เมื่อคุณเจ็บป่วย
ลองเลือกใช้บริการแพทย์ออนไลน์กับ Sherpaa
ศึกษาและเรียบเรียงจาก Time Techland: “The
Doctor Will Email You Now: Sherpaa Handles Healthcare Online” โดย
KEITH WAGSTAFF | @kwagstaff | July 31, 2012
Keywords: บริการสาธารณสุข, การแพทย์ยุคใหม่, healthcare, jay parkinson, sherpaa, Alt Tech, Health & Science,
Innovation, News, Starting Up, Techland Interviews
ภาพ นายแพทย์เจย์ พาร์คินสัน (Dr. Jay Parkinson)
คุณหมอเจย์ พาร์คินสัน (Dr. Jay
Parkinson) อายุ 36 ปี ในปี ค.ศ. 2007 เขาได้เริ่มการปฏิบัติวิชาชีพอย่างประหลาดในชุมชนวิลเลียมส์เบอร์ก
ในเขตบรูคลิน (Williamsburg, Brooklyn) ของมหานครนิวยอร์ค (New
York City – NYC) สหรัฐอเมริกา หากใครไปเที่ยวแถววิลเลียมเบอร์ก
ก็จะรู้ว่ามันเป็นย่านของศิลปินและคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ หมอพาร์คินสัน มีคนเรียกเขาว่า
“คุณหมอฮิปสเตอร์” (Hipster Doctor) เริ่องของเขาเป็นที่น่าสนใจ
และปรากฏในนิตยสารมีชื่อเสียงหลายเล่ม ทั้ง Esquire, Newsweek, Boston Globe และ Fast Company.
ภาพ ชุมชนวิลเลี่ยมส์เบอร์ก ในเขตบรูคลิน ไม่ห่างจากสะพาน Williamsburg นี้มากนัก
สิ่งที่ทำให้เขามีชื่อเสียงคือ
เขารับทำหน้าที่หมอที่ทำงานผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต พูดคุยกับคนไข้ผ่านทางอีเมล์และ
IM และรับการจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลผ่านทาง PenPal เขารับงานเยี่ยมตามบ้านเหมือนแพทย์สามัญประจำบ้านเช่นกัน
ในปัจจุบัน
เขากำลังเคลื่อนเข้าสู่การปฏิบัติวิชาชีพให้บริการสาธารณสุขผ่านทางร้านที่เขาตั้งขึ้น
ชื่อ Sherpaa โดยร่วมงานกับผู้ร่วมก่อตั้งอีกคนหนึ่ง ชื่อ เชอริล สเวอร์นาว (Cheryl
Swirnow) ผู้ซึ่งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
ได้ช่วยงานด้านทรัพยากรมนุษย์ให้กับบริษัทต่างๆที่เลือกและจัดการแผนบริการสุขภาพให้เหมาะแก่บริษัท
ความคิดของหมอพาร์คินสัน คือ การทำให้การติดต่อกัน
ระหว่างหมอที่เน้นเทคโนโลยี กับคนไข้ที่ก็เป็นพวกใช้เทคโนโลยีเช่นกัน เป็นเรื่องที่เป็นไปได้
ซึ่งตรงกันข้ามกับวิธีการที่ไม่มีประสิทธิภาพที่ปฏิบัติกันปัจจุบัน
เขายกตัวอย่างว่า สมมุติคนๆหนึ่ง ตื่นขึ้นมาแล้วคิดว่ามีปัญหาท่อปัสสาวะติดเชื้อ
(urinary tract infection) ประการแรกที่คนไข้จะต้องทำ คือโทรไปนัดหมายกับแพทย์
แล้วก็ขับรถไปคลินิกของแพทย์ พูดกับพนักงานต้อนรับ กรอกข้อความ
แล้วรอคิวร่วมกับผู้ป่วยอื่นๆสัก 10 คน แล้วไปพบพยาบาล
แล้วไปพบแพทย์ แล้วกลับมาพบพยาบาลอีกครั้ง แล้วพบกับพนักงานต้อนรับ แล้วก็รับใบสั่ง
แล้วไปร้านขายยาเพื่อซื้อยาตามใบสั่ง ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องพบคนประมาณ 15 คนที่มาเกี่ยวข้องโดยไม่จำเป็น
ผลก็คือเป็นการเสียเวลา ทั้งของผู้ป่วย
พนักงานต่างๆ แล้วทั้งหมดก็ไปรวมอยู่กับค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาล
ทำให้เสียผลิตภาพการทำงาน (productivity)
คนไข้เองก็ต้องลางาน องค์การ Sherpaa
