Keywords: iPolitics, i-Politics, information, intelligence,
imagination, idea, การพัฒนาการเมือง, การเมืองภาคประชาชน,
การเมืองยุคข้อมูลข่าวสาร, พรรคเพื่อไทย, พรรคประชาธิปัตย์,
ความนำ
ผมไม่เห็นด้วยกับการเมืองแบบ “ประชานิยม” (Populism)
ของทักษิณ ยิ่งลักษณ์ และพรรคเพื่อไทย เพราะมันจะถึงทางตัน
เป็นวิกฤติที่หากปล่อยทิ้งไว้นาน ก็จะทำให้ชาติบ้านเมืองล่มจม
ดังที่ได้เกิดขึ้นในอาร์เจนติน่า (Argentina) เวเนซูเอลล่า (Venezuela) หรือทั้งกลุ่มสมาชิกสหภาพยุโรป (European Union – EU) ซึ่งขาดวินัยการเงินการคลัง แต่ขณะเดียวกัน
ก็ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการทางการเมืองอย่างไม่มียุทธศาสตร์
ดังที่พรรคประชาธิปัตย์ประสบมาตลอด
ผมไม่ใช่นักการเมือง
และไม่ใช่คนเรียนมาทางรัฐศาสตร์ แต่ข้อดีคือผมไม่ต้องไปแก้ตัวให้ใคร หรือเชียร์พรรคใด
สามารถคิดใหม่อย่างอิสระได้ แล้วการเมืองอย่างที่ผมอยากเห็นคืออะไร
การเมืองยุค 3Is หรือ iPolitics
การเมืองไทยต้องก้าวข้ามยุคทักษิณ
เศรษฐกิจไทยต้องเลยยุค Thaksinomics จะทำเช่นนั้นได้
การเมืองไทยต้องก้าวสู่การเมืองยุคใหม่ การเมืองแบบ iPolitics หรือการเมืองที่ประกอบด้วย 3 I ที่สำคัญ
I – Information การเมืองที่ต้องใช้และพัฒนาข้อมูลเพื่อการเมืองยุคใหม่
แม่นยำ เที่ยงตรง และรวดเร็ว การเมืองอย่างที่ปล่อยให้ สำนักโพล สื่อสิ่งพิมพ์หลัก
สื่อโทรทัศน์กระแสหลักหลอก ประโคมข่าว สร้างกระแสครั้งแล้วครั้งเล่า ดังนี้
เรียกว่าสังคม Mis-information เป็นตัวอย่างการใช้ข้อมูลในทางผิดและเลวร้ายที่สุดต่อสังคม
ภาพ George Gallup ผู้เริ่มการสำรวจทางการเมืองของสหรัฐอเมริกา ที่ใช้หลักวิชา แม้ใช้กลุ่มตัวอย่างน้อยกว่า แต่แสดงว่าได้ใช้การเลือกอย่างฉลาด ทำให้สามารถทำนายผลทางการเมืองได้อย่างแม่นยำกว่าสำนักสำรวจที่ใช้กลุ่มตัวอย่างที่ใหญ่กว่า
I – Intelligence การเมืองที่ต้องดำเนินการอย่างชาญฉลาด
นักการเมืองต้องมีความสามารถในการใช้สติปัญญา วิเคราะห์สถานการณ์อย่างฉลาด
และประชาชนก็ต้องใช้สติและปัญญาในการกลั่นกรองข้อมูลทางการเมืองอย่างฉลาดด้วยเช่นกัน
ตัวอย่าง การมีระบบคณะรัฐมนตรีที่ไม่สามารถตัดสินใจได้อย่างอิสระ
การประชุมแบบมีผู้นำตัวจริง Skype ออนไลน์เข้ามากำกับการประชุม
ในขณะที่ผู้นำอย่างเป็นทางการ ไม่มีความสามารถในการทำงานอย่างแท้จริง บริหารเหมือน
“ปกครองแบบหลังม่านไม้ไผ่” ในสมัยพระนางซูสี ไทเฮา ของจีน
สั่งการจักรพรรดิองค์น้อยที่นั่งบัลลังก์อยู่หน้าม่าน
ภาพ การชุมนุมทางการเมืองเป็นเรื่องปกติ และเป็นสิทธิของประชาชนที่จะแสดงออก แต่ที่สำคัญ รัฐบาลและฝ่ายการเมืองจะต้องรู้ว่า ประชาชนกำลังประสบปัญหาอะไร มีความต้องการอย่างไร
