Tuesday, July 31, 2012

ประธานาธิบดีบิล คลินตัน ประสบความสำเร็จอย่างไร


ประธานาธิบดีบิล คลินตัน ประสบความสำเร็จอย่างไร

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

ศึกษาและเรียบเรียงจาก Wikipedia, The Free Encyclopedia

Keywords: Politics, Governance, การเมือง, การปกครอง, Leadership, ความเป็นผู้นำ, Presidency, Bill Clinton, Hillary Clinton

“If you live long enough, you'll make mistakes. But if you learn from them, you'll be a better person. It's how you handle adversity, not how it affects you. The main thing is never quit, never quit, never quit.”

หากท่านมีอายุยืนยาวพอ ท่านก็จะทำผิดพลาด แต่ถ้าหากท่านเรียนรู้จากมัน ท่านก็จะเป็นคนที่ดีขึ้น ความสำคัญอยู่ที่ว่าเราจัดการกับปัญหาทุกข์ยากอย่างไร ไม่ใช่ว่ามันมันทำให้เราเจ็บปวดเพียงไหน ประเด็นสำคัญคือ อย่ายอมแพ้ อย่ายอมแพ้ อย่ายอมแพ้

บิล คลินตัน (Bill Clinton)
ภาพ บิล คลินตัน (Bill Clinton)

วิลเลียม เจฟเฟอร์สัน “บิล” คลินตัน (William Jefferson "Bill" Clinton) หรือเรียกกันอย่างคุ้นเคยว่า “บิล คลินตัน” เขาเกิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1946 เป็นนักการเมืองอเมริกันผู้ได้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 42 ของสหรัฐอเมริกาสองสมัย จากช่วงปี ค.ศ. 1993 ถึง 2001 เขาเข้ารับตำแหน่งเมื่ออายุได้ 46 ปี นับเป็นประธานาธิบดีที่อายุน้อยที่สุดเมื่อเข้ารับตำแหน่งเป็นอันดับที่สามของอเมริกา เขาเข้ารับตำแหน่งในช่วงเมื่อจบสงครามเย็น (Cold War) และนับเป็นประธานาธิบดีคนแรกจากคนช่วงสมัย “ทารกสะพรั่ง” (Baby boomer generation) คลินตันถูกขนานนามว่าเป็นดีโมแครตรุ่นใหม่ (New Democrat) นโยบายหลายๆอย่างของเขาจัดได้ว่าเป็นพวกยึดถือปรัชญาทางเลือกที่สาม เดินสายกลาง (centrist Third Way) ในการบริหารประเทศ

คลินตันเกิดและเติบโตในรัฐอาร์แคนซอว์ (Arkansas) ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของสหรัฐ เขาเคยเป็นผู้นำนักศึกษาและเป็นนักดนตรีที่มีฝีมือ เป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ (Georgetown University) เป็นนักศึกษาประเภทเข้าสังคม เป็นสมาชิกสมาคมกรีก Phi Beta Kappa และเป็นทั้งปัญญาชน เขาได้รับทุน Rhodes Scholarship เพื่อไปศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด (University of Oxford) ในประเทศอังกฤษ สหราชอาณาจักร เขาแต่งงานกับ ฮิลลารี รอดแฮม คลินตัน (Hillary Rodham Clinton) ซึ่งต่อมาได้เป็นวุฒิสมาชิกจากรัฐนิวยอร์คในช่วงปี ค.ศ. 2001-2009 และฮิลลารี่ คลินตันได้เป็นผู้เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในคณะรัฐมนตรีของประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า ในปี ค.ศ. 2009