มีหน้าที่ทำให้กระบวนการทั้งหมดใช้เงินและเวลาอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การทำงานบริการสุขภาพในแบบของ Sherpaa คนไข้ส่งอีเมล์ไปยังแพทย์ หรือโทรศัพท์หาแพทย์ แล้วแพทย์ก็จะใช้ iPhone
ติดต่อสื่อสารด้วย เสร็จแล้วก็สั่งใบสั่งยา (Prescription) ผ่านทางโปรแกรม Cipro ไปย้งเภสัชกร (Pharmacist)
ไม่มีการเรียกเก็บเงิน
เพราะมันเป็นบริการฟรีสำหรับพนักงานที่บริษัทมีข้อตกลงกับ Sherpaa
หากคนไข้มีบาดแผลที่น่าเกลียด
ให้ส่งภาพมาออนไลน์ แล้วหมอจะเขียนกลับไปว่าควรจะให้บริการนอกห้องฉุกเฉินหรือไม่
หากต้องมีการผ่าตัด เขาจะเตรียมการนัดหมายไปยังแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
แล้วหมอก็จะบอกกลับไปยังคนไข้ว่าจะรักษาตัวเองหรือเตรียมตัวรับการผ่าตัดอย่างไรในขณะนั้น
แนวคิดต้องการลดค่าใช้จ่ายในการที่แพทย์ต้องไปเยี่ยมผู้ป่วยโดยไม่จำเป็น
เป็นการช่วยบริษัทขนาดเล็กที่เพิ่งตั้งใหม่
ที่ไม่มีประสบการณ์ในการจัดการด้านบริการสุขภาพแก่พนักงาน ได้จัดการบริการให้กับพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะปัจจุบัน ลูกค้าของ Sherpaa เป็นบริษัททางด้านเทคโนโลยี
ซึ่งรวมถึงบริษัท Tumblr ที่ช่วยจัดการ Website ของหมอพาร์คินสัน ชื่อ own personal blog
ทั้งหมอพาร์คินสันและสเวอร์นาวเน้นว่าสิ่งที่เขาทำนี้ไม่ใช่เป็นการจัดตั้ง
“ศูนย์บริการโทรศัพท์เพื่อสุขภาพ” Sherpaa
จะทำงานกับธุรกิจที่อยู่ในเมืองนิวยอร์ค และแพทย์แต่ละคนก็มีคนไข้ในความรับผิดชอบประมาณ
1,500 คน
ซึ่งเป็นระดับเดียวกับจำนวนคนไข้ต่อแพทย์สามัญประจำบ้าน (General
practitioner) ทั่วไป ในระยะต่อไป Sherpaa
จะขยายบริการไปยังเมืองอื่นๆ
แล้วจะพัฒนาโปรแกรมส่งสารที่จะช่วยจัดการการสนทนาระหว่างแพทย์กับคนไข้ได้ดีขึ้น
ในสหรัฐอเมริการะบบบริการสาธารณสุขมูลฐานกำลังขาดแคลนแพทย์
ซึ่งนี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอุตสาหกรรมบริการสุขภาพในแบบของหมอพาร์คินสัน
เพราะนักศึกษาแพทย์แต่ละคนกว่าจะเรียนจบจากโรงเรียนแพทย์
ต้องใช้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาถึง $100,000 หรือประมาณ 3
ล้านบาทไทย หมอหนุ่มๆจึงเลือกที่จะเชี่ยวชาญทางแพทย์โรคหัวใจ (Cardiologists)
และแพทย์ศัลยกรรมกระดูก (Orthopedic surgeons)
เป็นต้น แทนที่จะมาทำหน้าที่เป็นแพทย์ประจำบ้าน
เพราะแพทย์ประจำบ้านนั้นมีรายได้น้อยที่สุดในบรรดาแพทย์ทั้งหลาย
ระบบบริการสุขภาพในอนาคตนั้นจะเป็นเรื่องของผู้เชี่ยวชาญมาก
และท่านก็ต้องการคนที่จะทำหน้าที่ประสานเรื่องต่างๆ
และให้บริการทางการแพทย์ในขั้นเบื้องต้น ซึ่งทั้งหมดเคยเป็นงานของแพทย์ประจำบ้าน (General
practitioners)
Sherpaa หวังจะทำงานในช่องว่างนี้
และเป็นบริการที่รวดเร็ว ลดเวลาให้บริการส่วนตัวและลดเวลาที่คนไข้ต้องเสียเวลาทำงานไป
ส่วนเรื่องว่าจะมีแพทย์มารับความคิดนี้ไปมากน้อยเพียงใดนั้นเป็นเรื่องที่ต้องอภิปรายกัน
แต่สำหรับแพทย์ที่ต้องการทำงานที่บ้าน
ที่ต้องการใช้เวลาทำหน้าที่เป็นพ่อแม่ให้มากขึ้น ก็จะเลือกวิธีการปฏิบัติวิชาชีพออนไลน์นี้ได้มากขึ้น
No comments:
Post a Comment