การเมืองไทย
ต้องมีหนทางในการบริหารอย่างใช้สติปัญญา เป็นอิสระ
และทำงานได้อย่างเป็นเหตุเป็นผลมากกว่าที่เป็นในปัจจุบัน
อีกด้านหนึ่ง Intelligence คือเรื่องของการสืบข้อมูลลึก แม้ไม่ใช่ข้อมูลลับที่ผิดกฎหมาย ในต่างประเทศ
Intelligence หมายถึงงานที่เกี่ยวกับหน่วยสืบราชการลับ ดัง CIA
หรือ Central Intelligence Agency ของสหรัฐอเมริกา
ก็คือหน่วยสืบราชการลับ
I – Imagination การเมืองที่ต้องมี “จินตนาการ”
การเมืองใหม่ ต้องก้าวสู่การแสวงหาแนวคิดใหม่ทางการเมือง
การเมืองยุคประชานิยมถึงทางตัน แต่ขณะเดียวกัน การเมืองที่คอยแต่มีปฏิกิริยา (Reactionary)
ดังที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ใช้มาตลอด คอยแต่ปฏิเสธความคิดใหม่ตลอดเวลา
แต่ก็ไม่มีความคิดอะไรใหม่เอง ดังนี้ย่อมจะไม่ใช่ทางเลือกสำหรับอนาคต
จินตนาการ หรือ ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) เปรียบเหมือนคิดจะทำอะไร ก็ต้องมีนักออกแบบ คิดหาวิธีการไปก่อน
และคิดไปในหลายๆแนว มองในหลายๆแง่มุม คิดอย่างไม่ยอมจำนนต่อทางตัน นักบริหารและคนเป็นผู้นำที่ดี
ต้องพร้อมที่จะนำเสนอสิ่งใหม่ต่อสังคมตลอดเวลา แม้เมื่อถึงจุดตัดสินใจนั้น
ก็ต้องเลือกทางออกที่มีหลายด้านนั้น แต่เพียงทางเลือกที่ดีที่สุด
แล้วจึงดำเนินการอย่างตั้งใจและเต็มความสามารถไปตามเส้นทางนั้นๆ
ภาพ ข้าว (Rice) เป็นสินค้าที่มีความสำคัญต่อคนไทยในฐานะผู้บริโภค ตลอดจนการเป็นสินค้าออกที่สำคัญ แต่นโยบายข้าว เช่นเดียวกับ นโยบายการเกษตรอื่นๆ ต้องดำเนินการอย่างชาญฉลาด และมองเห็นทางออกทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
ภาพ ความขัดแย้งทางการเมืองในระดับเผาบ้านเมือง ดังการจราจลในกรุงเทพฯ ปี พ.ศ. 2553 การเผาอาคารศูนย์การค้า Central World ราชประสงค์ กทม.
ภาพ ความขัดแย้งทางการเมืองใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การจะมีทางออก ต้องไม่ใช่ปล่อยให้เป็นการดำเนินการโดยฝ่ายราชการ ทหาร และพลเรือน มันต้องการการนำจากฝ่ายการเมือง การเจรจา และทางออกที่สร้างสรรค์
ภาพ อีกภาพหนึ่งของการเผาทำลาย ในความขัดแย้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
แนวคิด iPolitics ดูจะเป็นเรื่องกว้างๆ
แต่ผมจะเสนอแนวคิดนี้ไปเรื่อยๆ โดยแสดงความคิดเห็นทางการเมืองพร้อมตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมที่ได้เกิดขึ้นและเห็นชัดเจน
ผมยินดีรับฟังท่านผู้รู้ ที่จะเห็นด้วยและเห็นต่าง เพราะเราคงจะได้เรียนรู้จากความเห็นเหล่านี้
แล้วร่วมกันเรียนรู้
No comments:
Post a Comment