Monday, July 18, 2011

คนยามเมื่อโกรธนั้นเปิดปาก แต่ว่าปิดตา

คนยามเมื่อโกรธนั้นเปิดปาก แต่ว่าปิดตา

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
Pracob@sb4af.org

สุภาษิตและคำกล่าว (Proverbs, quotes) anger, tolerance, problem solving, etc.

เมื่อเช้ามีข่าวชายวัย 63 ปี ทะเลาะกันคนวัย 30 กว่าปี เพราะทั้งสองขับรถปาดกันไปมา จนท้ายสุดรถเกิดชนกัน แล้วทั้งสองฝ่ายก็ลงจากรถมาชกต่อยกัน โดยไม่เคยรู้จักกันมาก่อน คนที่นั่งรถมาด้วยกันห้ามปรามว่าอย่าลงไปเดี๋ยวมีเรื่อง แต่ทั้งสองฝ่ายก็ไม่ฟัง เมื่อชกต่อยกัน คนขับรถคนหนุ่มกว่าคว้ามีดออกมาแทงชายสูงอายุจนถึงแก่ความตาย

คนขับรถปาดกันบนถนน แล้วมีเรื่องชกต่อย จนแทงกันเสียชีวิต เป็นเพราะอารมณ์โกรธชั่ววูบของทั้งคู่แท้ๆ เรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ บางทีเป็นการยิงกันแล้วหลบหนี บางครั้งเป็นการชกต่อยกันด้วยมือเปล่า แล้วก็ไปเสียค่าปรับ

มหาตมะ คานธี (Mohandas Gandhi) มหาบุรุษของอินเดียกล่าวว่า “Anger and intolerance are the enemies of correct understanding.” แปลได้ความว่า “ความโกรธและความไม่อดกลั้นเป็นศัตรูของความเข้าใจในสรรพสิ่ง” คนเมื่อโกรธนั้น ไม่ได้ใช้เหตุผล มองเห็นก็เพียงแต่มองเห็นบางส่วน แต่ไม่ได้ครองสติ และไม่มีโอกาสใช้ปัญญา ที่จะตัดสินใจหรือดำเนินการอย่างฉลาด มีปัญญาเป็นคนฉลาดแต่ปล่อยให้ความโกรธเป็นเจ้าเรือน ก็พลาดกลายเป็นโง่ เพราะความโกรธทำให้ไม่สามารถใช้ปัญญาได้อย่างมีผล

คนโบราณผู้มากด้วยประสบการณ์ในยุคโรมันคนหนึ่ง คือคาโต ผู้อาวุโส (Cato, the elder) กล่าวว่า “An angry man opens his mouth and shuts his eyes.” ซึ่งแปลว่า “คนยามเมื่อโกรธนั้นเปิดปาก แต่ว่าปิดตา”

ความโกรธทำให้เสียงานใหญ่ เช่น ไปเจรจาธุรกิจมูลค่าหลายร้อยล้านบาท เมื่อมีการเจรจาต่อรองกัน แต่ฝ่ายหนึ่งเกิดอารมณ์ ไม่เจรจาต่อไป ทั้งๆที่อีกฝ่ายต้องการให้เรื่องจบ และทำสัญญากันได้ ท้ายสุดทั้งสองฝ่ายก็เสียโอกาสที่จะทำให้ธุรกิจสำคัญได้ตกลงกันได้ ในเรื่องเช่นนี้ เขาจึงต้องมีคนกลางที่จะประสานงานระดับหนึ่ง เพื่อให้เรื่องใกล้ยุติที่สุด เพราะคนกลางหรือนายหน้านั้น เขามีผลประโยชน์ที่ต้องทำให้เรื่องจบ และตกลงกันได้ แต่คู่เจรจาทั้งสองฝ่ายนั้น มองแต่เฉพาะผลประโยชน์ด้านตนเอง และไม่สามารถมองไปยังอีกฝ่ายอย่างรับรู้ข้อมูล และหาข้อยุติได้

ในด้านความขัดแย้งระหว่างสองประเทศ จำเป็นที่จะต้องมีวิธีการทางการทูต เมื่อมีอารมณ์ ก็พักเรื่องไว้ก่อน เมื่อทั้งสองฝ่ายเย็นลงแล้ว จึงค่อยหันกลับมาเจรจากันใหม่ ให้ทั้งสองฝ่ายมีตัวแทนที่เขามีประสบการณ์ในเรื่องการฑูตและการเจรจามาทำหน้าที่ประสานงานก่อน และอีกด้านหนึ่งคือต้องใช้เวลาที่จะเจรจา หากครั้งเดียวไม่จบ ก็ต้องเปิดโอกาส และอดทนที่จะเจรจากันหลายๆรอบ แต่ไม่ใช่ไปโกรธกัน ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ ใช้อาวุธและความรุนแรงเข้าทำร้ายกัน

1 comment:

  1. ผมเป็นบ่อยครับ เรื่องขับรถเนี่ย

    ReplyDelete