอกจากนี้ ยังมีความสามารถชาร์จไฟได้อย่างรวดเร็วด้วยไฟฟ้าบ้านขนาด
220 V ก็สามารถชาร์จไฟได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ภายในเวลา 2
ชั่วโมง และชาร์จไฟได้ร้อยละ 80 ภายในเวลา 20
นาที นอกจากนี้รถ Colibri ยังมีระบบปิดภายใน
สามารถกันอากาศหนาวหรือยามฝนตกได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งต่างจากรถยนต์ไฟฟ้าคู่แข่ง Renault Twizy รถยนต์เยอรมนีคันนี้มีที่เก็บของ 180 ลิตร
ด้วยสมรรถนะดังกล่าว
ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมทำนายว่า Colibri จะมีส่วนแบ่งในตลาดอย่างสำคัญ
และในระดับนานาชาติ รถยนต์คันนี้สามารถดึงดูดความสนใจได้อย่างดี
สมรรถนะPerformance
ด้วยน้ำหนักตัวที่เบา
รถยนต์ไฟฟ้านี้สามารถวิ่งได้ 120/ชั่วโมง และมีอัตราเร่งที่ 100
กม.ภายในเวลาต่ำกว่า 10 วินาที นอกจากนี้
ส่วนที่ต่างจาก Renault Twizy ตรงที่มี 2 เกียร์ เมื่อรถวิ่งในระดับความเร็วสูง สามารถทดเกียร์
ทำให้ลดการใช้พลังงานลงได้
ราคาCosts
Colibri ตั้งราคาไว้ที่ 8,900 € คิดเป็นเงินไทย 343,184
บาท (1 Euro = 38.56 บาท) ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว แต่ไม่รวมค่าเช่าใช้แบตเตอรี่ไฟฟ้าแบบ Lithium iron phosphate ซึ่งต้องเสียค่าเช่าใช้รายเดือนที่ 55 € หรือ 2120 บาท และเมื่อคิดค่าไฟฟ้าที่ 0.20 € ต่อ kWh ค่าใช้จ่ายรถยนต์ต่อกิโลเมตรจะตกที่
0.17 € (6.55 บาท) ราคานี้เป็นการนับรวมค่าเสื่อมราคาของรถยนต์
ค่าเช่าแบตเตอรี่ ค่าบำรุงรักษา ค่าภาษี ค่าประกันภัย และค่าพลังงานแล้ว ในขณะที่รถยนต์ขนาดเล็กประหยัดพลังงานวิ่งในเมืองของเยอรมันที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง
จะตกที่กิโลเมตรละ 0.30 € (11.57 บาท)
ส่วนรถยนต์ขนาดเล็กทั่วไป (Compact car) จะมีค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตรที่
0.40 € (15.42 บาท) หรือแพงกว่าใช้รถยนต์ไฟฟ้า
Colibri กว่าเท่าตัว
การอ้างอิงReferences/Sources
^ [3] Publication of the German Federal
Ministry for Environment, Nature Conservation and Nuclear Safety; accessed on
May 22nd, 9:17 am
No comments:
Post a Comment