คุยกับวิชิต – เรื่องประชาธิปไตยสู่ชุมชน
Keywords: การเมือง, politics, การปกครอง, governance, การตัดสินใจ,
decision making, ประชาธิปไตย, Democracy, การเลือกตั้ง, election, การศึกษา, education,
วิชิต ยุกตะทัต, Wichit Yuktadatta
วิชิตเพื่อนรัก
ผมขอใช้คำถามที่เพื่อนถามแทนวงเสวนา เพื่อใช้พูดคุยต่อไปครับ ผมขอใช้เวทีนี้สื่อไปยังนิสิตนักศึกษาที่สุรินทร์,
กปปส. สุรินทร์, และเพื่อนๆทาง Facebook ด้วยครับ
หวังว่าเราจะใช้เวทีเหล่านี้ในการพูดคุยร่วมกัน
Wichit Yuktadatta > เป็นไปได้ไหมครับ ถ้าจะพัฒนาความรู้สิทธิ/หน้าที่
ตามระบอบประชาธิปไตย ให้ประชาชนทุกๆหมู่บ้านเขัาใจอย่างจริงจัง/ต่อเนื่อง
ในแนวทางเดียวกัน มีเป้าหมายและระยะเวลาประสพความสำเร็จชัดเจน
ประกอบ > ผมเห็นด้วยที่ประชาธิปไตยต้องอาศัยการพัฒนาด้านการศึกษา
แต่มิใช่เพียงการสอนหลักทฤษฎีและตามหนังสือกันในชั้นเรียนปกติ
การที่เด็กๆและเยาวชนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่จะจัดให้มีขึ้นก็เป็นเรื่องที่สำคัญ
(Democracy and Education)
หลักของการศึกษาเพื่อประชาธิปไตย คือ หลัก 3H
กล่าวคือ
Head = คือเรื่องให้มีความรู้
คือรู้หลักการประชาธิปไตย อะไรใช่ อะไรไม่ใช่ ดังเช่น หลักอย่างง่ายที่สุด
ประชาธิปไตยอาศัยการเลือกตั้ง (Election) แต่การเลือกตั้งไม่ใช่สัมปทานที่จะเข้าไปโกงกินกัน
หรือการที่คนส่วนใหญ่ไปกดขี่คนส่วนน้อย ดังเช่น หลักMajority rules and
minority right. คนส่วนใหญ่ได้ครองอำนาจ
แต่ต้องคำนึงถึงสิทธิของคนส่วนน้อยด้วย ดังในกรณีคนส่วนใหญ่มีเสียง 15 ล้านเสียง คนกลุ่มน้อยมีเสียง 12-13 ล้านเสียง
และมีที่ไม่ไปออกเสียงอีก 13-15 ล้านคน
Heart = คือให้มีทัศนคติ
ความรักไม่รัก ชอบไม่ชอบ ที่เกี่ยวกับประชาธิปไตย ดังเช่น รักที่จะรับใช้สังคม
แต่เกลียดการเอาเปรียบกัน การเล่นพรรคเล่นพวก
การช่วยเหลือเอื้อประโยชน์ญาติพี่น้อง ที่ทั้งผิดกฎหมาย และทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมในวงราชการ
และงานสาธารณะต่างๆ และ
Hand = คือให้มีทักษะ
(Skills) ที่จะดำรงชีวิตในระบอบประชาธิปไตยที่ต้องฟังกัน รู้จักฟัง
รู้วิธีการ มีทักษะที่จะหาข้อยุติจากความหลากหลายทางความคิด
และดำรงอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข เป็นต้น
สำหรับชุมชน การได้มีระบบเลือกตั้งกำนัน อบต.
อบจ. และต่อไปจนถึงการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด (Provincial Governors)
จะถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ ในสหรัฐอเมริกา
บทบาทการนำจะอยู่ที่ผู้ว่าการรัฐ (State Governors) และนายกเทศมนตรีเมืองใหญ่และเล็ก
(Mayors) เสียจะมากกว่าประธานาธิบดีของประเทศ เพราะผู้ว่าการรัฐและนายกเทศมนตรีเป็นส่วนที่รับใช้ใกล้ตัวกับประชาชนแต่ละคนแต่ละครอบครัวมากกว่า
การกระจายอำนาจการปกครอง (Decentralization)
นอกจากจะเป็นตัวคานอำนาจกับส่วนกลางแล้ว จะเป็นตัวให้การศึกษาทางตรงแก่ประชาชนและท้องถิ่นที่สำคัญ
หากเลือกกันไม่ดี ชาวบ้านก็จะรับผลจากการเลือกตั้งนั้นๆ ทันทีและโดยตรง
ปัญหาใหญ่ที่เราประสบขณะนี้ คือการรวบอำนาจสู่ส่วนกลาง แล้วโกงกินกันมโหฬารด้วยวงเงินระดับหลายแสนล้าน
และเป็นล้านๆบาทกันที่ส่วนกลาง
แต่การจะส่งเสริมประชาธิปไตยของประเทศให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันนั้นไม่จำเป็น
และตรงกันข้าม ฝ่ายการเมือง ราชการ
และธุรกิจการเมืองอยากใช้ช่องทางนี้เพื่อเอาเปรียบฝ่ายตรงกันข้ามอยู่แล้ว หลักคือต้องให้มีความหลากหลายในข้อมูลข่าวสาร
อาจมีจริงบ้าง เท็จบ้าง แต่ประชาชนที่พัฒนาแล้วจะมีวิจารณญาณในการเลือกรับฟัง
และกลั่นกรองความน่าเชื่อถือของข่าวสาร
ทางที่ดีคือการทำให้ระบบสื่อสารมวลขนเป็นเสรีอย่างแท้จริง
(Free Mass Media) ซึ่งในปัจจุบัน สื่อโทรทัศน์เสรี วิทยุ
และหนังสือพิมพ์ถูกซื้อและหรือครอบงำโดยฝ่ายมีอำนาจอยู่แล้ว ทางที่ดีคือทำให้สังคมมีหลักประกันว่าท้องถิ่นและชุมชนมีระบบสื่อสารที่เสรี
และรวมไปถึงการมีระบบสื่อสารใหม่ ที่ปิดกั้นได้ยาก อย่างเช่น โทรทัศน์ผ่านดาวเทียมที่รับข่าวสารได้จากทั่วโลก
โทรทัศน์ผ่านอินเตอร์เน็ต อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง สื่อสังคม Twitter,
Facebook, Line ฯลฯ
No comments:
Post a Comment