ทำไมเราจึงต้องไปประท้วงรัฐบาลที่ข้างถนน
Keywords: ความเป็นผู้นำ, ความขัดแย้ง, การเมือง การปกครอง, กฏหมายนิรโทษกรรม, พรรคประชาธิปัตบ์, พรรคเพื่อไทย, กรณ์ จาติกวณิช, (Korn Chatikavanij)
ผมได้เดินทางไปเยี่ยมและบันทึกภาพการชุมนุมที่ข้างทำเนียบรัฐบาล
และตามมาจนถึงที่แยกอุรุพงษ์ ผมมีเหตุผลของการไปประท้วง แต่ไม่สามารถตอบอย่างเป็นเหตุเป็นผล
มีข้อมูล กระชับ และเข้าใจได้ง่าย จนกระทั่งได้อ่านสิ่งที่เขียนโดยกรณ์
จาติกวณิชย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง บทความไม่มีหัวเรื่องนี้ยาวไม่เกิน 2
หน้า ควรที่คนต้องหาเหตุผลว่า
ทำไมจึงต้องไปประท้วงรัฐบาลในกรณีนิรโทษกรรม และอื่นๆ ได้ชัดเจน – ประกอบ คุปรัตน์
(20 ตุลาคม 2556
เรียนรู้เศรษฐกิจและการเมือง จากกรณ์ (Korn
Chatikavanij)
ภาพ กรณ์ จาติกวณิช (Korn Chatikavanij)
Korn Chatikavanij เขียนเมื่อวันเสาร์ที่ 19
ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา ลองอ่านดูครับ
ดึกวันเสาร์นี้ขอคุยเรื่องการเมืองครับ
ในชีวิตการเมืองผม ผมว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุดเรื่องหนึ่ง
เพราะเป็นเรื่องของเราทุกคนจริงๆ ค่อยๆอ่านตามผมนะครับ
หลายคนอาจจำได้
เมื่อสองเดือนก่อนผมนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล
พอดีมีการลงคะแนนพรบ.นิรโทษกรรมที่ทางเพื่อไทยยืนยันว่ามีเจตนาช่วยผู้มาชุมนุมเท่านั้น
ไม่ช่วยแกนนำและไม่ช่วยคุณทักษิณ แต่พวกเราคุ้นเคยกับแนวทางเขาแลยได้เตือนไว้ตั้งแต่วันนั้นว่า
เขาเสนอแค่นั้นในชั้นหลักการ
แต่จะต้องมีการแก้ไขในชั้นกรรมาธิการก่อนกลับมาพิจารณาในชั้นสุดท้ายแน่นอน
ก็คือเปลี่ยนจากการเดินไปถึง 'กลางซอย' ให้ไปถึง 'สุดซอย' นั่นเอง
จึงเป็นเหตุให้ผมต้องขออนุญาตหมอพ่วงถุงนํ้าเกลือมาสองถุงเพื่อใช้สิทธิผมคัดค้านในสภาฯ
คำว่า 'สุดซอย' ก็คือการช่วยคุณทักษิณให้พ้นผิดในทุกกรณี
ทั้งๆที่ความผิดของเขาไม่ได้้เกี่ยวกับการเมือง
แต่เป็นความผิดที่มาจากการทุจริตคอร์รัปชั่นทั้งสิ้น
ผมขอยืมคำพูดของคุณอภิสิทธิ์ที่เรียกร่างสุดท้ายของกฎหมายนี้ว่าไม่ได้เพียงไปสุดซอย
แต่ทะลุซอยออกถนนใหญ่เลยครับ สาเหตุเพราะกฎหมายเขียนว่า ทุกคดีที่คตส.ชี้ว่าผิด
ให้ถือว่าพ้นผิดทันที
ซึ่งหมายรวมถึงอีกหลากหลายคดีนอกเหนือจากการโกงที่ดินถนนรัชดาฯ
ซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาจำคุกคุณทักษิณไปแล้ว และทุกคดีล้วนแล้วแต่เป็นคดี 'โกงระดับชาติ' ทั้งสิ้น อย่างเช่น
๑. คดีร่ำรวยผิดปกติ ทำให้
ป.ป.ช.ยื่นฟ้องต่องศาลฎีกา ว่า
พ.ต.ท.ทักษิณแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ
เนื่องจากไม่ได้แจ้งการถือครองหุ้นบริษัทชินคอร์ปฯไว้ ถึง 6
ครั้ง ซึ่งศาลฎีกาได้ออกหมายจับไว้
๒. คดีทุจริตปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยหรือเอ็กซิมแบงก์
ให้กับรัฐบาลพม่า มูลค่า 4,000 ล้านบาท ซึ่ง
พ.ต.ท.ทักษิณเป็นจำเลยเพียงคนเดียว ซึ่งศาลฎีกาได้ออกหมายจับไว้
๓.