คลินตันทั้งสองได้รับปริญญาทางกฎหมายจากมหาวิทยาลัยเยล (Yale Law School) ซึ่งเป็นช่วงที่เขาได้พบรักกัน ในช่วงที่บิล คลินตันได้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐอาร์แคนซอว์ เขาได้ยกเครื่องระบบการศึกษาของรัฐ และได้ทำหน้าที่เป็นประธานของสมาคมผู้ว่าการรัฐแห่งชาติ (National Governors Association
คลินตันได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีในปี ค.ศ. 1992 ชนะประธานาธิบดี George H.W. Bush (ผู้เป็นบิดา) คลินตันได้เป็นประธานาธิบดีในยุคที่อเมริกามีการขยายตัวในช่วงไม่มีสงครามที่ยาวนานที่สุด เขาเป็นประธานาธิบดีที่ได้ลงนามในสัญญาข้อตกลงการค้าเสรีแห่งอเมริกาเหนือ (North American Free Trade Agreement - NAFTA) จากการเรียกร้องโดยกลุ่มสิทธิของเกย์ในการผลักดันให้ฝ่ายทหารยอมรับเกย์ เขาใช้นโยบาย “ไม่ต้องถาม ไม่ต้องตอบ” (Don't ask, don't tell) นับเป็นการพบครึ่งทางสำหรับทหารที่เป็นเกย์หรือเลสเบียน คือในทางกฎหมาย การเป็นทหารยังไม่อนุญาตสำหรับเกย์ แต่ยึดหลักว่าเกย์ก็ไม่ต้องพูด และฝ่ายอื่นๆก็ไม่ต้องนำมาเป็นประเด็น ซึ่งนับเป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน ก่อนที่ทางการทหารจะยอมรับเกย์เข้าเป็นทหารได้อย่างเปิดเผย

เขาไม่ประสบความสำเร็จในการผลักดันปฏิรูปโปรแกรม “สุขภาพดีถ้วนหน้า” (Health care reform) ด้วยฝ่ายพรรครีพับลิกัน (Republicans) เป็นฝ่ายกุมเสียงข้างมากในวุฒิสภาในช่วงการเลือกตั้งปี ค.ศ. 1994 นับเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปีที่พรรคตรงกันข้าม คือรีพับลิกันได้กลับมาครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา แต่ในอีก 2 ปีต่อมา คลินตันก็ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีเป็นสมัยที่สอง นับเป็นครั้งแรกหลังจากประธานาธิบดีแฟรงคลิน ดี รูสเวลท์ (Franklin D. Roosevelt) แห่งพรรคดีโมแครต ที่ได้รับเลือกเข้าดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีเป็นสมัยที่สอง เมื่อเขาได้เข้าดำรงตำแหน่งอีกสมัย เขาได้ผ่านกฎหมายปฏิรูปสวัสดิการสังคม (welfare reform) ผ่านกฎหมายโปรแกรมประกันสุขภาพของรัฐสำหรับเด็ก (State Children's Health Insurance Program) ที่ทำให้เด็กหลายล้านคนได้ประโยชน์จากโครงการนี้

แต่ในช่วงต่อมา เขาได้ถูกพิจารณาคดีที่อาจทำให้ถูกขับออกจากตำแหน่งฐานขัดขวางกระบวนการยุติธรรม ในข่าวอื้อฉาวที่เขามีเพศสัมพันธ์กับนักศึกษาฝึกงานในทำเนียบขาว แต่จากการออกคะแนนเสียงของวุฒิสภา เขาก็หลุดรอดมาได้ และได้ทำหน้าที่ประธานาธิบดีจนครบสมัย

สำนักงบประมาณของวุฒิสภา (Congressional Budget Office) ได้รายงานว่างบประมาณในช่วงปี ค.ศ. 1998 และ 2000 เป็นช่วงที่รัฐบาลอเมริกามีรายได้เหนือรายจ่าย

คลินตันจากตำแหน่งประธานาธิบดีด้วยคะแนนความยอมรับที่สูงที่สุดสำหรับประธานาธิบดียุคหลังสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา และหลังจากนั้น เขาได้ทำงานด้านการพูดในที่สาธารณะ และงานส่งเสริมด้านมนุษยธรรม งานป้องกันโรคเอดส์ (AIDS) และปัญหาโลกร้อน (global warming)

No comments:

Post a Comment