Wednesday, July 27, 2011

คนหนึ่งตายกลายเป็นขนมปังสำหรับอีกคน

คนหนึ่งตายกลายเป็นขนมปังสำหรับอีกคน

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

มีสุภาษิตชาวดัชหนึ่งกล่าวว่า “De een z'n dood is de ander z'n brood". แปลเป็นภาษาอังกฤษอย่างตรงตัวได้ว่า "One person's death is another's bread". นั่นคือ “ความตายของคนๆหนึ่งจะเป็นขนมปังสำหรับอีกคน”

หากคนเคยเลี้ยงปลานิลหรือ Nile Tilapia จะทราบธรรมชาติของปลาพันธุ์นี้อย่างหนึ่ง คือมันสามารถออกลูกขยายพันธุ์ได้เป็นจำนวนมาก เช่นเคยปล่อยปลาเลี้ยงไว้ในบ่อจำนวนหนึ่ง พอปลาโตขึ้นขนาดสัก 100 กรัม มันก็มีความสามารถในการสืบพันธุ์ต่อไปได้แล้ว ปลาก็จะยิ่งแน่นบ่อ อาหารก็จะไม่พอเลี้ยง คนเลี้ยงปลาเขาจะปล่อยปลากินเนื้ออย่างพวกปลาช่อน ปลาดุก เพื่อปล่อยให้มันกินลูกปลาที่เกิดใหม่ ซึ่งจะทำให้คุมปริมาณปลาในบ่อไม่ให้มีมากจนเกินไป ปลาที่เหลืออยู่ก็จะมีอาหารตามธรรมชาติเพียงพอที่จะได้เติบโตต่อไปตามธรรมชาติ หากปลายังมีมาก เขาจะตีอวนจับปลาบางส่วนไปขาย หรือไปปล่อยในบ่ออื่นๆ เพื่อควบคุมปริมาณปลาให้มีจำนวนพอเหมาะกับขนาดของบ่อปลา ซึ่งจะทำให้ไม่ต้องหาอาหารมาให้ปลามากจนเกินไป ปลามีอาหารตามธรรมชาติกินพอ ปลาก็จะเติบโตขึ้นได้ตามธรรมชาติ

ในทางธุรกิจ บางครั้งธุรกิจต่างประสบปัญหา เพราะมีการทำกิจการในลักษณะอย่างเดียวกันจำนวนมาก แต่ความต้องการของคนซื้อมีอย่างจำกัด คนผลิตหรือเสนอขายพยายามจะขายแข่งกันอย่างไร ก็มีแต่จะขาดทุนหนักขึ้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมีบางคนทนไม่ไหว ต้องเลิกกิจการไป แล้วที่เหลืออยู่ก็เริ่มที่จะพอขายสินค้านั้นๆให้อยู่ไปได้ คนที่จะไปรอดคือคนที่มีความอดทน มีสายป่านที่ยาวกว่า ปล่อยให้คนที่ไม่สามารถอดทนได้ต้องเลิกกิจการไป

บางครั้งรัฐบาลก็จะช่วยทำอย่างเดียวกัน คือซื้อผลิตผลนั้นส่วนหนึ่งจากเกษตรกร แล้วส่งไปขายนอกประเทศ เพื่อลดอุปทานภายในประเทศ เพื่อรักษาระดับราคาให้พอเหมาะ ไม่ตกต่ำจนเกินไป

ในโลกของธุรกิจที่ต่างอยู่กันได้นั้น เพราะมีความสมดุลกันในด้านอุปสงค์ (Demands) และอุปทาน (Supplies) หากอุปสงค์เท่าเดิม แต่อุปทานมีมากขึ้น เมื่อนั้นก็จะเกิดการแข่งขันกันมาก ราคาก็จะลดลง แม้บางครั้งอุปทานเกินสมดุลไปเพียงร้อยละ 5 แต่นั่นก็จะทำให้เกิดความไม่สมดุลย์ได้แล้ว ในเรื่องนี้ บางทีเขาจึงมีสภาหอการค้าของเมือง เพื่อช่วยกำกับธุรกิจกันเอง โดยมีการแลกข้อมูลแก่กัน หากมีกิจการใดเริ่มเปิดมากเพียงพอแล้ว ก็จะแจ้งให้คนที่จะเข้ามาทำกิจการนั้นๆได้ทราบ เพื่อชะลอไม่ให้มีสินค้าและบริการนั้นๆในตลาดมากเกินไป

ในต่างประเทศ เมืองในแบบเดิม (Old town) มีร้านค้ามาก แต่ไม่มีที่จอดรถเพียงพอ เพราะในสมัยก่อน คนมาซื้อของมาจากคนในเมือง ไม่ได้มีการใช้รถยนต์กันมากเหมือนในปัจจุบัน แต่เมืองยุคใหม่เปลี่ยนไป คนต่างย้ายไปอยู่กรอบนอก แล้วมีการใช้รถยนต์กันมากขึ้น เมื่อเมืองไม่มีที่จอดรถพอ ก็ไม่มีคนมาซื้อของในเมือง ต่างไปซื้อของตามศูนย์การค้าสร้างใหม่ที่มีที่จอดรถและบริการอื่นๆที่สะดวกกว่า การจะฟื้นฟูเศรษฐกิจในเมืองแบบเก่า เขาจึงซื้อกิจการร้านค้าที่ประสบปัญหา แล้วทุบอาคารทิ้ง เพื่อทำเป็นที่จอดรถ กิจการอาจลดลงเหลือเพียงร้อยละ 50 ของเมื่อเคยเจริญ แต่ก็พอทำให้พัฒนาธุรกิจให้ดำรงค์อยู่ได้

ดังนั้นสุภาษิตโบราณของดัชจึงสอนไว้ว่า "One person's death is another's bread". นั่นคือ “ความตายของคนๆหนึ่งจะเป็นขนมปังสำหรับอีกคน” เมื่อเกิดความไม่สมดุล เขาอาจแก้ได้โดยการซื้อกิจการของบางคน แล้วก็ปิดกิจการนั้นเสีย เพื่อให้ส่วนที่เหลืออยู่พอจะดำเนินธุรกิจต่อไปได้

No comments:

Post a Comment