Keywords: การเมือง, การปกครอง, ยุโรป, อิตาลี, EU,
Europe, Italy, Silvio Berlusconi
ศึกษาและเรียบเรียงจากข่าว “Silvio
Berlusconi sentenced for tax fraud.” BBC News, เมื่อวันที่ 26 October
2012 Last updated at 17:21 GMT
ภาพ ซิลวิโอ เบอร์ลูสโคนี (Silvio Berlusconi) อดีตนายรัฐมนตรีประเทศอิตาลี
ศาลเมืองมิลาน (Milan) ในประเทศอิตาลี
ได้ตัดสินความผิดของอดีตนายกรัฐมนตรีของอิตาลี ซิลวิโอ เบอร์ลูสโคนี (Silvio
Berlusconi) วัย 75 ปี โทษหนีภาษี จำคุก 4 ปี แต่ด้วยกฎหมายอภัยโทษ โทษจึงลดลงเหลือ 1 ปี
เบอร์ลูสโคนีกล่าวประณามการตัดสินของศาลครั้งนี้ว่า เป็นการคุกคามทางศาล
และเขาจะยื่นอุทธรณ์เพื่อสู้ในศาลชั้นต่อไป
เบอร์ลูสโคนีและคนอื่นๆถูกกล่าวหาว่าซื้อลิขสิทธิ์ภาพยนตร์สหรัฐด้วยราคาที่เกินจริงด้วยการซื้อสินค้าจากบริษัทต่างประเทศที่อยู่ภายใต้อำนาจของเขา
การตัดสินครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ได้มีการลงโทษ ในหลายๆคดีของเขาที่ถูกกล่าวหากระทำความผิดทางด้านธุรกิจ
ในอดีต เรื่องที่ถูกฟ้องร้องมักจะได้สามารถเคลียร์ได้ หรือไม่ก็เรื่องหมดอายุความ
ในปี ค.ศ. 1997
เขาได้รับโทษภาคทัณฑ์ในการทำบัญชีการเงินปลอม แต่ในศาลอุทรณ์เรื่องก็ถูกยกฟ้องไป
หลังจากประกาศผลของการตัดสิน หุ้นของ Mediaset
TV company ที่เขาเป็นเจ้าของในตลาดหลักทรัพย์ที่เมืองมิลานได้ตกลงมาทันทีร้อยละ
3
เบอร์ลูสโคนีได้ประกาศในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าเขาจะลงจากการเป็นหัวหน้าพรรค
Freedom Party และจะไม่สมัครชิงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในปีหน้า
ในช่วงที่เบอร์ลูสโคนีมีอำนาจในสองทศวรรษที่ผ่านมา
เขาได้แก้ไขกฎหมายที่ทำให้เขาได้รับการยกเว้นโทษอาญาที่เกี่ยวกับคอรัปชั่นหลายๆประการที่เขาถูกกล่าวหา
แต่การที่เขาได้รับการลดหย่อนโทษจาก 4 ปี เหลือ 1 ปีนี้
เป็นผลมาจากการปรับนโยบายโดยพรรคฝ่ายซ้ายกลางที่เป็นรัฐบาลคู่ปรับของเขา
ที่ต้องการลดจำนวนนักโทษในคุกลง
ข้อมูลจาก Wikipedia
ซิลวิโอ เบอร์ลูสโคนี (Silvio Berlusconi) เกิดเมื่อวันที่
29 กันยายน ค.ศ. 1936 เป็นนักการเมืองและเจ้าพ่อสื่อ
ผู้ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี 3 สมัยจากช่วง ค.ศ. 1994 ถึง 1995, 2001 ถึง
2006 และ 2008 ถึง 2011 เขาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Mediaset
ยักษ์ใหญ่ด้านสื่อในอิตาลี และเจ้าของทีมฟุตบอล A.C. Milan
เขานับเป็นนายกรัฐมนตรีที่ครองตำแหน่งยาวนานที่สุดในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา
และนับเป็นคนที่สามในประวัติศาสตร์ที่นับแต่ที่ได้มีการรวมประเทศอิตาลีเป็นหนึ่ง
ตามหลังเพียงจอมเผด็จการ Benito Mussolini และ Giovanni Giolitti
จากการจัดอันดับของนิตยสาร Forbes เบอร์ลูสโคนีจัดเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดอันดับที่
169 ของโลก
โดยมีทรัพย์สินมูลค่า 177,000 ล้านบาท
การก้าวขึ้นสู่อำนาจทางการเมืองของเบอร์ลูสโคนีเป็นไปอย่างรวดเร็ว
เขาได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกคณะที่ปรึกษา (Member of the
Chamber of Deputies) เป็นครั้งแรก
และได้รับแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1994
หลังจากที่ได้มีการจัดตั้งพรรค
Forza Italia ได้พรรคได้กลายเป็นเสียงข้างมากในเวลาเพียง 3 เดือน
แต่คณะรัฐบาลของเขาก็ต้องล้มลงด้วยเวลาเพียง 9 เดือน
ด้วยความที่ตกลงกันไม่ได้ในพรรคร่วมรัฐบาล ในการเลือกตั้งอย่างรวดเร็วในเดือนเมษายน
ค.ศ. 1996 เบอร์ลูสโคนีแพ้พรรคฝ่ายซ้ายกลางที่นำโดย
Francesco Rutelli การเมืองของเบอร์ลูสโคนีเป็นไปในแบบของอิตาลี คือลุ่มๆดอนๆ เข้าๆออกๆ
การดำรงตำแหน่งและทำหน้าที่ของเขามักเป็นข้อถกเถียงในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนของธุรกิจกับการเมืองของเขา
เบอร์ลูสโคนีถูกวิจารณ์ว่าพรรคร่วมรัฐบาลของเขาคือ nativist Lega Nord เป็นพวกเผด็จการมาเกิดใหม่ เขาเคยกล่าวยกย่องจอมเผด็จการ Mussolini เขาเคยเดินทางไปลิเบียในปี ค.ศ. 2008 สมัยกัดดาฟีเรืองอำนาจ
เพื่อขอโทษและจ่ายค่าชดเชยสงครามที่อิตาลีเคยทำกับลิเบียในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
ในช่วงที่เขาครองอำนาจ
เขามีเรื่องอื้อฉาวที่เกี่ยวกับทางเพศกับหญิงค้าประเวณีที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
หลังจากเขาเสียเสียงข้างมากในสภาและปัญหาด้านเศรษฐกิจที่หนักหนายิ่งขึ้นด้วยวิกฤติหนี้สินของชาติในยุโรป
(European debt crisis) เบอร์ลูสโคนีได้ประกาศลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายน
ค.ศ. 2011 แต่ตามการรายงานของสื่อ
เขาต้องการกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง
และเตรียมตัวที่จะเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อรองรับการเลือกตั้งใหญ่ที่จะมีขึ้นในปี ค.ศ.
2013
No comments:
Post a Comment