ประกอบ คุปรัตน์Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org
E-mail: pracob@sb4af.org
ศึกษาและเรียบเรียงจาก Wikipedia, the free encyclopedia
Keywords: History, politics, the United States, constitution, laws, ประวัติศาสตร์, การเมือง, สหรัฐอเมริกา, ตุลาการ, กฏหมาย, รัฐธรรมนูญ
ภาพ John Marshall ในปี ค.ศ. 1831 วาดโดย Henry Inman
ความนำ
สหรัฐอเมริกามีรัฐธรรมนูญมาพร้อมๆกับมีประเทศ
และรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีอำนาจประชาธิปไตยผ่าน 3 เสาหลัก
คือ (1) ฝ่ายบริหารอันมีประธานาธิบดี (President) เป็นผู้นำที่ผ่านการเลือกตั้งจากประชาชน (2) ฝ่ายนิติบัญญัติ
คือรัฐสภา ซึ่งอเมริกามีสองสภา คือสภาผู้แทนราษฎร และสภาสูง หรือ Senate และ (3) ฝ่ายตุลาการ ซึ่งมีอำนาจในการบังคับใช้กฎหมาย
ในปัจจุบัน ศาลสูงมีคณะบุคคลที่แต่งตั้งโดยประธานาธิบดี
แต่ต้องได้รับการรับรองโดยวุฒิสภา
ศาลสูงมีหน้าที่บริหารกระบวนการยุติธรรมให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญอันเป็นอำนาจสูงสุด
รัฐธรรมนูญสหรัฐนั้นมีบทที่เขียนเอาไว้ไม่มากนัก
แต่ที่สำคัญคือการตีความ ซึ่งกระทำโดยศาลสูงของสหรัฐ
ซึ่งเป็นการใช้อำนาจตามที่มีอยู่ในรัฐธรรมนูญ
และทำให้เกิดแนวทางในการใช้อำนาจหน้าที่
ตลอดจนสิทธิของประชาชนตามกรอบของรัฐธรรมนูญในยุคต่อๆมา
จอห์น มาร์แชล John Marshall
อยู่ในตำแหน่ง (In office)
January 31, 1801[1] – July 6, 1835 31 มกราคม ค.ศ. 1801 – 6 กรกฎาคม ค.ศ. 1835 |
|
เสนอเพื่อการแต่งตั้งโดย
Nominated by |
จอห์น แอดัมส์
John Adams |
ผู้ดำรงตำแหน่งก่อนหน้า
Preceded by |
|
ผู้ดำรงตำแหน่งต่อมา
Succeeded by |
|
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ (เทียบเคียง
4th United States Secretary of State |
|
อยู่ในตำแหน่ง
In office วันที่ 13 มิถุนายน 1800 – 13 มีนาคม 1801 June 13, 1800 – March 13, 1801 |
|
ประธานาธิบดี
President |
|
ผู้ดำรงตำแหน่งก่อนหน้า
Preceded by |
|
ผู้สืบทอดตำแหน่ง
Succeeded by |
|
ดำรองตำแหน่ง (In office)
4 มีนาคม ค.ศ. 1799 - 7 มิถุนาย ค.ศ. 1800 March 4, 1799 – June 7, 1800 |
|
ผู้ดำรงตำแหน่งก่อนหน้า
Preceded by |
|
ผู้สืบตำแหน่งต่อมา
Succeeded by |
|
เกิด
Born |
|
เสียชีวิตเมื่อ
Died |
|
สังกัดพรรคการเมือง
Political party |
พรรคนิยมรัฐบาลกลาง
(Federalist) |
คู่ครอง
Spouse(s) |
Mary Willis Ambler
|
การอาชีพ
Profession |
|
ศาสนา
Religion |
|
การรับราชการทหาร
Military service |
|
หน่วยงาน
Service/branch |
|
ตำแหน่ง
Rank |
|
การเข้าร่วมสงคราม
Battles/wars |
John Marshall อ่านว่า จอห์น มาร์แชล
เกิดเมื่อวันที่ 24 กันยายน ค.ศ. 1755
– 6กรกฎาคม ค.ศ. 1835 เป็นผู้พิพากษาและรัฐบุรุษชาวอเมริกัน
ผู้ได้มีส่วนกำหนดทิศทางของกฎหมายรัฐธรรมนูญสหรัฐอเมริกา และทำให้ศาลสูง (Supreme
Court)
ได้เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์กลางอำนาจหนึ่งในสามของสหรัฐอเมริกา
Marshall ได้ทำหน้าที่เป็นประธานผู้พิพากษาศาลสูงสหรัฐ
(Chief Justice
of the United States) ทำหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม ค.ศ. 1801 จนกระทั่งเสียชีวิตเมื่อปี
ค.ศ. 1835 เขาเคยทำหน้าที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในรัฐสภาสหรัฐ
(United
States House of Representatives) ในวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ. 1799 ถึงวันที่ 7 มิถุนายน ค.ศ. 1800 และทำหน้าที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
ซึ่งในสหรัฐเรียกว่า Secretary
of State โดยทำงานในสมัยประธานาธิบดี John Adams ซึ่งทำหน้าที่ในช่วงวันที่ 6 มิถุนายน ค.ศ. 1800 – 4มีนาคม ค.ศ. 1801 หรือเพียงประมาณ 1 ปี
