คำคมทักษิณ – อย่าแบกเรือขึ้นเขา
Keywords: การเมือง, การปกครอง, 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2553, ความขัดแย้ง, อภัยโทษ, Redshirts,
คนเสื้อแดง, พรรคเพื่อไทย, พรรคประชาธิปัตย์, ทักษิณ ชินวัตร,
ภาพ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นศูนย์กลางของความขัดแย้งในบ้านเมืองยาวนานกว่า 6 ปีที่ผ่านมา
จากการโฟนอินเข้ามาของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร
มายังการชุมนุมที่บริเวณราชประสงค์ในวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
อันเป็นวันครบรอบ 2 ปีของการสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง
ในวันนั้น ทักษิณ ชินวัตร กล่าวเป็นทำนองว่า การชุมนุมรณรงค์ทางการเมืองของคนเสื้อแดงควรจะยุติได้แล้ว
ทุกฝ่ายต้องอดทน และเข้ามาปรองดองต่อกัน และบอกแก่คนเสื้อแดงว่า
การชุมนุมครั้งนี้จะเป็นการชุมนุมครั้งสุดท้าย
สันตะวา เขียนใน Blog ว่า
ผ่าน มา 5 วัน
ประโยค เรือส่งถึงฝั่ง จากปาก ทักษิณ ชินวัตร ยังทำอากาศแปรปรวน คลื่นลมปั่นป่วน
บ.ก.ลายจุด-สมบัติ บุญงามอนงค์ แดงก้าวหน้า ระบายออกมาดังๆ 'เสื้อแดงกำลังจะป่วยเป็นโรคเบื่อทักษิณ'....
แดงฮาร์ดคอร์ ใจ อึ๊งภากรณ์ ก็แถลงการณ์จากอังกฤษ 'คนเสื้อแดงไม่ได้ออกมาสู้กับทหาร และประชาธิปัตย์ เพื่อทักษิณ' 'เขาออกมาสู้เพื่อให้ตนเองดำรงอยู่ในสังคมที่มีความเป็นธรรม
ทั้งทางเศรษฐกิจ และทางกฎหมาย... ต้องการที่จะมี 'ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์'
แทนการเป็น 'ไพร่'.... เมื่อ
เสี่ยแม้ว แบไต๋แบบนี้ ถือเป็นข่าวดี ระดับแห่งปี ของ ขบวนการเสื้อแดง
จากนี้จะได้ก้าวข้ามตัวบุคคลเดินหน้าสู่จุดหมายแท้จริง ด้วยความรู้ ภูมิปัญญา
ประสบการณ์ ของแกนนำ กับอุดมการณ์ ความมุ่งมั่น ตั้งใจ ของมวลชน ไปถึงแน่ ....
หากอ่านแล้ว ก็คงจะแปลความได้ว่า
การอย่าแบกเรือขึ้นเขาของคุณทักษิณ คือ การบอกคนเสื้อแดงว่า
อย่าไปกระทำการใดๆให้เหนื่อยในช่วงนี้ หน้าที่ของคนเสื้อแดงหมดแล้ว ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลและรัฐสภา
ซึ่งก็ครองอำนาจโดยพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลอย่างผูกขาด
ฟังดูแล้วไม่เป็นเรื่องน่าแปลกใจ
เพราะการชุมนุมของคนเสื้อแดงในบริเวณราชประสงค์
เท่ากับเป็นการช่วยพรรคฝ่ายตรงกันข้ามในทางอ้อม
เป็นการสร้างความไม่พอใจให้กับคนชั้นกลางในกรุงเทพฯ ผู้ประกอบธุรกิจ คนค้าขาย
และคนทำงานจำนวนหลายหมื่นคนในบริเวณย่านการค้าดังกล่าวต้องได้รับผลกระทบจากการชุมนุม
