Friday, July 15, 2011

ประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสันประกาศเดินทางไปเยือนจีน

ประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสันประกาศเดินทางไปเยือนจีน

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

Nixon announces visit to communist China

Jul 15, 1971:

ในวันที่ 15 กรกฎาคม ค.ศ. 1971 ในการออกอากาศทางโทรทัศน์และวิทยุ ประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสันได้ทำให้อเมริกาตกตลึงเมื่อเขาประกาศจะไปเยือนประเทศจีนคอมมิวนิสต์ในปีถัดไป การประกาศนี้เป็นจุดเปลี่ยนของสัมพันธภาพสหรัฐกับจีน ซึ่งในขณะนั้นจีนเป็นคอมมิวนิสต์อย่างกร้าว และเป็นการเปลี่ยนนโยบายการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาด้วยเช่นกัน

ประธานาธิบดีนิกสันมักไม่ยินดีกับการยื่นมือไปยังจีนมากนัก ตั้งแต่จีนคอมมิวนสิต์ได้ก้าวขึ้นสู่อำนาจในปี ค.ศ. 1949 และนิกสันเองจัดได้ว่าอยู่ในกลุ่มหัวอนุรักษ์เป็นพวกวิจารณ์อเมริกันที่จะมีความสัมพันธ์กับจีน ชื่อของเขามักจะเชื่อมโยงกับการต่อต้านคอมมิวนิสต์ และเขาเป็นส่วนหนึ่งของพวกปลุกให้กลัวแดง (Red Scare) ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งเป็นช่วงที่อเมริกันเองมีการเข้าไปสอบสวนพวกถูกสงสัยมีหัวเอนเอียงเข้ากับฝ่ายคอมมิวนิสต์ในแผ่นดินอเมริกา

ในราวปี ค.ศ. 1971 มีหลายองค์ประกอบที่ผลักดันให้นิกสันเปลี่ยนทัศนะต่อการติดต่อกับจีน ประการแรกคือสงครามเวียดนาม เขาได้สัญญากับชาวอเมริกันว่า เขาจะนำสันติภาพกลับสู่อเมริกาอย่างมีเกียรติ อย่างที่เป็นคำขวัญหาเสียงว่า “Peace with Honor” เขาต้องการให้อเมริกาได้ถอนทหารและยุติสงครามในเวียตนามที่ก่อความแตกแยกภายในประเทศอย่างมาก ในขณะนั้นที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงของเขาคือนายเฮนรี่ คิสซิงเจอร์ (Henry Kissinger) ได้มองเห็นหนทางออกสำหรับทางตันในประเทศ ประการที่สอง เนื่องจากฝ่ายจีนเองได้มีการแตกความสัมพันธ์กับสหภาพโซเวียต (Soviet Union) จีนเองก็ไม่ต้องการให้ประเทศของตนเองต้องถูกโดดเดี่ยว จีนต้องการมีพันธมิตรและคู่ค้า ฝ่ายสหรัฐเองก็ต้องการให้จีนถอยห่างจากเกาหลีเหนือซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับจีน และทำให้ข้อตกลงสันติภาพในเกาหลีเป็นไปได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ Kissinger มองว่าจีนอาจกลายเป็นพันธมิตรมหาอำนาจร่วมกับอเมริกาในการต้านทานสหภาพโซเวียต ซึ่งเป็นคู่ปรปักษ์กับอเมริกาในยุคสงครามเย็น (Cold War) Kissinger เรียกนโยบายการต่างประเทศนี้ว่า realpolitik ซึ่งเป็นการเมืองที่เน้นการเจรจากับมหาอำนาจอื่นๆ ในลักษณะปฏิบัตินิยม (Pracmatists) เพื่อลดความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ แทนที่จะเน้นการยึดฐานลัทธิและจริยธรรมทางการเมือง

นิกสันได้ดำเนินนโยบายสัมพันธภาพกับจีน โดยเขาได้เดินทางไปเยือนจีนในปี ค.ศ. 1972 ซึ่งนับเป็นการเดินทางครั้งประวัติศาสตร์ (Journey for Peace, 1972) ซึ่งเป็นการนำไปสู่การค่อยๆปรับสัมพันธภาพระหว่างจีนกับสหรัฐ แม้การเดินทางไปเยือนในครั้งนี้มีส่วนทำให้นิกสันได้รับคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นหลังจากร่วงหล่นไป และทำให้เขาได้รับการเลือกตั้งกลับมาเป็นประธานาธิบดีในสมัยที่สองในปี ค.ศ. 1972 แต่การเดินทางไม่ช่วยทำให้นิกสันประสบความสำเร็จในนโยบายระยะสั้น ที่จะยุติสงครามเวียดนามอย่างมีเกียรติตามที่ประกาศและอย่างที่ Kissinger คาดหวังไว้

ภาพ ผู้นำจีนคอมมิวนิสต์ เหมา เจอตุง (Mao Zedong) จับมือกับประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ริชาร์ด นิกสัน (Richard Nixon)

ภาพ เฮนรี่ คิสซิงเจอร์ (Henry Kissinger) และโจว เอ็นไหล (Zhou Enlai) กำลังฟังประธานเหมา (Mao Zedong) ของจีน ถ่ายเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1973 (Courtesy AP)

จีนเองดูเหมือนจะไม่มีอิทธิพลเหนือเวียดนามเหนือมากนักในการเจรจายุติสงคราม จนทำให้อเมริกากว่าจะถอนตัวออกจากสงครามเวียดนามได้ก็ในปี ค.ศ. 1973 ความสัมพันธ์กับจีนไม่ได้ช่วยทำให้ความสัมพันธ์กับสหภาพโซเวียตดีขึ้น หรือลดความร้อนแรงของสงครามเย็น แต่การเดินทางไปเยือนจีนของนิกสันได้พิสูจน์จนในปัจจุบันว่ามีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนทิศทางการดำเนินนโยบายต่างประเทศ เป็นการปูทางประธานาธิบดีสหรัฐคนต่อๆมาที่จะใช้หลัก Realpolitik ในการดำเนินนโยบายต่างประเทศ

No comments:

Post a Comment