Marshall มาจากรัฐเวอร์จิเนียในสมัยที่ยังเป็นเมืองในปกครองของอังกฤษ
และเป็นหนึ่งในผู้นำของพรรค Federalist Party
เขาเป็นประธานศาลสูงสหรัฐที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ
นับเป็นเวลากว่า 3 ทศวรรษ
นับว่ามีอายุการทำงานมากเสียกว่าอายุพรรคFederalist Party ที่เขามีส่วนร่วมสร้าง
และได้ทำหน้าที่อันสำคัญในการวางรากฐานของระบบศาลของอเมริกา
หน้าที่อันสำคัญของเขาคือการทำหน้าที่ศาลของรัฐบาลกลาง
ใช้อำนาจทางตุลาการ (judicial review)
โดยตรวจสอบความชอบธรรมในการใช้อำนาจของฝ่ายบริหารที่อาจก้าวข้ามอำนาจที่กำหนดในรัฐธรรมนูญ
มาร์แชลทำหน้าที่ของเขาอย่างเข้มแข็ง
และทำให้ระบบศาลสูงของสหรัฐมีความเป็นอิสระและมีสถานะอันมั่นคงในฐานะอำนาจหนึ่งในสาม
คือฝ่ายบริหารอ้นมาประธานาธิบดี ฝ่ายนิติบัญญัติ
อ้นหมายถึงวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร และฝ่ายอำนาจตุลาการ หรือศาล
ศาลสูงภายใต้การนำของ Marshall ได้ให้การตัดสินที่สำคัญเกี่ยวกับอำนาจของรัฐบาลกลาง (federalism)
ซึ่งเป็นดุลยภาพระหว่างอำนาจของรัฐบาลกลาง (federal government) และรัฐต่างๆที่เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐ และที่สำคัญเขาได้แสดงให้เห็นอำนาจสูงสุดของกฎหมายรัฐบาลกลาง
(federal law) ที่ต้องอยู่เหนืออำนาจของกฎหมายรัฐ (State
law) งานการตัดสินของเขา
ได้กลายเป็นแนวทางการกำหนดบทบาทและอำนาจของหน่วยงานและองค์การต่างๆที่ทำให้เกิดความชัดเจนในการปกครองประเทศในยุคสมัยนั้น
และสำหรับยุคต่อๆมา
มาร์แชลได้ทำหน้าที่หัวหน้าศาลสูง (Chief
Justice) อยู่ในช่วงของประธานาธิบดีอันเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารถึง 6
คน อันได้แก่ John Adams
ผู้แต่งตั้งเขาในช่วงปลายสมัย, Thomas
Jefferson ประธานาธิบดีที่มาจากหัวหน้ากลุ่มที่เป็นพรรคดีโมแครต, ตามมาด้วย James
Madison, James
Monroe, John
Quincy Adams ผู้เป็นบุตรชายของประธานาธิบดีคนที่สอง
และ Andrew Jackson
และความที่เขายืนยงทำหน้าที่เป็นหัวหน้าศาลสูงในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทางการเมืองในอเมริกา
จึงเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบการเมืองของประเทศ
ในระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่งอยู่ ฝ่ายประธานาธิบดีหลายคนไม่พอใจการทำงานของมาร์แชล
แต่เพราะมาร์แชลที่ทำหน้าที่อย่างกล้าหาญและยืนหยัดในหลักการของระบบศาล ในช่วงความขัดแย้งทางความคิดของสองกลุ่ม
กลุ่มหนึ่งคือพวกยึดหลักประชาธิปัตย์ที่รัฐบาลที่ดีที่สุดคือรัฐบาลกลางที่เล็กที่สุด
และอำนาจสำคัญอยู่ที่ประชาชน และรัฐ (States) ไม่ใช่รัฐบาลกลาง
ส่วนอีกฝ่ายหนึ่ง คือพวก Federalist เป็นพวกที่เห็นว่าสหรัฐจะก้าวหน้าได้ต้องมีรัฐบาลกลางที่แข็งแกร่ง
ต้องมีระบบการป้องกันประเทศที่เข้มแข็ง มีระบบการเงิน
ธนาคารที่ทำให้มีความเชื่อมั่นในการที่อเมริกาจะต้องทำการค้ากับทางยุโรป มาร์แชลต้องทำหน้าที่อย่างยุติธรรมและอย่างมีหลักการ
จึงทำให้เขาทั้งอยู่ในหน้าที่ได้อย่างยืนยาว
และเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับทั้งระบบศาลและการเมืองของสหรัฐอเมริกา
ระหว่างที่เขาทำหน้าที่ ได้เขียนคำตัดสินกว่า 1,000
รายการ และเขียนเหตุผลของเขาเองถึง 519 รายการ
สิ่งเหล่านี้เป็นรากฐานของการตัดสินในระยะต่อๆมา
และเป็นสิ่งที่นักกฏหมายต่างๆต้องนำไปศึกษา
ประธานาธิบดีจอห์น แอดัมส์
ผู้แต่งตั้งมาร์แชลสู่ตำแหน่งหัวหน้าศาลสูง ได้กล่าวคำชมเขาว่า “ของขวัญสำคัญที่ผมมอบให้กับประชาชนชาวสหรัฐคือจอห์น
มาร์แชล ซึ่งผมมีความภูมิใจที่สุดในชีวิตของผม”
No comments:
Post a Comment