คดีทุจริตออกพระราชกำหนดแปลงค่าภาษีสัมปทานกิจการโทรคมนาคมเป็นภาษีสรรพสามิตเพื่อเอื้อประโยชน์ธุรกิจบริษัทชินคอร์ปฯ
ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณเป็นจำเลยเพียงคนเดียว และศาลฎีกาได้ออกหมายจับไว้
๔. คดีทุจริตจัดซื้อจัดจ้างโครงการบ้านเอื้ออาทร
ที่มีนายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์กับพวก
เป็นผู้ถูกกล่าวหา (ทำให้เราเข้าใจว่าทำไมคุณวัฒนาจึงมีบทบาทอย่างมากในความพยายาม 'ปรองดอง')
๕.คดีทุจริตธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้บริษัทกฤษดามหานคร
ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ และนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของ พ.ต.ท.ทักษิณกับพวก
เป็นผู้ถูกกล่าวหา
และจะมีผลแม้แต่ในคดีที่เพิ่งมีคำพิพากษาไปคือเรื่องการโกงกรณีรถดับเพลิงกทม.
6,800 ล้านบาท
เพราะเป็นคดีที่คตส.ได้เป็นผู้ชี้ผิดแต่แรกด้วย!!
พูดง่ายๆก็คือถ้ามองว่าคตส. ลำเอียง
ก็อย่างน้อยควรให้มีการพิจารณาคดีใหม่ แต่ไม่ครับ นี่ให้ถือว่า 'พ้นผิด' ในทุกกรณีไปเลย!!
และที่ทะลุซอยก็คือ
ร่างกฎหมายฉบับนี้เขียนว่าในกรณีคดีของเสื้อแดงที่มาชุมนุมนั้น 'การนิรโทษกรรมไม่ก่อให้เกิดสิทธิ' ซึ่งหมายความว่าจะไปฟ้องร้องทวงสิทธิจากการถูกจำคุก
ฯลฯ ไม่ได้
แต่กฎหมายกลับเขียนให้การนิรโทษกรรมในกรณีทุจริตจะมีสิทธิที่ทวงได้!
ตรงนี้สะท้อนความโลภของทักษิณจริงๆ
เพราะไม่ใช่เพียงต้องการให้พ้นผิด แต่ต้องการเงิน 46,000
ล้านที่ถูกยึดจากการทุจริตแผ่นดินคืนอีกต่างหาก
และสะท้อนความเห็นแก่ตัวที่ไม่ให้สิทธิชาวเสื้อแดงที่ออกมาเสี่ยงตายเพื่อตน
แต่กลับสงวนสิทธิไว้ให้กับตัวเอง
แต่ที่จะมีผลกับพวกเราโดยตรงทุกคนคือ 46,000 ล้านที่ต้องคืนนั้น เป็นการคืนด้วยเงินพวกเรานะครับ
วิธีคือการจัดสรรงบประมาณแผ่นดินเอาเงินภาษีเราคืนให้แก่คนที่ศาลพิพากษาไปแล้วว่าโกงแผ่นดิน
และที่แย่กว่านั้นก็คือต้องบวกดอกเบี้ยให้เขาด้วย
ในอัตราศาลแพ่งที่ 7.5% ซึ่งสูงกว่าอัตราปกติที่ประชาชนธรรมดาได้ในการฝากเงิน
รวมแล้วค่าดอกเบี้ยถ้านับจากวันที่ถูกยึดก็ประมาณ 14,000
ล้าน
รวมแล้วเตรียมจ่ายภาษีให้กับคุณทักษิณได้เลยครับ
รวม 60,000,000,000 บาท ก็คือคนไทยทุกคนเฉลี่ยประมาณคนละ 1,000 บาท ไม่ว่าคุณจะเป็นเสื้อแดง เหลือง ฟ้า ยากจนหรือรํ่ารวยแค่ไหนก็ตาม
และจารึกไว้ว่าเราจะเป็นประเทศแรกในโลกประชาธิปไตยที่มีการออกกฎหมายยกผิดในคดีทุจริต
เพียงเพราะคนโกงมีเสียงข้างมากในสภาฯ
ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าเราคิด 'เลยตามเลย' กับเรื่องนี้
ก็จะสะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอสุดขีดของสังคมไทย เราจะรอพึ่งศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความว่ากฎหมายนี้ขัดต่อหลักนิติธรรมหรือไม่ก็ได้
แต่เราต้องแสดงออกในฐานะเจ้าของประเทศว่าเรายอมรับไม่ได้ที่จะมีคนทำตัวเหนือกฎหมายอย่างนี้
ถ้าทุกคนเงียบ ลูกหลานเราจะต้องอยู่ในประเทศแบบไหน คิดให้ดีครับ
ถ้าเรื่องนี้ปล่อยให้เขาทำได้ ผมว่าก็เท่ากับเราพร้อมยอมเขาในทุกเรื่อง
No comments:
Post a Comment