Wednesday, August 1, 2012

ชมรมผู้นิยมเปลือยกาย (Nudism)


ชมรมผู้นิยมเปลือยกาย (Nudism)

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

ศึกษาและเรียบเรียงจาก Wikipedia, the free encyclopedia

Keywords: nude, nudity, nudism, naturism, การนิยมเปลือยกาย,

คนไทยเราจะยังนึกไม่ออกว่า ทำไมคนมีวัฒนธรรมชอบเปลือยกาย (Nude) เดินไปเดินมา หรือเล่นน้ำชายหาดโดยไม่ใส่เสื้อผ้า บางคนอาจคิดว่า เขาสติดีหรือเปล่าที่ทำอย่างนั้น ดังนั้นผู้เขียนจึงได้เข้าไปศึกษา เพื่อหาเหตุผลของการแสดงออกในลักษณะดังกล่าว

การนิยมเปลือยกาย มีคำใช้ในภาษาอังกฤษ Naturism โดยใช้คำนี้เป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1778 ในเบลเยี่ยมในส่วนที่พูดภาษาฝรั่งเศส โดย Jean Baptiste Luc Planchon (1734–1781) เพื่อเป็นหนทางในการส่งเสริมวิถีชีวิตที่เน้นธรรมชาติและสุขภาพ ซึ่งไม่คอยตรงกับความหมายแท้จริงของพฤติกรรมเปลือยกายที่เราได้เคยได้ยินมา แต่คำทีใช้มากกว่า คือคำว่า Nudism หรือการนิยมเปลือยกาย

คำจำกัดความนานาชาติที่ได้รับการยอมรับโดสภาสหพันธ์ส่งเสริมธรรมชาติ (the XIV Congress of the International Naturist Federation - Agde, France, 1974), คำว่า Naturism คือ

วิถีชีวิตที่กลมกลืนกับธรรมชาติ แสดงออกด้วยการเปลือยกาย (Social nudity) และลักษณะให้ความเคารพตนเองและในความแตกต่างของคนอื่นๆ ที่มีความคิดเห็นแตกต่างกันในสิ่งแวดล้อม

ภาพ การเปลือยกายในหาดที่สงวนบริเวณไว้สำหรับผูนิยมเปลือยกาย

ภาพ สระว่ายน้ำของชมรมนี้มีป้ายห้าม สุนัขเข้า ห้ามนำไอศกรีมมากิน ห้ามใส่เสื้อผ้าแม้แต่กางเกงว่ายน้ำ และต้องอาบน้ำก่อนลงสระ

ภาพ ชมรมเปลือยกาย กำลังสนุกสนานกับการเล่นน้ำในแอ่งน้ำ ภาพที่ถ่ายไว้เมื่อปี ค.ศ. 1947

ภาพ ภัตตาคารทางเลือกแต่งกาย (Clothing Optional Dinner)

ภัตตาคารแบบแปลกๆ แห่งนี้เรียกว่า "Clothing Optional Dinner" อยู่ในเมืองนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2005 อันหนาวเย็น เมื่อไปถึงภัตตาคาร ปกติเขาจะถอดผ้าพันคอ หมวก และเสื้อคลุม (Coats) ออก แต่วันนี้พิเศษ คนไปร้านอาหารนี้จะถอดทุกอย่างต่อไป เสื้อกันหนาวสเวตเตอร์ (Sweaters) , เสื้อเชิ้ต (shirts), กระโปรง (skirts), กางเกง (pants),

เสื้อยกทรง (underwear) ถอดออกหมดใส่ถุงพลาสติก แล้วฝากไว้ที่บาร์ ที่นี่ในวันนี้เป็นวันที่ชมรมผู้นิยมเปลือยกายมารวมตัวกันกว่า 30 คน รับประทานอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ (buffet) เลือกกินทุกอย่างได้เต็มที่ แต่ด้วยกฎระเบียบสาธารณสุขควบคุมร้านอาหาร พนักงานทุกคนต้องแต่งกายปกติ แขกที่มารับประทานเปลือยกายได้ แต่ต้องมีผ้ารองนั่ง จะเป็นผ้าขนหนู หรือผ้าพันคอของสตรีก็ได้ ที่นี่นอกเหนือจาก "คนนิยมเปลือยกาย" (Nudists) จะสงวนที่ชายหาดบางแห่งเอาไว้เป็นที่ตากแดดอาบลมแล้ว บางเวลาการรับประทานอาหาร เขาก็มีบรรยากาศแปลกๆแบบนี้เหมือนกัน - ภาพจาก Reuters

จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่เข้าใจชุมชนคนเปลือยกายเขามีความคิดอย่างไร เขาไม่ใช่คนเสียสติ หรือคนโง่ และเขาก็ไม่ได้ทำไปด้วยความอยากดัง เพราะเขาจะสงวนการเปลือยกายเฉพาะในส่วนของสมาคมนิยมเปลือยกายของเขา หากเราจะเข้าไปร่วม ก็แน่นอนต้องทำเหมือนคนอื่นๆ

ดังสุภาษิตที่ว่า “เขาเมืองตาหลิ่ว ก็หลิ่วตาตาม” หากเข้าไปอยู่ในกลุ่มของเขา ก็ปฏิบัติตามเขาไปก็แล้วกัน

No comments:

Post a Comment