เป็นการสร้างความโกรธเกลียดให้กับคนใช้รถใช้ถนนที่ต้องมาติดขัดการจราจรในบริเวณย่านการค้าสำคัญของกรุงเทพฯนี้
คนที่เขาเกลียดพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ก็ยิ่งเกลียดชังหนักยิ่งขึ้นไปอีก
คุณทักษิณเองก็คงรู้ แต่กับคนเสื้อแดงซึ่งมีบุญคุณต่อพรรคเพื่อไทย
เป็นหัวหอกเสี่ยงเจ็บเสี่ยงตาย หากไม่มีคนเสื้อแดงเคลื่อนไหว
ประกอบกับการยืนอยู่เบื้องหลังของคุณทักษิณ ผลการเลือกตั้งในท้ายสุด อาจไม่ออกมาอย่างที่ปรากฏว่าพรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้ต่อพรรคเพื่อไทยอย่างยับเยิน
บทบาทแกนนำคนเสื้อแดงที่ออกมาสู้อย่างเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายในช่วงเวลาที่ผ่านมาเป็นประโยชน์ต่อทักษิณและพรรคพวกมาแล้วอย่างแน่นอน
แต่เวลาได้เปลี่ยนไปแล้ว
คุณทักษิณเป็นคนคิดไวและตัดสินใจไวแบบนักธุรกิจ
ไม่ชอบรอช้า การพูดตัดบทกับคนเสื้อแดงในวันดังกล่าวเป็นเรื่องที่เข้าใจได้สำหรับนักวิเคราะห์การเมืองทั้งหลาย
และคำสอนที่นำมาพูด “อย่าแบกเรือขึ้นเขา” หรืออย่าไปใช้ยานพาหนะผิดที่ผิดทาง
เพราะในช่วงต่อไปนี้ การใช้เรือไม่มีความจำเป็นแล้ว หรือเท่ากับบอกว่า บทบาทของคนเสื้อแดงที่ใช้ความรุนแรง
การคุกคามอย่างที่เคยกระทำมาในช่วงของการต่อสู้นั้นได้หมดความสำคัญลงแล้ว
และต่อไปนี้ คงต้องให้ฝ่ายอื่นๆเขาได้ทำหน้าที่ของเขาต่อไป
ส่วนคำว่าเขาหรือภูเขาของคุณทักษิณคืออะไร
มันคือความยากลำบากอีกแบบหนึ่ง เพราะการเรียกร้องให้มีการปรองดองของคุณทักษิณนั้น
มีฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยอยู่เป็นจำนวนมาก ผู้นำพรรคประชาธิปัตย์ คุณอภิสิทธิ์
เวชชาชีวะ สุเทพ เทือกสุบรรณ และฝ่ายพันธมิตรทั้งหลาย ต่างออกมาแสดงความเห็นตรงกันว่า
เขาไม่ต้องการรับการอภัยโทษ แต่ต้องการให้มีการสืบหาความเป็นจริง ปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมได้ทำหน้าที่ไป
ทำทุกอย่างให้กระจ่างก่อน และทุกฝ่ายต่างเห็นตรงกันว่า
การจะนิรโทษกรรมและมีการปรองดองนั้น จุดสำคัญคือการปรองดองเพื่อทักษิณ ชินวัตรเป็นเป้าหมายปลายทางหลัก
ส่วนเขาจะได้อะไรมากน้อยเพียงใด
ต้องไปทำความเข้าใจกับกฎหมายที่พยายามเร่งรีบให้ออกจากรัฐสภา
มันจะไม่ใช่เรื่องง่ายนักสำหรับคุณทักษิณ
มันเป็นเรื่องของการต้องเหนื่อยปีนขึ้นภูเขาสูงจริงๆ
และมันจะคุ้มหรือไม่สำหรับคุณทักษิณ พรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดง
ที่จะเสี่ยงดันทุรังทำสิ่งที่ฝืนความรู้สึกของผู้คน
No comments:
Post a Comment