Wednesday, January 19, 2011

รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Cars)

รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Cars)

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

Keywords: การบริหาร, การจัดการ, ความเชี่ยวชาญ, Specialization, division of labor

ภาพ รถยนต์ไฟฟ้า REVA ของอินเดีย เป็นรถยนต์ขนาดเล็กจิ๋ว ใช้วิ่งในเมือง ภาพนี้ถ่ายในกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร

รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Car) ซึ่งเรียกย่อๆว่า EV (Electric Vehicles) ซึ่งอาจมีชื่อเรียกอย่างอื่นๆว่า รถเสียบปลั๊ก (plug-in) รถยนต์ใช้พลังแบตเตอรี่ (battery powered) จัดเป็นรถยนต์ (automobile) ที่ขับเคลื่อน (propelled) ด้วยพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า (electric motor) รถยนต์ไฟฟ้ามีศักยภาพที่จะลดมลพิษในเมือง (city pollution) โดยที่ในตัวของมันเองไม่มีการเผาไหม้เลย (zero tail pipe emissions) การที่จะก่อมลภาวะหรือไม่จึงเป็นเรื่องที่ขึ้นกับวิธีการผลิตไฟฟ้าที่จะมาใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าว่าได้มาอย่างไร ในปัจจุบันดังในประเทศสหรัฐ ไฟฟ้าร้อยละ 30 มาจากพลังงานที่ไม่ต้องเผาไหม้คาร์บอน ซึ่งนับว่ายังน้อย แต่ในประเทศอื่นๆ ดังเช่นประเทศสหราชอาณาจักรจะลดได้ร้อยละ 40, ประเทศจีนซึ่งยังมีการใช้ถ่านหินอยู่มาก ลดร้อยละ 19 และอาจลดได้เพียงร้อยละ 1 ในประเทศเยอรมัน

เมื่อเราเรียกรถยนต์ไฟฟ้า หรือ Electric car นั้นจะแตกต่างจากรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าอื่นๆ เช่น Hybrid Electric Cars หรือรถยนต์ไฟฟ้าผสมกับเครื่องยนต์เผาไหม้ปกติ หรือรถยนต์ไฟฟ้าลูกผสมแบบเสียบปลั๊ก (Plug-in Electric Vehicles – PHEV) คือใช้แบตเตอรี่เป็นพลังงานที่ชาร์ตไฟด้วยการเสียบปลั๊กร่วมกับเครื่องยนต์แบบเผาไหม้

ภาพ รถยนต์ไฟฟ้า Nissan Leaf จากค่าย Nissan-Renault ที่ใช้พลังจากแบตเตอรี่ โดยไม่มีเครื่องยนต์เผาไหม้ และไม่ปล่อยควันเสียเลย

ภาพ รถยนต์ไฟฟ้าลูกประสม Toyota Prius ที่จะได้เริ่มมีผลิตในประเทศไทย จัดว่าเป็นรถยนต์ที่ให้ประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันสูงที่สุดในปัจจุบัน วิ่งได้ 21.5 กิโลเมตร/ลิตร มีเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร และมีแบตเตอรี่ที่รับไฟฟ้าเหลือจากเครื่องยนต์ แล้วเรียกมาใช้สมทบได้กับเครื่องยนต์

ภาพ รถยนต์ไฟฟ้าลูกผสมแบบเสียบปลั๊ก Chevy Volt ซึ่งเป็นแบบที่เรียกย่อๆว่า PHEV ใช้พลังงานจากไฟฟ้าในแบตเตอรี่ของรถยนต์ในช่วงแรก อันรับพลังงานมาจากระบบเสียบปลั๊ก และเมื่อไฟหมดเหลือประมาณร้อยละ 20 เครื่องยนต์ขนาด 1.4 ลิตรจะทำงานปั่นไฟฟ้าเติมให้กับระบบ แต่ยังใช้พลังไฟฟ้าหมุนล้ออยู่

รถยนต์ไฟฟ้าจะมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์อย่างมาก เพราะความได้เปรียบที่ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะในเมือง (city pollution) ลดการพึ่งพาการใช้น้ำมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นที่คาดกันว่าราคาน้ำมันจะสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

หลายประเทศทั่วโลกได้ประกาศสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ดังสหรัฐได้ประกาศใช้เงิน 2,400 ล้านเหรียญจากงบรัฐบาลกลางเพื่อสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่สำหรับใช้กับรถยนต์ไฟฟ้า จีนประกาศว่าจะใช้เงิน 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า Carlos Ghosn ผู้บริหารใหญ่ของบริษัท Nissan ได้ทำนายว่าในปี ค.ศ. 2020 ร้อยละ 10 ของรถยนต์ในโลกจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่วิ่งโดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่อย่างเดียว และจากการศึกษาอื่นๆ ทำนายว่าในปี ค.ศ. 2020 จะมีรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (green cars) ออกสู่ตลาดหนึ่งในสามของรถยนต์สู่ตลาดทั้งหมด

No comments:

Post a Comment